เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายแปลอ่านจบpanderrring
#ผมเก็บคุณชายตกอับได้หนึ่งคนครับ (EverY)

  • เรื่อง: ผมเก็บคุณชายตกอับได้หนึ่งคนครับ
    ผู้แต่ง: มู่กวาหวง
    2 เล่มจบ

    T/N แนว slice of life, inspired ที่แทบอยากยกขึ้นหิ้งในปีนี้เลยทีเดียว!

    “เพราะโลกของฉันมืดมนมากเกินไป ฉันต้องหานายให้เจอ”
    “ลู่เหยียนแค่ลุยไปข้างหน้าก็พอ เพราะข้างหลังยังมีเซียวหัง”


    ‘ลู่เหยียน’ นักร้องนำวง VENT วงดนตรีใต้ดินที่กำลังประสบกับปัญหาการแยกทางของสมาชิกในวง และ ‘เซียวหัง’ คุณชายตกอับที่ตลอดชีวิตเป็นแค่เครื่องมือให้ครอบครัวสร้างหน้าตาในสังคม สองคนที่แตกต่างกันในทุก ๆ อย่าง และความประทับใจแรกที่มอบให้อีกฝ่ายคือการทะเลาะวิวาทของ ‘นายพั้งก์’ กับ ’คุณชายบ้านรวย’ ทั้งสองที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่ดวงสมพงศ์ทำให้พวกเขาต้องเกี่ยวข้องกันหลายครั้ง อย่างเช่น การเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายจะมารื้อถอนอาคาร หรือ การสมัครงานเข้าไปเป็นคนเช็คชื่อในชั้นเรียนแทน การที่อยู่ในดงนักเลงอีกคนเข้าไปต่อยอีกคนวิ่งหนี เหตุการณ์มากมาย แต่เซียวหังไม่ได้คาดคิดเลยว่า ในวันที่เขาทิ้งตำแหน่งคุณชายตระกูลเซียว ไร้ที่ไป ไม่มีอะไรติดตัวแม้กระทั่งกระเป๋าตังค์ เป็นลู่เหยียนที่เดินลงมากางร่ม บอกให้อีกฝ่ายเข้าไปในตึกของโซนเจ็ด ขณะเดียวกัน ในเวลาที่ลู่เหยียนรู้สึกไร้หนทางเกี่ยวกับการทำวงดนตรีที่เขารัก ควรจะล้มเลิกความฝันของเขาเท่านี้ดีไหม ก็เป็นเซียวหังเพื่อนร่วมอาคารห้องตรงกันข้าม ที่เชื่อว่าเขาจะต้องยืนหยัดต่อไปได้ในเส้นทางนี้ได้

    เป็นนิยาย 2 เล่มที่อัดแน่นไปด้วยเหตุการณ์และเนื้อหาของตัวละคร การดำเนินเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์ประดอย ราวกับเป็นชีวิตของคนจริง ๆ ที่สามารถจับต้องและเข้าใจอารมณ์ของตัวละครได้ ชีวิตของคนสองคนและผู้คนในเขตซย่าเฉิงโซนเจ็ด ตึกที่โดนบริษัทรื้อถอนรังควานเพราะเจ้าของตึกขายโครงการโดยไม่แจ้งลูกบ้าน ชีวิตประจำวันที่ต้องทำงานหาเงิน แต่ล้วนมีความฝัน เรื่องนี้ไม่มีคุณชายตกอับที่จะกลับคืนสู่ตระกูลไปรับตำแหน่งลูกคนรวย ไม่มีนักร้องนำวงดนตรีที่จับพลัดจับผลูมีชื่อเสียงภายในชั่วข้ามคืน มีแต่คนสองคนที่ล้มลุกคลุกคลานในทางที่เลือกเดิน ภายใต้ห้องเก่า ๆ กับพื้นที่ยี่สิบสี่ตารางเมตร คอมพิวเตอร์แก่ ๆ รันโค้ดโปรแกรมกับเสียงเกากีต้าร์คอร์ดบอด เซียวหังไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่ในสถานที่แบบนี้ ในวันที่แม้แต่บัตรประชาชนก็ไม่พกมา ทั้งตัวมีแต่หนามแหลมเหมือนเม่น หาเงินจากการทำงานในร้านอินเตอร์เน็ตเถื่อน กับลู่เหยียนที่วงแตก มองไม่เห็นอนาคตของการทำดนตรี เขาไม่อยากเลิกทำเพลง แถมชีวิตก็ต้องใช้เงิน รับทำงานพิเศษทุกอย่าง ความสัมพันธ์เริ่มจากเพื่อนห้องตรงข้าม จนสนิทกันมากขึ้นแบบงง ๆ จังหวะตกหลุมรักไม่รู้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาจเป็นวันที่ลู่เหยียนกางร่มลงมา หรือบนดาดฟ้าที่ดูดาวด้วยกัน มีทั้งล้มลุกกันไป ก้าวไปทีละนิด เจออุปสรรคมากมาย เดินไปตามเส้นทางขรุขระ ไม่มีการอาศัยความโชคดี มีแต่ความพยายามที่ไม่ได้สำเร็จในครั้งแรก วันที่เหนื่อยจนอยากยอมแพ้ ตัดสินใจเลือกทางข้างหน้าไม่ได้ ก็ยังคงเจออีกฝ่ายยืนอยู่ข้างหลัง เชื่อมั่นและให้กำลังใจกันและกัน คนหนึ่งเป็นแสงสว่างที่ส่องในชีวิตมืดมนของตน อีกคนเป็นคนที่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนหันไปข้างหลังจะเจอเขาอยู่เสมอ


    “นายสามารถทำสิ่งที่นายอยากทำ การที่นายเกิดมาบนโลกนี้ไม่ใช่เพื่อคนอื่น แต่เพื่อทำสิ่งที่ตัวเองชอบ”


    เมื่ออ่านจบ เราจะรักในตัวละครทุกตัวเพราะพวกเขามีเรื่องราวเป็นของตัวเอง การล้มลุกคลุกคลานที่มอบแรงผลักดันในครั้งต่อไป คิดว่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่นิยายที่ทุกคนอ่านแล้วจะชอบ แต่นี่ว่าเป็นนิยายเรื่องหนึ่งที่ควรหยิบมาอ่านสักครั้ง มันทำให้รู้สึกชีวิตคนก็แบบนี้ แรกเริ่มอาจให้ความรู้สึกแข็งกระด้างไปบ้างแต่สักพักจะรู้สึกอบอุ่นกับการดำเนินเรื่องที่ค่อย ๆ ทิ้งความประทับใจให้กับเราทีละนิดแบบไม่รู้ตัวเลย


    #แนะนำนิยายวาย #นิยายวาย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in