เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[Fictober 2019] Miracle in Octobernixsummer0531
Day 16 Wild
  • ดวงตาสีฟ้ากระจ่างลืมขึ้น ผู้เป็นเจ้าของดวงตาผู้นั้นคือหญิงสาวผมแดงหน้าตาสะสวย 

    เธอแหงนหน้ามองท้องฟ้ากว้างซึ่งเป็นสีเดียวกับนัยน์ตาของตัวเอง ก่อนจะเลื่อนไปมองใบเมเปิ้ลที่มีสีไม่ต่างไปจากสีผมของเธอ สายลมเย็นของฤดูใบไม้ผลิที่พัดโบกเข้ามา ทำให้เธอหลับตาลงซึมซับบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี กลิ่นของแสงอาทิตย์ กลิ่นของไอดิน และกลิ่นชื้นของผืนป่า ทำให้มุมปากของเธอผุดยกขึ้นเล็กน้อย

    “มานั่งอยู่ตรงนี้เดี๋ยวก็โดนดุอีกหรอก เพิ่งจะหายป่วยไม่ใช่เหรอ วันนี้อากาศเย็นซะด้วยสิ” แฟรี่น้ำประเภทโวเดียนอยส่งเสียงดุขณะลอยตัวอยู่กลางอากาศ ชี้ปลายนิ้วที่เป็นเล็บแหลม และมือที่มีลักษณะเป็นครีบแบบสัตว์น้ำใส่หญิงสาว ทั้งตัวของเธอเป็นสีน้ำเงิน และมีเส้นผมสีน้ำเงินเข้มเป็นประกาย

    “นิดๆ หน่อยๆ เอง ไม่เป็นไรหรอกน่า” หญิงสาวผมแดงหัวเราะเสียงใส ไกว่ชิงช้าที่นั่งอยู่ไปมาแผ่วเบาอย่างอารมณ์ดี “อยากออกไปซื้อขนมปังในเมืองจังเลยนะ อยากแวะร้านดอกไม้ตรงหัวมุมถนนนั่นด้วย แล้วก็อยากไปซื้อพวกสมุนไพร มะเขือเทศตอนนี้ออกลูกสวยมาก อยากทำซุปให้เขาทานจัง”

    “เธอไปได้ที่ไหนละ ก็รู้อยู่ว่าในเมืองตอนนี้มีแต่เรื่องกลหน อยากจะโดนจับเผารึไง” 

    “คิกๆ ฉันไม่ได้เป็นแม่มดซะหน่อย จะโดนจับเผาได้ไง ขนาดเวทมนตร์ยังใช้ไม่ได้เลย อย่างมากก็แค่มองเห็นพวกเธอก็เท่านั้น” หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มหวาน ขัดกับแววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์เจ็บปวดปนสิ้นหวัง “แต่ ถ้าใช้ได้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็คงพอช่วยเหลือเขาได้มากกว่านี้ แล้วก็คง อยากไปไหนก็ได้เท่าที่อยากไป ไม่ต้องให้เขามาคอยห่วงอยู่ตลอด”

    แฟรี่น้ำมองด้วยแววตาเห็นใจ ลอยตีลังกากลางอากาศรอบหนึ่ง ก่อนจะลอยมานั่งอยู่บนตักหญิงสาว

    “ร้องเพลงให้ฟังหน่อยสิ ไม่ได้ฟังเธอร้องเพลงนานแล้ว”

    “อื้ม ได้สิ” 

    หญิงสาวพยักหน้ารับคำสีหน้าแข็งขัน หลับตาลง และเริ่มขับขานท่วงทำนองด้วยเสียงกังวานใส ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ดูสง่า เงาที่ทอดลงมานั้นดูนุ่มนวล แสงแดดที่ส่องลอดผ่านแมกไม้นั้นดูกำลังเต้นรำ ใบไม้ปลิวไสวไปกับสายลม เสียงของมันราวกับบทเพลงของธรรมชาติ ช่วยตอบรับและขับขานไปกับหญิงสาวผมแดง 

    อยู่ๆ หญิงสาวก็หยุดร้อง เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างกดทับลงบนไหล่ เมื่อลืมตา เธอพบว่าแรงกดนั้นคือเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวหนา เธอกระชับเสื้อนั้นด้วยรอยยิ้ม เอี้ยวตัวไปด้านหลังเพื่อขอบคุณผู้ที่นำเสื้อคลุมนี้มาให้ 

    ใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่องในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เบื้องหน้าของเธอตอนนี้คือชายหนุ่มรูปงามเจ้าของเรือนผมสีแดงอมส้ม ดวงตาเรียวสีน้ำตาล หางตาตกเล็กน้อย แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตามากที่สุด คงไม่พ้นรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมา พร้อมกับมือหนาที่ยื่นมาลูบกลุ่มผมนุ่มของเธอด้วยความเอ็นดูและรักใคร่

    “มานั่งทำอะไรตรงนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก เอสเธอร์”





    ท่ามกลางป่าลึกในดินแดนภูติ แสงสว่างอ่อนๆ ส่องลอดผ่านแมกไม้ไปยังรังนอนขนาดใหญ่ใต้ต้นไม้ ภายในรังบุไปด้วยสิ่งอ่อนนุ่มราวปุยนุ่น โดยบนสิ่งอ่อนนุ่มมีจอมเวทผมสีแดงส้มนอนโอบกอดเด็กหนุ่มผมแดงด้วยความทะนุถนอม

    จองเซอุนปรือตาขึ้นอย่างแช่มช้า แสงสว่างที่ส่องแยงตาทำให้เขาต้องหรี่ตาลง พลิกตัวตะแคงเพื่อหลบแสง หัวใจของเขากระตุกวูบเบาๆ เมื่อรับรู้ถึงแรงโอบกอด พาลองแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย เขาก็พบกับชายหนุ่มผมสีแดงส้ม ดวงตาเรียวสีน้ำตาล ไม่ต่างไปจากในความฝัน ไม่สิ จะต่างเพียงเล็กน้อย คือ แววตาของคนตรงหน้าในยามนี้ ไม่ได้เป็นประกายสดใสอบอุ่น แต่มันเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและเจ็บปวด

    “เด็กบ้า รู้ไหมว่าตัวเองทำอะไรลงไป” 

    นี่คือประโยคแรกที่อิมยองมินเอ่ยขึ้น จองเซอุนหดคอทำตัวไม่ถูก เพราะเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินน้ำเสียงดุๆ จากคนคนนี้ ดวงตากลมโตของเด็กหนุ่มหลุกหลิกไปมา พยายามนึกทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นตอนที่โดนพ่อมดผมน้ำเงินลักพาตัว คำร้องขอของผู้ดูแลรังมังกร มังกรสีขาวเจือฟ้า ภูติสาวผมน้ำตาล ต้นไม้เหี่ยวแห้งที่ผลิใบและเติบใหญ่ และ เลือดของเขาที่หลั่งรินลงพื้น

    “ผมขอโทษ” จองเซอุนกระซิบเสียงเบา กระชับโค้ทของตัวเองแน่น พยายามหดคอซุกหน้าลงใต้เสื้อ

    “อย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจไหม เธอแทบจะทำให้ฉันหัวใจวายตาย” อิมยองมินเอ่ยกล่อมเสียงอ่อน ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมสีแดงของคนในอ้อมกอดเบาๆ “ทำไมถึงต้องพยายามขนาดนั้น ทั้งที่เธอแค่เข้าไปพูดคุยเท่านั้นก็พอ ฉันเคยสอนไปแล้วก็จริง ว่าสิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์น่ะ ขอเพียงแค่คิดจะทำมันก็ทำได้ทุกอย่าง แต่นั่นมันคือการเปลี่ยนแปลงกฎของโลก และไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ”

    “เพราะผมไม่อยากให้พวกเขาแยกจากกัน” จองเซอุนบอกด้วยแววตาไหวระริกเมื่อนึกย้อนถึงความรู้สึกนั้น

    ความรู้สึกแยกจาก เหตุผลเดียวที่เขาพยายามช่วยทั้งสอง มันเป็นเพียงเพราะ เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับตัวเอง ถ้าสามารถช่วยให้เวอร์นอนกับเฮเลนสามารถอยู่ร่วมกันได้อีก นั่นก็เท่ากับว่า เขากับอิมยองมิน จะสามารถอยู่ด้วยกันตลอดไป เขาก็แค่ไม่อยากรับรู้ถึงความสูญเสีย เพราะกลัวว่าในอนาคตตัวเองจะเป็นเช่นนั้น

    “เธอจะเป็นเด็กที่ใจดีขนาดไหนก็ได้นะเซอุน แต่ก็ต้องรู้จักประมาณตัวเองบ้าง อย่าให้ถึงกับต้องเจ็บแบบนี้”

    จองเซอุนพยักหน้า แต่ไม่ได้รับปากแน่นอนว่าจะไม่ทำอีก เขาค่อยๆ หยัดตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย ว่าสถานที่แห่งนี้คือที่ไหนกันแน่ รอบๆ ตัวเต็มไปด้วยต้นไม้สูง และประกายแสงวิบวับที่เป็นร่องรอยของพวกแฟรี่

    “ที่นี่คือส่วนหนึ่งของดินแดนภูติ เธอใช้พลังเวทเกินตัวทำให้ร่างกายสูญเสียพลังเวทอย่างหนัก และผลของการใช้พลังเวทที่มากเกินไป ทำให้เส้นเลือด ปอด และหัวใจทนไม่ไหว โชคยังดีที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมากนัก หากได้พักอยู่ในน้ำหรือกลางป่า ร่างกายจะสามารถเติมเต็มพลังเวทที่เสียไปได้ เฮเลนเลยส่งเธอมาที่ดินแดนภูติ เพราะที่นี่อากาศจะบริสุทธิ์และสะอาดกว่าโลกฝั่งนั้น” อิมยองมินเคลื่อนมือที่เกลี่ยปอยผมมาลูบกลุ่มผมนุ่มแทน หัวใจของจองเซอุนกระตุกวูบเบาๆ นึกถึงภาพความฝัน ที่จอมเวทหนุ่มยื่นมือมาลูบศีรษะของหญิงสาวผมแดง หญิงสาวที่ชื่อว่า เอสเธอร์

    คนคนนั้น เป็นใครกันแน่ แล้วผู้ชายคนนั้น คือ อิมยองมิน ใช่ไหม

    เด็กหนุ่มผมแดงขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกปวดหัวตุบๆ เหมือนหัวจะระเบิด

    “หลับต่ออีกหน่อยเถอะ เธอจะได้ดีขึ้นไวๆ” อิมยองมินบอกเสียงอ่อนโยน ดันคนตัวเล็กให้นอนลงบนรังอีกครั้ง

    “ผมว่า ผมดีขึ้นแล้ว ขอกลับบ้านได้ไหมครับ” จองเซอุนร้องขอเสียงเบา ขยุ้มเสื้อของจอมเวทร่างสูงแน่น

    “ได้สิ ถ้านั่นคือความต้องการของเธอ” 

    จอมเวทหนุ่มผมสีแดงส้มชันตัวขึ้นเล็กน้อย ประคองคนตัวเล็กให้นอนซบลงบนแผ่นอก หยิบลูกไม้สีน้ำตาลแบบเดียวกับที่ประดับอยู่บนเสื้อของภูติสาวเฮเลนออกมาจากกระเป๋า วินาทีที่ชายหนุ่มแบมือออก ลูกไม้ก็ส่องแสงสีเขียวอ่อน แตกหน่อเป็นต้นอ่อน เลื้อยพันโอบล้อมรอบของพวกเขาเป็นวงกลม และเมื่อพื้นที่ภายในวงกลมส่องสว่างจ้า วิวทิวทัศน์ที่เห็นก็เปลี่ยนไป ไม่มีต้นไม้สูงและรังนอน แต่เป็นห้องนั่งเล่นอุ่นๆ บนโซฟานุ่มที่ตั้งใกล้กับเตาพิง

    “กลับมาแล้วเหรอคะ นายท่าน นายน้อย” อันยูจินรีบวางไม้ปัดขนไก่ในมือลง และปรี่เข้ามาต้อนรับ

    “ยูจิน ไปเตรียมเตียงให้เซอุน แล้วก็ทำอาหารที่ทานง่ายๆ แล้วยกขึ้นไปข้างบนด้วย” 

    “ผม...อยากนอนกับคุณ” จองเซอุนบอกเสียงเบา ส่งผลให้อันยูจินที่เตรียมจะเดินขึ้นไปชั้นบนถึงกับหยุดชะงัก เด็กหนุ่มผมแดงห่อตัวซุกแผ่นอกของชายหนุ่มยิ่งกว่าเดิม เอ่ยขออีกครั้งด้วยแววตาและน้ำเสียงสั่นระริก “แค่วันนี้ ช่วยอยู่กับผมที”

    ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเป็นเพราะผลกระทบจากความรู้สึกไม่อยากแยกจากที่หลั่งไหลเข้ามาในตัวตอนที่พยายามช่วยเวอร์นอนกับเฮเลน หรือเพราะเพราะความฝันแปลกๆ เกี่ยวกับหญิงสาวผมแดงนัยน์ตาฟ้าที่ชื่อเอสเธอร์กันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน สิ่งเดียวที่เขาต้องการตอนนี้ คือ การได้อยู่กับอิมยองมิน เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียว ที่ช่วยทุเลาความเจ็บที่อยู่ภายในอกตอนนี้ได้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
jaa_boice227 (@jaa_boice227)
ทำไมมันอบอุ่น ละมุนแบบนี้ นี่ฟิคมินอุนหรือขนมสายไหม