เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#vkandoitbunchoux
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน Top
  • Top

    taehyung x jungkook

    nc


    ดวงอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้าและในเวลาแบบนี้ไม่ควรที่จะมีใครหลงเหลืออยู่ในบริเวณโรงเรียนแล้ว เว้นแต่นั่นไม่ใช่สำหรับกลุ่มเด็กหนุ่มที่กำลังใช้พื้นที่หลังโรงยิมในการชกต่อยกัน

    เสียงหมัดกระทบเนื้อ หรือแรงอัดกระแทกจากหน้าแข้งสู่กลางลำตัวดังอยู่ไม่ขาดสาย ร้องครวญครางอย่างน่าเวทนาเมื่อเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้นให้คู่อริกระทืบซ้ำจนสาแก่ใจ

    “แม่งเอ้ย! ไอ้แทฮยองวิ่งหนีไปแล้ว”

    หนึ่งเสียงตะโกนขึ้นมาท่ามกลางความชุลมุน

    รองเท้าผ้าใบราคาแพงถีบเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงจนอีกฝ่ายหมดสติ “กูตามเอง”

    จอนจองกุกวิ่งตามหัวโจกของคู่อริไป

    เด็กหนุ่มรู้ดีว่าอีกคนจะวิ่งไปทางไหน

    ซอยข้างหลังโรงเรียนเงียบสงัด ไร้คนพลุกพล่าน ย่างก้าวไปตามเส้นทางเรื่อย ๆ พลางสอดส่องไปรอบ ๆ เพื่อนมองหาตัวอีกฝ่าย

    แรงกระชากส่งให้จองกุกสูญเสียการทรงตัวและถลาไปตามแรงนั้นเข้าไปในตรอกที่แสงจากเสาไฟข้างทางสาดเข้ามาได้เพียงเล็กน้อย มือตะปบเข้าที่คอเสื้ออีกฝ่ายทันทีตามสัญชาตญาณ

    ต่างฝ่ายต่างแลกลมหายใจอุ่นร้อนโดยที่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา จองกุกสบตากับคนตรงหน้า ดวงตาคมกริบราวกับใบมีด ดูคล้ายเหมือนมันกำลังกรีดเสื้อผ้าบนเนื้อตัวเขาออกอย่างช้า ๆ

    คิมแทฮยองยกยิ้มที่มุมปากเมื่อรับรู้ได้ว่าแรงตรงปกเสื้อเริ่มอ่อนลง

    แลบปลายลิ้นไล้เลียริมฝีปากแห้งผากรวมไปถึงแผลสดที่มุมปาก

    ดวงตากลมของเด็กหนุ่มตรงหน้าวูบไหวไปมาต่างกับท่าทีขึงขังที่ปฏิบัติกับเขาอยู่ตอนนี้

    “ไม่เห็นจะเก่งเหมือนก่อนหน้านี้เลยนะ”

    อดไม่ได้ที่จะแหย่เล่นเสียหน่อย

    “ปากดี”

    สิ้นคำ ริมฝีปากหยักสีอ่อนตรงหน้าก็ตรงเข้ามาทาบทับลงตรงอวัยวะเดียวกัน รุนแรงและดุดันอย่างที่จอนจองกุกเป็น

    กระชากคอเสื้อเพื่อให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้มากขึ้น บดเบียดริมฝีปากเข้าหาโดยไม่สนใจแผลที่มุมปากของแทฮยองเลยแม้แต่น้อย

    แน่นอนล่ะว่าเจ็บ แต่คนอย่างแทฮยองใจดีพอจะให้กระต่ายดุตรงหน้าทำทุกอย่างดังที่ใจต้องการ

    ไม่น่าให้กินของหวานเยอะเลย...

    เด็กหนุ่มเริ่มเป็นฝ่ายขยับริมฝีปากตอบโต้ ใช้มือกดท้ายทอยอีกคนเอาไว้ ค่อย ๆ กลืนกินริมฝีปากบางตรงหน้า รสชาติของสนิมปะปนไปกับน้ำลาย ดูดดุนและขบเม้มเสียจนจองกุกมีท่าทีอ่อนลง ดวงตากลมปรือปรอยรองรับจูบจากเขา

    ดันร่างกายอีกฝ่ายชิดกับผนังตึก ชายเสื้อนักเรียนถูกร่นขึ้นมาเหนือเอวคอด เคล้นคลึงปลายนิ้วอยู่ตรงนั้นอย่างพึงใจ แนบร่างกายทุกสัดส่วนเข้าหาอีกคน ไร้ช่องว่าง ความร้อนจากร่างกายของเด็กหนุ่มตรงหน้าเผื่อแผ่มาถึงเขา

    ผละริมฝีปากออก เงี่ยหูฟังเสียงหอบหายใจที่เล็ดลอดออกมาจากกลีบปากบางแต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งอยู่แถวนี้แทน

    “เพื่อนมึงมาตามแล้ว” แทฮยองเอ่ยขึ้นมาก่อนจะใช้แขนทั้งสองข้างโอบรอบเอวคอดและดึงรั้งเข้ามาชิดตัว ฝังปลายจมูกโด่งลงบนแก้มขาวไร้ร่องรอยจากการชกต่อยเมื่อครู่

    มีแรงขัดขืนเกิดขึ้นเล็กน้อย คิ้วเข้มสองข้างขมวดเข้าหากัน ดวงตากลมหลุกหลิกไปมาพลางส่งสายตาตำหนิไปให้แทฮยองที่กอดเขาไม่ยอมปล่อยอยู่อย่างนี้

    “ปล่อยสิวะ”

    ตะคอกแบบไร้เสียง แน่นอนล่ะว่าคิมแทฮยองไม่สนใจ แนบทั้งริมฝีปากและปลายจมูกลงบนแก้มขาวนวลซ้ำ ๆ อย่างไม่รู้จักพอ

    ไม่มีใครรู้และไม่มีทางที่ใครหน้าไหนจะได้รู้ว่าแก้มทั้งสองข้างของไอ้หัวโจกช่างต่อยตีกับชาวบ้านตรงหน้านี่จะนิ่มและมักมีกลิ่นหอมกรุ่นอยู่เสมอ

    “ถ้าพวกมันมาเห็นจะทำไง”

    “ก็ช่างมัน” กดจูบลงแก้มนวลอีกครั้ง คลอเคลียอยู่อย่างนั้นไม่ยอมห่าง และสุดท้ายจองกุกก็ถอนหายใจก่อนจะร้องขออีกฝ่าย

    “กูขอล่ะ ให้พวกนั้นเห็นไม่ได้”

    “อือฮึ”

    “แทฮยอง” น้ำเสียงที่อ่อนลงจนคนฟังรู้สึกได้ทำให้ริมฝีปากหนาเผยรอยยิ้มออกมา หอมแก้มฟอดใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายและกดจูบริมฝีปากเน้น ๆ

    “ครั้งต่อไปกูเลือกที่เอง”

    ยังไม่ทันที่จะมีเสียงก่นด่าใด ๆ เล็ดลอดออกมา แทฮยองก็กดจูบลงไปอีกครั้ง “นะครับ” ก่อนจะส่งยิ้มให้และวิ่งหายไปในความมืด

    ให้มันเลือกที่ทำแต่ละครั้งไม่เคยจะได้ที่ดี ๆ เลยให้ตายเถอะ เพราะอย่างนั้นเขาถึงหัวเสียอยู่อย่างนี้ไง

    จองกุกเดินออกมาจากตรอกแคบ ๆ ด้วยอาการหงุดหงิด นั่นทำให้เพื่อนของเขาเข้าใจว่าตัวเขาคงตามหาแทฮยองไม่เจอ ทำได้แค่เออออไปในเมื่อบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้คนพวกนี้รู้ไม่ได้

    การที่อยู่สูงกว่าคนพวกนี้ ยิ่งสูงมากเท่าไหร่ หากวันหนึ่งตกลงมามันยิ่งถูกเหยียบซ้ำให้จมมากเท่านั้น

    ปกปิดไปได้นานเท่าไหร่ ย่อมเป็นผลดีต่อเขาอย่างแน่นอน



    ผ้าขนหนูผืนเล็กวางพาดไว้บนผมเปียกชื้น ขยำเบา ๆ เพื่อซับน้ำออก จองกุกเพิ่งได้อาบน้ำหลังการซ้อมฟุตบอล เขาไม่ชอบที่ต้องเข้าห้องน้ำพร้อมกับคนเยอะ ๆ แม้จะเป็นห้องน้ำเดี่ยวก็ตามที อย่างนั้นแล้วจึงรอจนเพื่อนในทีมอาบกันจนเสร็จและกลับกันไปก่อน

    ปิดตู้ล็อคเกอร์เมื่อเก็บของทุกอย่างเสร็จก่อนจะสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อหันหลังกลับมาเจอใบหน้าคุ้นตายืนประชิดตัวอยู่

    “มาทำอะไร” ถามไปด้วยความไม่ใยดีนัก พยายามเดินเลี่ยงออกไปอีกทางแต่กลับถูกรั้งตัวไว้ให้อยู่ที่เดิม

    “คิดถึง”

    “แล้ว”

    “มาทวงสัญญาด้วย”

    จองกุกกลอกตา

    เขาและแทฮยองเป็นคนรักกัน เรียกแบบนั้นได้จริง ๆ หรือเปล่ายังไม่แน่ใจนัก แต่ก็คงเรียกได้เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครปฏิเสธสถานะนี้

    แทฮยองเป็นคนตามจีบ แต่เซ็กส์มันเริ่มจากเขา อีกคนบอกแบบนั้น

    ไม่อยากยอมรับแต่เรื่องที่พูดมามันคือความจริง

    ทุกอย่างมาพร้อมข้อตกลงที่ว่าก่อนจบจากโรงเรียนนี้เรื่องของเราจะเป็นความลับ

    คิมแทฮยองทำตัวเป็นผู้กุมความลับที่ดีเสมอมาและจองกุกขอบคุณในข้อนั้นอยู่เสมอ

    ล่าสุดที่มีเรื่องชกต่อย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไร เพียงแต่มีคนตามตัว เขาก็ไป และเจออีกคนอยู่ที่นั่นด้วยเหมือนกัน

    มีกันอยู่ไม่กี่คนยังจะซ่าไปมีเรื่องกับคนอื่น ดีเท่าไหร่ที่วิ่งหนีออกมาได้

    “เอาที่นี่นะ”

    แทฮยองนั่งลงบนม้านั่งระหว่างตู้ล็อคเกอร์ทั้งสองฝั่ง

    “ไม่!” ต่อต้านเสียงแข็ง ถ้าทำที่นี่จริง ๆ อย่างไรเสียก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดี ความเสี่ยงมีมากเกินไป “ถ้าคนมาเห็นจะทำยังไง”

    รั้งแขนขาวที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดเข้ามาหาตัวจนอีกฝ่ายเกยอยู่บนตัก จองกุกเอนใบหน้าหนีเมื่อแทฮยองทำท่าจะยื่นจมูกเข้ามาหอมแก้มเขาอย่างที่ทำอยู่ประจำ

    “ไม่เห็นเป็นไร”

    “เป็นสิวะ”

    หงุดหงิดเล็กน้อย ถึงไม่ยอมให้หอมอย่างทุกครั้ง อีกคนชอบทำอะไรแบบนี้เสมอ อะไร ๆ ที่เสี่ยงเกินไป

    แทฮยองล็อคคอของคนที่อยู่บนตักและกดปลายจมูกลงแก้มขาวจนได้ จูบซับคลอเคลียอยู่อย่างนั้น

    ปากพูดอย่าง แต่ก็ไม่มีแรงขัดขืนอะไรสักนิด

    “มันน่าตื่นเต้นออก”

    จองกุกเงียบ

    นั่นไม่ใช่เรื่องที่ปฏิเสธได้

    แม้จะกลัวแค่ไหนแต่หัวใจกลับเต้นรัวเมื่อนึกไปถึงภาพตอนที่พวกเขาทั้งคู่ร่วมรักกันที่นี่ ความคิดลามกที่อยู่ในหัวทำให้เลือดสูบฉีดอย่างแรงเสียจนร้อนไปถึงใบหู

    กระดุมเสื้อนักเรียนที่เพิ่งกลัดเข้ากับรังดุมได้ไม่นานถูกปลายนิ้วเรียวสวยปลดออก ไม่ช้า ไม่เร็ว จังหวะของแทฮยองมักอยู่ตรงกลางเสมอ ดวงตากลมโตสบอยู่กับเจ้าของมือตลอดเวลา

    เมื่อครู่ยังปฏิเสธเสียงแข็ง มาตอนนี้สายตากลับเจือความเว้าวอนจากคนบนตักเร่งเร้าให้เขาทำอย่างที่ต้องการเสียที

    ฝ่ามืออุ่นร้อนลูบไล้ตามผิวกายขาว บีบเคล้นบางเบาพร้อมกับริมฝีปากหนาที่ฉกฉวยโอกาสดูดกลืนความชุ่มฉ่ำจากริมฝีปากบางตรงหน้า ขบเม้มกลีบบาง ไล้เลียด้วยความคลั่งไคล้ ปลายนิ้วเองก็เกลี่ยยอดอกไปมาไม่เว้น

    ลมหายใจร้อนรดข้างแก้มยิ่งช่วยเพิ่มความหวามไหว จองกุกไวต่อสัมผัสของเขาเสมอ ผิวกายขึ้นสีอ่อน ๆ ตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง ส่วนกลางลำตัวเริ่มอัดแน่นในกางเกงนักเรียน แทฮยองผละริมฝีปากออก จูบซับน้ำลายบนกลีบปากสวยและหอมแก้มกลมอย่างเช่นทุกครั้ง

    “เงียบเลย” หยอกเย้าพลางปลดหัวเข็มขัดของคนที่นอนเกยตักออก ได้รับสายตามองค้อนมาก่อนอีกคนจะใช้ริมฝีปากสีอ่อนคลอเคลียไปตามไรหนวดเขียวบนใบหน้าหล่อเหลา ตวัดแขนโอบรอบคอ เลื่อนริมฝีปากลงมาที่สันกราม ลำคอหนา ระดมจูบอย่างซุกซน ผ่อนลมหายใจช้า ๆ รดผิวเนื้อสีน้ำผึ้งอ่อน แม้แต่ส่วนที่อยู่ใต้ร่มผ้าอย่างบ่ากว้างก็ถูกกดจูบอย่างแผ่วเบา ปลายลิ้นเล็กตวัดเลียผ่านเสื้อนักเรียนจนเปียกชุ่ม

    สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมืออุ่นร้อนของแทฮยองกำรอบท่อนเนื้อที่เริ่มแข็งตัว รูดรั้งขึ้นลง ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยน้ำสีใสที่ไหลออกจากส่วนหัวทำให้การรูดแกนกายเกิดเสียงเฉอะแฉะน่าอาย ทั้งร่างสั่นระริกและเสียงครางเครือที่ออกมาจากริมฝีปากนั้นก็น่าอายไม่ต่างกัน

    แทฮยองแลบลิ้น ในไม่ช้าจองกุกก็ทำตาม นิ้วชี้ที่เปื้อนคราบน้ำหล่อลื่นวางลงบนลิ้นเล็กตรงหน้าก่อนที่ปลายลิ้นจะตวัดเลียอย่างรู้งาน ห่อลิ้นรูดรั้งเสียจนคราบหมดไป

    ไม่ต้องรอให้ออกคำสั่งใด ๆ ร่างของคนที่เคยอยู่บนตักบัดนี้เคลื่อนย้ายลงอยู่เบื้องล่าง ดวงตากลมใสฉ่ำด้วยหยาดน้ำจ้องมองสิ่งที่อยู่ภายใต้กางเกงสลับกับใบหน้าหล่อ ปลดเข็มขัดตรงหน้าทิ้ง เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นและทิ้งลมหายใจเป่ารดส่วนที่เริ่มดุนดันเนื้อผ้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด

    ซิปถูกรูดลงมาจนสุด ปลายนิ้วเรียวสวยนำพาท่อนเนื้อพ้นขอบชั้นใน ประคองขึ้นตรงหน้า

    จองกุกกลืนน้ำลาย

    ก่อนจะออกคำสั่งให้ปลายลิ้นตัวเองเริ่มทำหน้าที่ของมันอย่างช้า ๆ

    คับพองไปทั่วทั้งปากเกินกว่าจะครอบครองหมด ริมฝีปากสีแดงก่ำจากการเม้มมันแนบเข้ากับท่อนลำและปลายลิ้นที่ผลุบโผล่อยู่บ่อยครั้งยามรูดรั้งเข้าออก แทฮยองผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหนักแน่นและเชื่องช้า คำรามแผ่วเบาในลำคอเมื่อปากของอีกคนมอบความสุขให้กับเขาได้มากพอกับการสอดใส่เสียด้วยซ้ำ

    ถอนส่วนนั้นออกจากริมฝีปาก จับให้คนตรงหน้ายืนขึ้นเต็มความสูง รั้งเอาชั้นในและกางเกงสแล็คลงจนพ้นเรียวขายาว เหลือเพียงเชิ้ตไร้การกลัดกระดุมอยู่บนกายขาวเท่านั้น แทฮยองเคลื่อนใบหน้าเข้าหากล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างคนชอบออกกำลังกายที่อยู่ในระดับสายตาพอดี กดแนบริมฝีปากลงไป จูบคลอเคลียผิวเนื้อเนียนอย่างคลั่งไคล้ ฝากฝังร่องรอยความเป็นเจ้าของเอาไว้ สีขาวสะอาดแปดเปื้อนเพราะเขาอีกครั้ง

    ริมฝีปากหนาที่ยังคงหลอกล่อให้อีกคนเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี ปลายนิ้วเรียวสวยเช่นกัน สะกิดรอบจีบของปากทางอย่างแผ่วเบาก่อนจะสอดเข้าไปข้างใน ร้อนรุ่มและตื่นตัวอย่างเช่นทุกครั้ง จองกุกวาดแขนทั้งสองข้างโอบล้อมรอบลำคอหนา ยั้งกายยืนนิ่งเพื่อให้อีกคนขยายช่องทางให้มีสภาพพร้อมต่อการร่วมรัก

    ดันกายขาวให้ยืนชิดกับตู้ล็อคเกอร์ ส่งยิ้มให้หลังกดจูบที่แก้มขาวนวลก่อนจะพลิกตัวอีกฝ่ายให้หันหน้าเข้าหาล็อคเกอร์

    จองกุกใช้หลังมือรองใบหน้าตัวเองเอาไว้อย่างรู้งาน แทฮยองพรมจูบทั่วทั้งแผ่นหลังรวมไปถึงบ่ากว้างผ่านเสื้อเชิ้ตที่ยังคงค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น และปลายนิ้วเองก็ไม่ได้หยุดทำหน้าที่ของมัน นวดคลึง ขยับขยายให้มากพอที่จะรองรับตัวตนของให้เข้าไปได้แบบไม่ทรมานทั้งตัวเขาเองและคนที่ต้องรับมันด้วย

    ฝ่ามือกร้านรูดรั้งส่วนแข็งตึงของตัวเอง ตีมันเข้ากับก้นกลมสวยก่อนจะใช้มือแบะก้นข้างหนึ่งออกและทาบแกนกาดพาดผ่านรอยจีบสีแดงช้ำ ขยับแกนกายไปมาเสียดสีผ่านรูทวารบ่อยครั้งพอให้คนที่ยืนหันหลังอยู่ได้สะดุ้งเล็กน้อยจากการหยอกล้อในครั้งนี้

    “เขย่งปลายเท้าหน่อย”

    จองกุกทำตามอย่างว่าง่ายจนเมื่อนึกไปถึงสภาพตัวเองในตอนนี้ใบหน้าจึงเห่อแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เพราะเมื่อเขาเขย่งปลายเท้าขึ้นแบบนี้ยิ่งทำให้สะโพกโก่งโค้งเข้าหาอีกคนที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังมากกว่าเดิม

    สอดใส่เข้ามาโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว กายขาวสะดุ้งเฮือก ถือว่ายังใจดีที่หลังใส่เข้ามาแล้วแทฮยองยังคงไม่เคลื่อนไหวอะไร แช่ค้างอยู่อย่างเดิม

    เคลื่อนกายเข้าหาจนสุด ค้ำแขนไว้กับตู้ล็อคเกอร์มองดูส่วนตะกละตะกลามของอีกคนที่กำลังดูดกลืนของของเขา ร้อนรุ่ม ช่องทางเต้นตุบภายในรัดรึงรอบแกนกายของเขาได้เป็นอย่างดี

    “กินเก่งจังเลยนะ ไปหิวอะไรมา”

    ปลายนิ้วเรียวสวยกดคลึงรอบรูทวารที่แนบชิดอยู่กับท่อนเนื้อแข็งตึงของตน หยอกเย้าโดยสอดปลายนิ้วเข้าไปจนอีกคนสะท้านหอบเฮือกอย่างแรง แทฮยองยิ้มให้กับการตอบสนองอย่างน่ารักที่เป็นผลจากการสอดนิ้วเข้าไป จอนจองกุกยังคงน่าเอ็นดูอยู่เสมอ

    เสียงหัวเราะแผ่วเบาทำให้จองกุกหัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เด็กหนุ่มรักที่จะให้อีกฝ่ายเล่นกับร่างกายเขา อย่างนั้นแล้วจึงไม่เคยห้ามปรามใด ๆ เมื่อแทฮยองคิดอยากจะทำอะไรแปลก ๆ ขึ้นมา

    รสนิยมเรื่องเซ็กส์ของผู้ชายที่ยืนซ้อนข้างหลังเขาน่าชื่นชมเสียจนคนอย่างเขาคงไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไปง่าย ๆ และก็คงไม่มีทางปฏิเสธมันไปง่าย ๆ เช่นเดียวกัน

    มือทั้งสองข้างยึดเข้ากับเอวคอดก่อนจะเริ่มสาวสะโพกเข้าหา ในไม่ช้า จังหวะก็ร้อนแรงขึ้น ร่างกายของจองกุกสั่นสะท้านและเปียกชื้นด้วยเหงื่อ เรียวขาสั่นระริก ความเสียวมีมากเกินจะรับไหวจนเด็กหนุ่มต้องปลดปล่อยมันออกมาทางริมฝีปาก

    ครวญครางร้องขอมากยิ่งขึ้นไปอีก เหตุผลเดียวที่เด็กหนุ่มยังคงยืนอยู่อย่างนี้ได้คือมือทั้งสองข้างที่ยึดเอวสอบเอาไว้ อัดกระแทกเข้ามาถูกจุดบ่อยครั้ง แทบปลดปล่อยแม้ไม่ได้แตะส่วนข้างหน้า

    เวลาผ่านไปพร้อมกับจองกุกที่เสร็จสมเป็นที่เรียบร้อย ช่องทางด้านหลังรัดแรงมากขึ้นหลังปลดปล่อย แทฮยองสอดใส่อย่างเชื่องช้าอีกไม่กี่ครั้งก็ถอนกายออกมา

    ร่างกายขาวเนียนละเอียดที่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยบีบเคล้นจากฝ่ามือ ร่องรอยจากการมีเซ็กส์อยู่ทั่วสรรพางค์กาย ดวงตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำตาจากแรงอารมณ์ เด็กหนุ่มทรุดลงกับพื้นเมื่อขาอ่อนแรงเกินกว่าจะยั้งกายยืนได้ต่อ

    มองไปอีกคนที่ยืนคร่อมศีรษะของเขาอยู่ แทฮยองรูดรั้งแกนกายที่ใกล้จะปริแตกเต็มที ย่อตัวลง ปลดปล่อยน้ำกามรดริมฝีปากคนที่นั่งหมดแรงอยู่

    “ใช้สายตาแบบนั้นมองกูตอนนี้คิดว่ากูจะกลัวเหรอ” แทฮยองรู้ดีว่าอีกคนหงุดหงิด จองกุกไม่ชอบการที่เขาปล่อยบนใบหน้ายิ่งกว่าอะไร

    แม้ว่าเรื่องอื่น ๆ แทฮยองมักเป็นรองจอนจองกุกอยู่เสมอ

    แต่ในเรื่องนี้ เป็นเขาที่อยู่เหนือกว่า

    ปลายนิ้วเรียวปาดคราบน้ำสีขุ่นรอบ ๆ ปากดุนดันเข้าไปให้อีกฝ่ายลิ้มลอง แม้จะหงุดหงิดแต่จองกุกก็ทำตามอย่างว่าง่าย เสียงเฉอะแฉะจากน้ำลายในริมฝีปากเริ่มชักชวนให้อารมณ์ร้อนรุ่มกลับมาอีกครั้ง

    “ไปอาบน้ำกัน”



    น้ำเย็นจัดจากเรนชาวเวอร์ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิในกายลดลงเลยแม้แต่น้อย เสียงครางเครือยังคงลอยเข้าหูเมื่อแทฮยองค่อย ๆ ชำระล้างร่างกายให้อีกคน

    รั้งกายขาวเข้ามาใกล้ หอมแก้มกลมด้วยความเอนดูแล้วสอดปลายนิ้วเข้าไปทำความสะอาดข้างในให้

    “ยังรัดแน่นอยู่เลยนะ”

    หลังผ่อนเสียงครางผ่านริมฝีปากสีอ่อน จองกุกส่งสายตาเว้าวอนให้อีกฝ่าย “วี” ร้องเรียกชื่อเล่นที่รู้กันเพียงสองคนออกมาเสียงอ่อย ซุกศีรษะทุยลงกับบ่ากว้าง

    “จะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว”

    หัวเราะเบาๆ เมื่อเด็กตรงหน้าเริ่มงอแง “ไม่ทำหรอกครับ”

    จองกุกวาดแขนทั้งสองข้างโอบรอบลำคอหนา ซุกศีรษะลงไปอีกครั้ง

    “กูรักมึงนะ”

    รอยยิ้มเผยบนริมฝีปากสวยก่อนจะตอบกลับไป

    “พูดไม่เพราะเลย แต่รักเหมือนกันครับ”



    fin.



    สาระสำคัญไม่มีอะไรเลย ค่ะ เอ็นซีล้วน 555555 ติได้แต่อย่าด่าเลยนะคะ ถือซะว่า เห็นใจกัน 5555555

    จริงๆ คือฟิคลั่นค่ะ ลั่นจากโมเมนท์ในรูปนั่นแหละ นี่ขนาดลั่น ก็คือผ่านมาแล้วเกือบเดือนถึงเขียนเสร็จ แหะ

    หวังว่าอ่านแล้วจะมีความสุขกันน้าค้า

    แท็ก #vkandoit


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in