เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Normthing Marketing storyKarn Nikrosahakiat
3 Easy Way to draft employment contract
  • การทำ สัญญาจ้างพนักงาน เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตัวเอง

    การทำสัญญาจ้างพนักงานเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง การเข้าใจและยอมรับข้อตกลงที่ชัดเจนซึ่งระบุสิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายเป็นสิ่งที่เช่นเสียจริง เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างเรียบร้อยและประสบความสำเร็จ

    เว็บไซต์นอร์มธิง (Normthing.com) ที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจ มุ่งเน้นให้บริการและข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำสัญญาจ้างพนักงานเพื่อเพิ่มความเข้าใจและความมั่นใจในกระบวนการนี้ ด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเครื่องมือที่จำเป็น

    เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเข้าใจและการปฏิบัติตามกฎหมายในการจ้างงานอย่างเชี่ยวชาญและเป็นธรรม ทุกท่านสามารถพบข้อมูลที่ต้องการเกี่ยวกับการทำ สัญญาจ้างพนักงาน ได้ที่นี่ เพื่อสร้างสัญญาที่มั่นคงและแข่งขันได้ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้างที่เติบโตไปพร้อมกัน

    3 วิธีง่าย ๆ ในการ สัญญาจ้างพนักงาน ที่มีความผูกพันธ์ทางกฎหมาย

    1. ร่างสัญญาจ้าง

    • ระบุข้อมูลของนายจ้างและลูกจ้าง
    • ระบุตำแหน่งงาน เงินเดือน สวัสดิการ
    • ระบุวันเริ่มทำงาน ระยะเวลาการจ้าง
    • ระบุสิทธิและหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้าง
    • ระบุเงื่อนไขการเลิกจ้าง

    ร่างสัญญาจ้าง

    ข้อมูลของนายจ้าง:

    • ชื่อนายจ้าง: [ชื่อนายจ้าง]
    • ที่อยู่: [ที่อยู่นายจ้าง]
    • เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: [เลขประจำตัวผู้เสียภาษีนายจ้าง]
    • ติดต่อ: [ข้อมูลติดต่อของนายจ้าง]

    ข้อมูลของลูกจ้าง:

    • ชื่อลูกจ้าง: [ชื่อลูกจ้าง]
    • ที่อยู่: [ที่อยู่ลูกจ้าง]
    • เลขประจำตัวประชาชน: [เลขประจำตัวประชาชนลูกจ้าง]
    • ติดต่อ: [ข้อมูลติดต่อของลูกจ้าง]

    ตำแหน่งงาน เงินเดือน และสวัสดิการ:

    • ตำแหน่งงาน: [ตำแหน่งงาน]
    • เงินเดือน: [จำนวนเงินเดือน]
    • สวัสดิการ: [รายละเอียดสวัสดิการ]

    วันเริ่มทำงาน และระยะเวลาการจ้าง:

    • วันเริ่มทำงาน: [วันที่เริ่มทำงาน]
    • ระยะเวลาการจ้าง: [ระยะเวลาของสัญญาจ้าง]

    สิทธิและหน้าที่ของนายจ้าง:

    • นายจ้างตกลงจะให้ลูกจ้างทำงานตามตำแหน่งและหน้าที่ที่กำหนดไว้ในสัญญา
    • นายจ้างต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานและสถานการณ์การทำงานที่ปลอดภัยและเหมาะสม

    สิทธิและหน้าที่ของลูกจ้าง:

    • ลูกจ้างตกลงที่จะปฏิบัติหน้าที่และการทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากนายจ้าง
    • ลูกจ้างมีสิทธิในการรับค่าจ้างตามที่ได้ตกลงกับนายจ้างและสวัสดิการต่างๆตามกฎหมายและนโยบายของบริษัท

    เงื่อนไขการเลิกจ้าง:

    • การเลิกจ้างต้องสัมปทานตามกฎหมายและข้อตกลงที่ระบุในสัญญา
    • หากมีการยุติสัญญาจ้างต้องแจ้งให้ฝ่ายตรงข้ามทราบล่วงหน้าตามกฎหมายที่กำหนด

    ข้อควรระวัง: การทำสัญญาจ้างเป็นเรื่องสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และแนะนำให้ปรึกษากับทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญในด้านกฎหมายเพื่อความชัดเจนและความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนทำสัญญาใดๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต

    2. ลงนามในสัญญา

    • ให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างอ่านสัญญาก่อนลงนาม
    • ลงนามในสัญญา 2 ฉบับ เก็บไว้คนละ 1 ฉบับ

    การลงนามในสัญญาเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทั้งนายจ้างและลูกจ้างควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต ดังนั้น ขั้นตอนที่แนะนำคือ:

    • อ่านสัญญา: ทั้งนายจ้างและลูกจ้างควรอ่านสัญญาอย่างละเอียดเพื่อเข้าใจเงื่อนไขและข้อกำหนดทั้งหมดที่ระบุในสัญญา
    • ลงนาม: เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ตรวจสอบสัญญาและยินยอมกับเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว ให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างลงนามในสัญญา 2 ฉบับ โดยลงนามในแต่ละฉบับหนึ่งฉบับแล้วเก็บไว้เพื่อการเก็บรักษาข้อมูล
    • เครื่องหมายสัญญา: เพื่อความถูกต้องและเพื่อป้องกันการปลอมแปลง ควรใส่เครื่องหมายสัญญาหลังจากลงนามเพื่อรับรองว่าสัญญาถูกลงนามโดยสองฝ่าย
    • เก็บสำเนา: ทั้งนายจ้างและลูกจ้างควรเก็บสำเนาของสัญญาที่ลงนามไว้ให้ครบถ้วนเพื่อเป็นหลักฐานในกรณีที่มีข้อโต้แย้งในอนาคต

    การปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นจะช่วยให้กระบวนการลงนามในสัญญาเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายได้เข้าใจและยินยอมกับเงื่อนไขของสัญญาอย่างถูกต้อง

    3. แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง:

    • แจ้งสำนักงานประกันสังคม
    • แจ้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สำหรับนิติบุคคล)

    หลังจากที่ทั้งนายจ้างและลูกจ้างได้ลงนามในสัญญาจ้างงานแล้ว ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์และความสมบูรณ์ของกระบวนการ ดังนั้นขั้นตอนที่แนะนำคือ:

    • แจ้งสำนักงานประกันสังคม:
    • สำหรับนายจ้าง: หลังจากที่ได้ทำการลงทะเบียนสถานประกอบการกับสำนักงานประกันสังคมแล้ว ควรแจ้งเพิ่มเติมถึงการจ้างงานใหม่แก่สำนักงานประกันสังคม โดยนำสำเนาของสัญญาจ้างงานมาแนบพร้อมข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ และหมายเลขประจำตัวประชาชนของลูกจ้าง เป็นต้น
    • สำหรับลูกจ้าง: ควรแจ้งถึงการเข้าทำงานใหม่แก่สำนักงานประกันสังคม โดยมีการกรอกแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องและนำสำเนาของสัญญาจ้างงานมาแนบด้วย

    • แจ้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สำหรับนิติบุคคล):
    • สำหรับนิติบุคคลที่มีการลงทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว ควรแจ้งถึงการจ้างงานใหม่ให้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมีการกรอกแบบฟอร์มและแนบสำเนาของสัญญาจ้างงานพร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ และหมายเลขประจำตัวประชาชนของลูกจ้าง เป็นต้น

    การแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้กระบวนการจ้างงานเป็นไปอย่างเรียบร้อยและตรงตามกฎหมาย โดยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาทางกฎหมายในอนาคตได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับแต่ละหน่วยงานเพื่อความแม่นยำและความถูกต้องในการทำสิ่งที่เกี่ยวข้อง และเก็บหลักฐานการแจ้งเพื่อประโยชน์ในอนาคต

    เอกสารที่ต้องใช้ในการทำสัญญาจ้างพนักงาน :

    • สำเนาบัตรประชาชนของนายจ้างและลูกจ้าง
    • สำเนาทะเบียนบ้านของนายจ้างและลูกจ้าง
    • ใบสำคัญประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของนายจ้าง

    ข้อควรระวัง:

    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัญญาจ้างนั้นถูกต้องตามกฎหมาย
    • อ่านสัญญาจ้างอย่างละเอียดก่อนลงนาม
    • เก็บสัญญาจ้างไว้เป็นหลักฐาน

    การทำ สัญญาจ้างพนักงาน เป็นสิ่งที่สำคัญ ช่วยให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างมีหลักประกันในการทำงาน ทั้งนี้ผู้ประกอบการสามารถปรึกษามายัง Normthing ที่ปรึกษาการตลาด และจัดอีเว้นท์ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจให้ท่านได้อีกด้วย

    แหล่งข้อมูล:

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in