เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ลืมตาในความเศร้าtan_fx
เนื้อคู่
  • หัวค่ำ ยังไม่ทันเห็นดาว

    "อกหักอีกแล้วว่ะแม่ง"

    "อีกแล้วเหรอ"

    "คราวนี้ของจริง เนี่ย ไม่ได้คุยกันมาสามวันแล้ว"

    "อ่าว แล้วคราวก่อนๆ หน้านั้นคือ..."

    "ก็เลิกกันไง แต่มันยังเลิกไม่ขาด"

    "แล้วคราวนี้ขาดจริงๆ แล้วรึไง"

     "เออดิ ขาดแล้วจริงๆ บล็อคหมดแล้ว ทั้งเฟส ไลน์ ไอจี"

    "อืม"

    "เมื่อไหร่จะเจอเนื้อคู่จริงๆ สักทีวะ เบื่อแล้วเนี่ย รักๆ เลิกๆ ขี้เกียจมานั่งทำความรู้จักกันใหม่แล้ว"

    "จะรีบเจอไปไหน อายุก็ไม่เท่าไหร่เอง"

    "อีกไม่กี่ปีฉันก็จะ 30 แล้วนะเว้ย ไม่เจอตอนนี้ จะให้ไปเจอตอนไหนวะ"

    "เดี๋ยวมันจะเจอมันก็เจอเองแหละ"

    "แกก็พูดได้ดิ แกเป็นผู้ชาย จะมีแฟน จะแต่งงานเมื่อไหร่มันก็ไม่น่าเกลียด"

    "ไม่เกี่ยวดิ"

    "ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ฉันอยากแต่งงานตอนที่ฉันยังสวยอยู่นี่"

    "อ่ะ สมมติเลยนะ ว่าแบบ ตื่นมาพรุ่งนี้แกเจอเนื้อคู่เลย แบบคนนี้ใช่เลยอ่ะ แกจะทำยังไง"

    "ก็ดีใจดิ ถามโง่ๆ แล้วก็จะดูแลรักษาเขาไว้ให้ดีที่สุด"

    "แกว่าแกจะรักษาคนๆ นั้นไปได้ตลอดชีวิตเลยเหรอ"

    "ได้ดิ อย่ามาดูถูกกัน"

    "ไม่ใช่อย่างงั้น ไม่ได้ดูถูก แต่ว่าแบบ เราก็เพิ่งอายุแค่นี้ ประสบการณ์แค่นี้ เรามีความพร้อมจะเจอเนื้อคู่แล้วจริงๆ เหรอ แบบ ถ้าเกิดตื่นมาแล้วได้เจอเลยอ่ะ เรามีความพร้อมมากพอที่จะรักษาเขาไว้ได้จนตลอดรอดฝั่งเหรอ"

    "ไม่รู้แหละ แต่เจอเร็วก็ดีกว่าเจอช้ามั้ยล่ะ อีกอย่างนะ ฉันก็จะพยายามให้ดีที่สุดแหละ"

    "อย่างหลังฉันเข้าใจนะเว้ย แต่เรื่องเจอเร็วดีกว่าเจอช้ามั้ย อันนี้ฉันไม่รู้หว่ะ"

    "เจอเร็วมันจะไม่ดีตรงไหนอ่ะ"

    "ก็ไม่ใช่ไม่ดี แต่ฉันว่าเจอตอนที่เราพร้อมอ่ะดีที่สุด แบบ มีความพร้อมมากพอที่จะรักษาเขาไว้ได้
    ตลอดชีวิตอ่ะ นึกออกใช่มั้ย"

    "คือยังไง ถ้าเป็นเนื้อคู่มันก็คือเกิดมาคู่กันเลยไม่ใช่เหรอ"

    "ฉันว่ามันไม่น่าจะง่ายขนาดนั้นอ่ะ ฉันว่าเนื้อคู่หรือไม่เนื้อคู่ ความสัมพันธ์มันเป็นอะไรที่ต้องใช้ความพยายามประคับประคองตลอดเวลา ปรับเข้าหากัน หาพื้นที่ตรงกลางที่ต่างตนต่างสบายใจ พร้อมที่จะเข้าใจและให้อภัยกัน มีความสุขที่ได้เห็นอีกฝ่ายมีความสุข และในขณะเดียวกัน ทั้งเราและเขาก็ต้องไม่เสียความเป็นตัวเองด้วยอ่ะ"

    "โห พูดซะยากเชียว"

    "ก็นี่ชีวิตจริง ไม่ใช่หนังนี่หว่า ที่อะไรๆ มันจะง่ายไปหมด หนังมันตัดจบแค่แฮปปี้เอนดิ้งตลอดแหละ มันไม่ฉายให้เราดูนี่ว่าได้สมหวังกันแล้วจะอยู่กันได้อย่างมีความสุขทุกวันจนแก่มั้ย ระหว่างทางทะเลาะอะไรกันบ้าง ต้องปรับตัวเข้าหากันขนาดไหน ถูกป๊ะ"

    "เออ อันนี้แกก็พูดถูก แต่มันก็มีเคสแบบที่เจอกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้วได้อยู่ด้วยกันจนแก่เลยเยอะแยะ น่าอิจฉาจะตาย แก่แล้วยังรักกัน ยังกระหนุงกระหนิงกัน ชวนกันไปเดินห้าง อะไรเงี้ย"

    "มันก็มีไง แต่แกก็รู้เท่าที่แกเห็นถูกมั้ยล่ะ แกไม่รู้นี่ว่าระหว่างทาง ตายายสองคนนี้เขาต้องพยายามอะไรด้วยกันมาบ้าง ทะเลาะกันมากี่หนแล้ว ปรับตัวกันมากี่อย่าง ให้อภัยกันมากี่เรื่อง กว่าจะมาถึงจุดที่แกเห็นอ่ะ"

    "ค่า คุณพ่อ"

    "อ้าว อย่ากวนตีนสิ"

    "ฉันก็แค่อยากมีความรักดีๆ บ้างก็แค่นั้นแหละ ทำไมมันจะต้องยุ่งยากด้วย"

    "เออ ฉันเข้าใจเว้ย แต่อกหักก็ดีนะ แกจะได้มีเวลาทบทวนไง ว่ามีอะไรบ้างที่เราชอบ เราไม่ชอบ เราต้องการอะไร ต้องปรับปรุงตรงไหน อะไรเงี้ย ถึงเวลาเจอเนื้อคู่เข้าจริงๆ แกจะได้พร้อมรักษาเขาไว้ตลอดชีวิต"

    "แหม พ่อคนเก่ง พูดอย่างกับตัวเองทำได้แล้วงั้นอ่ะ"

    "ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ อยู่"

    "หึ แกไม่ได้อกหักนี่ แกจะไปเดือดร้อนอะไร"

    "ป่ะๆ เดี๋ยวเลี้ยงเบียร์ย้อมใจ เอาป๊ะ"

    "แบบนี้ค่อยน่าคบหน่อย"

    "แต่ไม่เอาเบียร์นอกนะ แม่งแพง"

    "ของไทยก็ได้ คราฟท์เบียร์ๆ"

    "กวนตีนละ"

    ผมไม่เคยอยากเห็นเธอเสียใจ

    แล้วเธอเองก็ไม่เคยรู้ด้วยว่า ที่ผมพยายามเรียนรู้ พยายามปรับตัวอยู่ก็เผื่อว่าวันนึงเธอมีใจให้ผมบ้าง ผมจะได้มีความพร้อมมากพอที่จะรักษาเธอไว้ได้นานๆ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in