เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Transformers age of extinctionPiyapat Boonprakob
Transformer 4 : The age of Extinction
  • ต้องบอกกันซักนิดว่า ทรานส์ฟอร์เมอรส์ภาคนี้ ได้ถือกำเนิดจาก “ความไม่พอใจในตอนจบของภาคสาม” ของ"ไมเคิล เบย์" นักวางระเบิดแห่งฮอลลีวู้ด ดังนั้น ตัวหนังจะเล่าเหตุการณ์ต่อจากภาคสามทันที ไม่ได้เป็นการ “Reboot”สร้างใหม่ อย่างที่เฮียเบย์ แกเคยให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศไว้ครับ

     หนังภาคนี้ ยังคงเขียนบทโดย เอห์เลน ครูเกอร์ ที่ทำงานเขียนบทให้หนังเอเลี่ยนจักรกลเรื่องนี้มาแล้วในภาคที่สอง ดังนั้น ขอให้ทำใจได้เลยว่า “บทหนังมาสไตล์ภาคสอง” ที่ทั้ง ทื่อ เบลอ ตื้น และสร้างความงุนงงให้กับคนดูแน่นอน!!

    เรื่องย่อ

    เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวบ้านไร่ชายทุ่งตระกูล “เยเกอร์” ที่มีงานหลักคือการ “รับซากอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์มาทำหุ่นขาย

     ชายผู้ทำงานประดิษฐ์หุ่นกิ๊กก๊อกขายไปวันๆ เลี้ยงดูลูกสาวอย่างวัยกำลังโต   วันนึง เขาได้ไปรับซื้อซากรถบรรทุกเก่าๆเน่าๆ หวังจะซ่อมแล้วแยกชิ้นส่วนขาย แต่นั่นไม่ใช่ซากรถธรรมดาๆ แต่เป็น “ออพติมัส ไพรม์” ผู้นำของเหล่าออโต้บอท ที่เคยทำ “สงครามชิคาโก้” ในหนังภาค 3 และนั่นทำให้พ่อลูกเยเกอร์ และ  แฟนหนุ่มนักซิ่งรถมืออาชีพของลูกสาว ต้องตกอยู่ในท่ามกลางความฉ้อฉล สมคบคิดของเหล่าผู้มีอำนาจ…และสงครามข้ามดวงดาว ส่วนตัวหนังจากนี้จะเป็นยังไง ก็ไปดูในโรงก็แล้วกันครับ!!


    เทคนิคการถ่ายทำ

    ว่าถึงข้อเสียของหนังมาแล้ว มาดูข้อดีบ้าง (นอกจากสาวนิโคล่าที่ดูเพลินตา แบบว่า หลงรักเข้าให้แล้ว!!) ข้อดีที่ว่าก็คือเอฟเฟ็คท์ ที่หลายๆคนคาดหวัง ถึงมันจะไม่สดใหม่ แต่ก็ดูสนุก เร้าใจ และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ทั้งงานภาพสไตล์เฮียเบย์ ที่เล่น “การย้อนแสง” ของภาพ ให้ดูสวยงามฟรุ้งฟริ้งในหนัง ภาพคมรายละเอียดไม่มีเผา ซัดกันนัว มีจังหวะยัดCG ตลอดทั้งเรื่อง ดูแล้วอาจจะเมาระเบิดได้ เพราะเฮียแกจัดเต็มจริงๆ!! รวมทั้งการใส่ Gimmickเล็กๆ ไว้เรียกรอยยิ้มของแฟนๆทรานสฟอร์เมอร์ได้ (บ้าง) แถมบางฉากยังมี โลโก้ สินค้ามาเข้าฉาก เพื่อโฆษณาแบบเนียนๆ

    ข้อเสียของงานด้านภาพคือ “เสียดาย ที่หนังดึงความเป็น 3D ออกมาได้ไม่เต็มที่!” ทั้งๆที่หนัง ถ่ายด้วยกล้อง IMAX แต่กลับใช้ลูกเล่นLayer ของมิติภาพได้ไม่ค่อยคุ้มค่าเลยครับ ฉากบางฉากควรใส่ ก็ไม่ใส่ แต่ฉากไหนไม่น่าใส่ ก็ดันแยกเลเยอร์ซ้อนมากันซะงั้นน่ะ เลยงงๆกับการถ่ายทำ และ “จินตนาการ”ของทีมถ่ายทำนิดหน่อยครับ แถมยังมีช่วงที่ตัดต่อเร็วมาก จนดูไม่ทัน และพาลเอาปวดตาสุดๆ ส่วนงานด้านเสียงนั้น ส่วนตัวไปดูพากย์ไทยมาครับ เลยบอกไม่ได้ว่าใครเล่นดี ตีบทแตกได้มั้ยอะไรยังไง แต่แอดมินพูดถึง การ “เก็บ” เอกลักษณ์ของเสียง ตามแบบหนังไมเคิล เบย์ ที่เน้นเสียงอึกทึกครึกโครมของหนัง โทนเสียงที่ทุ้มต่ำ ซาวน์แทรคประกอบฉากที่ใส่ออกมาได้ถูกจังหวะมากๆ แต่ขัดใจเพลงประกอบที่ร้องโดย Imagine Dragons ครับ

    สรุป

    เหล่าออโต้บอทหน้าใหม่เกือบยกทีม ที่ยังไม่มีอะไรให้น่าจดจำมากนัก จึงหวังว่าภาคต่อๆไป คงจะเด่นกว่าที่เป็นอยู่ในภาคนีล่ะนะตัวหนัง ยังสลัด “ความห่วย” ในด้านเนื้อหา จากภาคก่อนๆไม่ได้ ราวกับโดน “คำสาป”ของผู้กำกับคนนี้ ที่เหมือน “ทำหนังเอามันส์อย่างเดียว” ไม่ได้ใส่ความแปลกใหม่ หรือนำเสนอสิ่งที่แตกต่างไปจากทั้งสามภาคก่อนหน้านี้ครับ สิ่งที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดคือช่วงสุดท้ายของหนังที่คนดูอาจต้องตั้งคำถามกับความสามารถของตัวละคร ที่ดันมาใช้เอาตอนจบ แต่ถ้ามาดูเอามันส์จริงๆล่ะก็ จัดไปเลยครับ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน! เพราะข้อดีของหนังเรื่องนี้คือ ความมันส์ในการ “ระเบิดฉาก” ซึ่งเมื่อตัวหนังเข้าสู่ช่วง20นาทีสุดท้าย “จะเป็นความมันส์แบบไม่ลืมหูลืมตา” จัดหนัก จัดเต็ม เหมือนภาคที่ผ่านๆมาๆ ยังไงก็เตรียมยาดม ยาหอมได้เลย เมาระเบิดแน่ๆ!! 

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Ballji (@Ballji)
สุดยอดมากครับ อ่านรีวิวจนอยากดูเลย
Somkiat Pimhame (@fb1399483003451)
ติดตามทุกภาคเลยๆ
Natthapon Bntp (@robterz-corbz)
ตรงไปตรงมากระชับเข้าใจง่ายดีครับ
ขอบคุณสำหรับบทความรีวิวดีๆครับ