เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รู้เช่นเห็นสวีเดนWassachol Sirichanthanun
4 — ปราสาทสวีเดนมันเป็นยังไง
  • ก่อนที่เทอมการศึกษาใหม่และการฝึกงานของเราจะเริ่มขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ มหา'ลัยก็ได้จัดกิจกรรมมากมายมหาศาลไว้ต้อนรับนักศึกษาต่างชาติราวกับกลัวว่าพวกเราจะเหงาหงอย

    ตั้งแต่ Welcome Reception สำหรับนักศึกษาใหม่ที่อาจารย์คนสำคัญแต่งตัวเต็มยศเดินขบวนเข้ามาในหอประชุมพร้อมดนตรีประกอบไพเราะจากวงออเคสตราและไควร์เออร์ของมหา'ลัย และ Welcome Fair อันประกอบด้วยบูธของแบรนด์อย่าง IKEA, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และ Internet providers ต่างๆ, องค์การนักศึกษาทั้งหลาย, Campus 1477 ฟิตเนสของมหา'ลัย (1477 เป็นปีที่มหา'ลัยก่อตั้ง), ชมรมและกลุ่มกิจกรรมต่างๆ ของเมืองอุปซอลา และ Fraternity/Sorority House ที่เรียกว่า 'เนชั่น' ทั้ง 13 สมาคม



    ส่วนวันนี้เราได้ไปทัวร์แบบมีบรรยายภาษาอังกฤษที่ Gripsholms Castle ซึ่งเป็นการไปเที่ยวแบบ sightseeing ครั้งแรกของเราในสวีเดน ทริปนี้เป็น 1 ใน 5 ทัวร์ที่มหา'ลัยจัดให้ แต่ต้องลงชื่อให้ทันและต้องออกเงินเองทริปละ 250 โครน หรือ 1000 บาท ไม่รวมค่าอาหาร รถบัสออกตรงเวลาไม่รอคนที่ยังมาไม่ถึง มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นทุ่งหญ้าสีเขียวใกล้ฤดูเก็บเกี่ยวและทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เชื่อมไปถึงสตอกโฮล์มถนัดตา พวกเราห้าสิบคนลงใต้ไป 100 กิโลเมตรจากอุปซอลา ใช้เวลาบนรถบัส 1 ชั่วโมง 20 นาที ก็มาถึงปราสาทกริปส์โฮล์มส์ที่ตั้งอยู่ในเมือง Mariefred ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสตอกโฮล์ม ช่วงหลังมาริเอเฟรดมีสนามกอล์ฟสร้างใหม่ แถบนี้เลยกลายเป็นสถานที่โปรดแห่งใหม่ของชาวเมืองหลวง


    ปราสาทริมทะเลสาบแห่งนี้เป็นโปรเจคของกษัตริย์ Gustav Vasa หรือกุสตาฟที่ 1 ผู้อยากจะสร้างปราสาทไว้เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึกในสมัยศตวรรษที่ 16 ก่อนที่หลังจากนั้นจะถูกใช้เป็นที่พักของกษัตริย์ต่อไปอีกหลายสมัย รวมทั้งเป็นใช้ที่คุมขังราชวงศ์ที่ขัดขวางการใช้อำนาจของกษัตริย์ด้วย ปราสาทกริปส์โฮล์มส์กลายเป็น 'ปราสาทแม่ม่าย' ในศตวรรษที่ 17 เพราะมีพระราชินีที่เป็นแม่ม่ายมาอาศัยอยู่ติดกันสองพระองค์ และกลายเป็น 'ศูนย์วัฒนธรรม' ในศตวรรษที่ 18 เพราะกษัตริย์กุสตาฟที่ 3 คลั่งประวัติศาสตร์และละครเวทีมากจนพระมารดาถึงขั้นสร้างโรงละครไว้ในปราสาทให้เป็นของขวัญ โดยสิ่งที่เราชอบมากเกี่ยวกับโรงละครนี้คือพื้นเวทีมันลาดลงเพื่อให้คนดูรู้สึกว่าฉากมีความลึก และชั้นบนสุดของโรงละครมีที่นั่งจัดไว้ให้บรรดาคนรับใช้ได้ชมละครไปพร้อมกับชนชั้นสูงด้วย



    สิ่งที่เราชอบมากกว่าโรงละครคือการตกแต่งภายในโดยรวมที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียด ไม่เหมือนกับปราสาทหรือพระราชวังในเมืองอื่นๆ อย่างเวียนนาที่ประดับประดาและเลี่ยมทองอย่างหรูหรา ที่นี่ปูพื้นและตกแต่งห้องด้วยไม้สีขาวหรือสีสว่าง วาดเส้นสายลวดลายพืชพันธุ์และเถาวัลย์ต่างๆ ลงไป ใช้แชนเดอเลียร์ที่ทำจากเปเปอร์มาเช่ แขวน tapestry สวยๆ ไว้บนผนัง และแน่นอนว่าต้องมีภาพวาดพอร์ตเทรตของกษัตริย์ มเหสี ราชินี และราชวงศ์คนอื่นๆ ติดไว้ด้วย โดยบางห้องจะเป็นรูปกษัตริย์จากดินแดนต่างๆ ที่ครองราชย์ในช่วงเดียวกัน อย่างอังกฤษ เยอรมัน หรือรัสเซีย เราชอบที่นี่จนเซอร์ไพรส์ว่าทำไมมันถึงไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไหร่เวลาคนมาเที่ยวสวีเดน อาจจะเป็นเพราะมันไม่ฟูฟ่าน่าตื่นตาตื่นใจละมัง


    เอาเข้าจริงการมาปราสาทกริปส์โฮล์มส์โดยไม่ได้หาข้อมูลหรือเปิดดูรูปในอินสตาแกรมมาก่อนนั้นสร้างความรู้สึกหลากหลาย ตั้งแต่รู้สึกผ่อนคลายตอนเดินเล่นในสวนจนออกไปยังทางเดินเลียบทะเลสาบ รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านตอนเดินชมปราสาทเพราะมันน่ารักอบอุ่นเหมือนไม่ใช่บ้านเชื้อพระวงศ์ รู้สึกอึดอัดตอนเข้าเมืองมาริเอเฟรดเพราะถึงจะเล็กจิ๋วแต่กลับมีความเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสูงจนเกือบเลี่ยน หรือรู้สึกรักและเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรียนอยู่ในตอนที่ไกด์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปราสาทและเกร็ดประวัติศาสตร์ต่างๆ ให้ฟัง พลันนึกย้อนไปถึงหลายครั้งหลายคราที่มีคนทักว่า "โอ้โห เรียนประวัติศาสตร์ต้องความจำดีแน่เลย" มาถึงวันนี้เราก็ยังยืนยันว่าถ้าความจำดีก็ดีไป แต่ไม่จำเป็นสักทีเดียว

    เพราะทักษะที่ต้องใช้มากกว่าคือการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล—เราจำสิ่งที่ไกด์เล่าวันนี้ไม่ได้เท่าไหร่ แต่การที่เราคิดไปด้วยระหว่างฟังต่างหากที่สำคัญ


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in