เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อฉันได้ไปฝึกงานที่เวียดนาม 2016ploypolylo
ทริป...(มั้ง)(1)
  •              ห่างหายกันไปนานนนนน ถึง 9 วันเต็ม หลังปีใหม่ งานยุ่งมาก เพื่อนทักแชทมาถามว่าเมื่อไหร่จะมาเขียนต่อ แวะกลับมาเข้าเว็บ โห คนมาอ่าน 300 view แล้วเหรอเนี่ย แอบดีใจ อยากแนะนำแสดงความคิดเห็นมาได้เลยนะ เราอ่านและตอบทุกความคิดเห็นเลยละ 

                วันที่ 23-25 มีนาคม 2019(ปีที่เขียน) เราจะไปเวียดนาม แต่เป็นโฮจิมินห์ ไว้เราจะมาเขียนทริป รีวิว ราคา การเดินทาง จะทำแบบละเอียดเลย อ๊ะ พูดแล้วนึกขึ้นได้ วันที่ 23-25 มีนาคม 2018(ปีที่แล้ว) เราไปเที่ยวสิงคโปร์มา ถ่ายรูปมาเยอะอยู่ ไว้จะมารีวิวนะ 

               จากบทที่แล้ว เกริ่นไว้ว่าจะมาเล่าเรื่องทริปเที่ยวครั้งแรกใช่ไหมคะ จากนี้จะขอเชิญทุกท่านเข้าสู่การท่องเที่ยวแบบเมากาวของเราสามคน และคนนำเที่ยว(มั้ง) เป็นทริปที่คาดเดาอะไรไม่ค่อยได้ ดิน ฟ้า อากาศ แม้กระทั่งร้านอาหาร 


                 เนื่องจากช่วงกลางคืนก่อนวันเที่ยว พวกเรามีงานที่ต้องเลี้ยงส่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นกลับประเทศ งานเลี้ยงอำลาก็สนุกสนาน แลกข้อมูลไว้ติดต่อกันแบบจะไม่ลืมกัน อย่าลืมกันน้าาา ตอนนี้จำได้แค่รูมเมทตัวเองจ้า คนอื่นลืมชื่อไปหมดแล้ว พื้นที่ความจำเราน้อย ฮ่าๆๆๆ
    ( แอบเศร้าเบาๆ เพราะมีคนนึงหล่อมาก โอ่ยยย) 


                ตัดภาพมายามเช้า แมค(เพื่อนชาวเวียดนาม และไกด์นำเที่ยวเฉพาะกิจ) จึงขอนัดพวกเรา ช่วงบ่าย 2 ใช่คะ บ่าย 2 ตอนนั้นเราสามคนก็แบบ What? บ่าย 2 จะมีอะไรฟร๊ะ พอบ่ายสองเราสามคนก็ลงมารอ ไม่เห็นแมค ตัดสินใจโทรไป นางเพิ่งตื่น โอ้โฮประทับใจเวอร์ ทริปแรกของฉัน แต่ก็พยายามมองข้ามมันไปเพราะเที่ยวฟรี เป็นสวัสดิการของทางสถาบันเวียดนาม 

    รูปเยอะมากเราจะเล่าประกอบรูปไปเลยนะคะ

            เรานั่งแท็คซี่มาและลงฝั่งตรงข้ามที่เป็นสวนสาธารณะ ข้ามถนนมา จะเห็นเสาสี่ต้นเราไม่ทราบจริงๆว่าเขียนว่าอะไร ต้องขอโทษด้วยนะคะ 


                                        เมื่อข้ามมาแล้ว จะเห็นเป็นวิวนี้จ้า  ขออภัยที่รูปเอียง ฮ่าๆๆ


    "วิหารวรรณกรรม" หรือในภาษาเวียดนามอ่านว่า วันเหมียว ( Văn Miếu ) 

             สร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนของพวกขุนนาง และยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียดนาม และยังเป็นสถานที่ใช้สอบจอหงวนในสมัยโบราณ ชื่อ (Quốc Tử Giám) กว็อกตื๋อเกี๋ยม ตามชื่อเดียวกับถนน ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกว็อกช็อกเวียน (Quốc học viện)  ค่าเข้า 15,000 VND = 20 - 21 บาท


          บริเวณโดยรอบมีบ่อน้ำ และต้นไม้ใหญ่เขียวขจี ศาลเทพเจ้าขงจื้อ ซึ่งมีการวางแผนผังมาอย่างดี 

    เราจำไม่ได้ว่าแมคอธิบายว่าอะไร เพราะมัวแต่มองฝรั่งอยู่(หล่อมาก กรี๊ด) แต่ถ่ายรูปมา คล้ายๆป้ายอะไรสักอย่างอยู่บนหลังเต่า แมคบอกว่าเต่าเป็นสัตว์มงคลจำได้เท่านี้จริงๆ ขอโทษจริงๆจ้า   

            วันที่เราไป โชคดีมากเจอนักศึกษาที่เรียนจบมาถ่ายรูปรับปริญญา ชุดข้างในสีขาวเป็นชุด อ๊าวหย่าย (áo dài) ชุดประจำชาติเวียดนาม

              ภายในวิหารจะมีแผ่นหินจารึกชื่อจอหงวน ซึ่งปัจจุบันได้เป็นวัดที่นักเรียนนักศึกษาชาวเวียดนามมักจะมามาขอพรในการสอบ 

    เมื่อเดินเข้าประตูมา จะเจอกับลานกว้าง มีเก้าอี้เล็กๆให้ผู้ที่เข้ามาชมสถานที่ได้ฟังการบรรยายเกี่ยวกับสถานที่นี้ ภาพนี้คนชุดก่อนเขาฟังเรียบร้อยแล้ว เลยเข้าไปยืนฟังมัคคุเทศก์อธิบายในศาลา ก็จะเห็นเก้าอี้ว่างๆ พวกเราคือชุดต่อไปที่จะไปนั่งฟัง
    มัคคุเทศก์อธิบาย ด้วยภาษาเวียดนาม เสียงเพราะจังเลยคะ สวยด้วย แมคอธิบายเป็นภาษาอังกฤษว่าที่นี่คือที่สำหรับสอบ บลาๆๆที่เราอธิบายไว้ด้านบน ไม่อธิบายแล้วจ้า ย้อนไปอ่านต้นโพสเลยจ้าาาาาาาาาา 

    เสร็จปุ๊ปก็เดินเข้าไปในศาลาตอนนี้มัคคุเทศก์เริ่มสวดอะไรสักอย่างเราเองไม่เข้าใจนิดหน่อยแต่งงมาก แมคก็อธิบายแต่ไม่รู้เรื่องเลยคะ เสียงไมค์ที่สวดมนต์ดังมากจนไม่ได้ยินเสียงแมค ทั้งศาลาพนมมือ เราก็พนมมือตาม เนียนๆกันไป 

    เมื่อเดินทะลุเข้าไปอีกก็จะเป็นคล้ายๆสถานที่บูชาเทพเจ้า ประทับใจของไหว้มากคะ ความช็อคโกพายนี้

    หลังจากนั้นพวกเราก็เดินชมรอบๆสถานที่ ร่มรื่นชื่นใจสุดๆ ไม่มีแดด เดินเพลินมากคะ

    เจอกลองยักษ์ซึ่งตอนนี้ลืมไปแล้วคะว่าแมคอธิบายว่าอะไร เราคิดไปเองว่า น่าจะไว้ตีให้สัญญาณบางอย่างเช่น ตีเริ่มสอบ อะไรประมาณนั้นมั้งคะ 

    จุดนี้เป็นด้านนอกของบ้านขุนนางด้านในคะ รูปด้านในที่ถ่ายมา ไม่ชัดเลย เอาไว้ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวอีกจะไปถ่ายมาให้ใหม่นะคะ ตั้งใจจะไปอีกรอบ ขอหาวันว่างแปปนึง

       ออกมาด้านนอก ก็พบร้านขายของที่ระลึก เขาห้ามถ่ายอะคะ เพราะงั้น เอารูปข้างๆร้านไปก่อนนะคะ 


    หลังจากที่เดินทั่วแล้ว เราก็รู้สึกหิวข้าว ย้ำว่าหิวข้าว ตอนนั้นน่าจะ 4 โมงเย็นแล้วแมคเลยเสนอร้านดีๆ ชิคๆ ซึ่งก็คือ ร้านค่าเฟ่ ..... ก็บอกว่าหิวข้าววววววววววววววว จิตใจโวยวายต่อต้าน แต่ก็เดินตามเข้าไป 

    ร้านน่ารัก มีเค้กมากมาย 

    แต่เราพ่ายแพ้ให้กับ โตโตโร่ (Totoro) มันน่ารักเนอะ แต่ไม่อร่อยเลย มันคือเค้กถั่วอ่ะ สีเทาๆนั่นคืองาดำนะ เรากินไม่หมดด้วยอ่ะ แพงมาก ทุกวันนี้นึกแล้วยังเสียดาย อ่อ ในแก้วคือ โกโก้นะ 

                     เขียนเยอะจังเลยแฮะ พอก่อนดีกว่าเนอะ ตอนแรกเราจะเล่าต่อจนจบนะ แต่รู้สึกว่ามันเริ่มยาวไปหน่อย งั้นแยกเป็นสองตอนละกัน ตอนหน้าเราจะพาทุกคนออกจากร้าน ไปหาข้าวกินกันจริงๆละ สถานที่สุดโรแมนติก การโดนแม่ค้าหลอก(ตอนแรกจะเขียนแต่มันจะยาว ฮ่าๆๆ) และ กาแฟที่เราอคติ!!

    ติดตามได้ใน "เมื่อฉันได้ไปฝึกงานที่เวียดนาม 2016" Chapter "ทริป...(มั้ง)(2)"


    ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ 
    คอมเม้นต์กันได้นะ เหงาเหลือเกิน อยากคุยกับผู้อ่านคะ ชอบไม่ชอบยังไงบอกได้นะ เอื้ออออออออออออ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in