เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ยอดเขาคิลิมันแจโรtospeakortodie2
สู่อากิฮาบาระ
  •        “ฮัลโหล พี่ครับ ผมติดอยู่ตรงนี้เองและข้ามไปไม่ได้ถ้ายังไม่รู้ ผมแค่โทรมาถามว่าพี่รู้จักคิลิมันแจโรหรือเปล่า” จมูกของผมส่งเสียง วี๊ด วี๊ด เบาๆตอนที่ปล่อยลมหายใจ
           “อะไรอีกล่ะ ไปหาอ่านอะไรมาอีก” เสียงเบื่อหน่ายจากปลายสาย
           “ก็หนังสือในห้องของพ่อนี่ล่ะครับ เปิดอ่านใกล้จบและยังไม่เข้าใจ จึงโทรมาถามพี่”
          “เฮ้อ เล่มไหนล่ะ” เขาถอนหายใจ “เผื่อพี่เคยอ่าน”
          เขาใจดีกับผมเสมอแม้เราไม่ได้คุยกันนานมากแล้ว
           “เป็นเหมือนนิทานสั้นๆ ชื่อหิมะแห่งคิลิมันแจโร”
          เสียงกระแทกคล้ายของตกจากฟากโน้นทำผมตกใจ
          “พี่ครับ พี่ พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
          “บอกพี่หน่อยซีว่าหน้าปกนั้นเป็นชื่อใคร”
           “ครับ เอ่อ เออร์เนสต์ครับ เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์”
           “จริงๆเลยเชียว พ่อไม่ควรเอาหนังสือพวกนี้ไว้ชั้นล่างๆเลยจริงๆ” เหมือนเขาจะพูดกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับผม
           “สรุปว่าพี่เคยอ่านหรือครับ”
           “เคยสิ และฟังนะ” เขาเน้นเสียง “นายเก็บมันไว้ที่เดิมนั่นล่ะดีที่สุด ไม่ต้องพยายามอ่านต่อ มันยากไปน่ะสำหรับเด็กสิบขวบ”
           “แล้วตอนพี่อ่าน พี่อายุเท่าไหร่ครับ”
           “ตอนฉันอายุเท่านาย แต่ฟังนะมันไม่เหมือนกันหรอก นายหลงใหลในหนังสือเหมือนพ่อ นายอยากเป็นเหมือนพ่อ แต่หนังสือที่พ่อชอบอ่านมักเป็นเรื่องของผู้ใหญ่”
           “พี่หมายถึงคิลิมันแจโรคือเรื่องสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้นหรือครับ”
           “อาจจะเป็นแบบนั้น”
           “ผมรู้แค่ว่ามันเป็นภูเขาในแอฟริกา ผมรู้แค่นั้น”
           “นายรู้แค่นั้นก็พอ”
           “ถ้าผมโตกว่านี้ ผมจะมีสิทธิ์รู้มากกว่านี้ใช่ไหมครับ” ผมถามเสียงอ่อนแรง
           “ใช่” 
           “แต่ผมทนไม่ได้จริงๆนี่ครับ ผมอ่านต่อไม่ได้ ผมข้ามไปไม่ได้จริงๆ บอกผมเถิด ผมจะพยายามเข้าใจ”
           ผมนั่งฟังเสียงลมหายใจของพี่นานมาก ซู่ ซู่ ซู่ เสียงลมหายใจของพี่ฟังแล้วผ่อนคลายที่สุด ตอนที่ผมเด็กกว่านี้เสียงลมหายใจของพี่สามารถขับกล่อมให้ผมหลับไหลได้ดีกว่าเพลงที่แม่ร้อง
           “โอเค โอเค” เขายอมแล้ว “ฉันจะบอกแค่สั้นๆนะ”
           “ครับ! แค่สั้นๆก็ได้” ใจผมเต้นตึกตัก ผมอยากรู้จักคิลิมันแจโรมากขึ้น ถ้าได้รู้จักมากกว่านี้ผมอาจจะก้าวไปสู่วัยผู้ใหญ่ได้รวดเร็วกว่าเพื่อนในชั้น ผมชอบคำว่า’ผู้ใหญ่’ ผมอยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ
           “ที่ที่แม่ของเราไปก็คือคิลิมันแจโรไงล่ะ” เขาพูด “คิลิมันแจโรก็คือที่นั่นเอง”
           “พี่หมายถึงแม่หลับอยู่ที่ยอดเขาหรือครับ”
           “อื้ม อย่างนั้นล่ะ เขาใจมากขึ้นหรือเปล่า”
           ผมพยักหน้าโดยที่เขาไม่เห็น หน้าต่างห้องหนังสือของพ่อฝุ่นจับเกรอะกรัง ผมมองข้างนอกไม่เห็นเลย
           “พี่ลองฟังผมได้ไหม แล้วบอกว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า” ผมพูด “แม่หลับอยู่ในหลุมที่ลานกว้าง นั่นคือคิลิมันแจโรหรือครับ” ผมสงสัยว่ายอดคิลิมันแจโรสูงแค่นั้นเองหรือ
           “อา นายคิดอย่างนั้นก็ได้ แต่พี่คิดอีกอย่างหนึ่ง ”
           “อย่างไหนครับ” 
          “มีคนพาแม่ไปที่คิลิมันแจโรในตอนกลางคืนหลังจากที่เราเดินกลับมา เขาพาแม่ไปวันนั้นเลย”
           “ผมเข้าใจล่ะ! ในเรื่องนี้บอกว่ามีนักบินคนหนึ่งมารับเขา นักบินคนนั้นขับเครื่องบินพาแม่ไปที่ยอดคิลิมันแจโรนั่นเอง ผมเข้าใจแล้ว” ผมสูดหายใจเต็มปอด รู้สึกว่าอกผายมากกว่าเดิม ผมเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิดหนึ่งล่ะ
           “ใช่ ใช่ แบบนั้นเอง แต่ว่านะ นักบินคนนั้นพาเราไปที่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ”
           “จริงหรือครับ”
           “จริงสิ” เขาพูด “พี่บอกให้เขาพาพี่มาที่อากิฮาบาระในโตเกียว”
           “หา! จริงหรือเปล่าเนี่ย พี่อยู่ญี่ปุ่นหรือครับตอนนี้”
           “ใช่ อยู่ที่ร้านเกมในอากิบะล่ะ มีเกมและการ์ตูนมากมาย”
           “อย่างที่พี่ชอบสินะครับ”
           “อื้ม อย่างที่พี่ชอบเลย แต่คงไม่ถูกใจนายหรอก”
           “ก็ผมเล่นเกมไม่เก่งเท่าพี่” ผมขมวดคิ้วเมื่อนึกอะไรได้ “พี่ครับแต่เครื่องบินมันลำเล็กไม่ใช่หรือ มันพาพี่ข้ามฟากไปได้ถึงญี่ปุ่นเชียวหรือครับ”
           “ลำที่พี่มาเป็นเครื่องบินใหญ่ มีคนมาด้วยหลายคน เครื่องบินที่จอดกลางอากาศได้นายคงไม่เคยเห็นล่ะสิ เราไม่ได้บอกให้จอดเลยนะ แต่มันจะหยุดเองกะทันหันเมื่อถึงจุดหมายที่เราต้องการ”
           “กัปตันรับรู้ได้โดยปราศจากคำพูดหรือครับ”
           “ใช่เลย เขาเก่งมาก สวมชุดสวยอีกต่างหาก”
           “ในหนังสือบอกว่ามีฝนตก เจอพายุหิมะ และอะไรต่อมิอะไรมากมาย พี่เจอหรือเปล่าครับระหว่างทาง”
           “ไม่เจอเลย มีแต่ท้องฟ้าแจ่มใส เราบินสู่ดวงอาทิตย์เป็นวงสวย เสียดายที่พี่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้”
           “ผมอยากเห็นด้วยจัง”
           “หือ พี่คิดว่านายอยากไปอยู่กับแม่ที่คิลิมันแจโร”
           “ก็อยากไปนะครับ ถ้าไปคิลิมันแจโรก็จะเข้าถึงความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิด” ผมพูด “แต่ผมก็ยังคิดถึงพี่อยู่ดี”
           “นายร้องไห้อยู่หรือเปล่า”
           “เปล่าครับ เปล่าเลย”
           “นายอยากเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่หรือ พี่รู้ดี นายอยากรู้เรื่องราวต่างๆของโลกมากมาย พี่คงไม่มีความรู้ขนาดที่จะสอนนายหรอก ที่นี่มีแต่การ์ตูนและเกมแบบที่พี่ชอบ” เขาพูดเสียงค่อยลง “แม่เก่งเรื่องจดจำข้อมูล ไปหาแม่เถิด นายจะได้เป็นผู้ใหญ่”
           ผมคิดอยู่นาน เหม่อมองฝุ่นที่เกาะหน้าต่าง จู่ๆก็มีมวลลมพัดแรงหอบเอาฝุ่นหายไปเสียหมด ตอนนี้ผมจึงเห็นดวงอาทิตย์กลมสวยเรืองรอง
           ผมตัดสินใจได้เสียที
           “ผมอยากไปหาพี่มากกว่าครับ ไปที่อากิฮาบาระดีกว่า”
           “เอางั้นหรือ”
           “ครับ เอาอย่างนั้น ผมยังอยากเป็นเด็กอยู่ดีล่ะ” ผมตอบเขา
           “โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวพี่ไปรับ รออยู่ที่นั่นนะ”
           ผมวางสายไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะมารับผมจึงหลับตาลงได้ อกที่ผมรู้สึกว่ากว้างขึ้นตอนนี้ยิ่งดูเหมือนกว้างขึ้นอีก และมันคับแน่นขึ้นด้วย 
           ผมรู้สึกถึงแรงบีบที่มือ มือสากๆของพ่อนั่นเอง ผมรู้แค่นั้น
           ผมมองไม่เห็นพ่อหรอก 
           เห็นแต่เครื่องบินนอกหน้าต่างที่กำลังบินมาทางนี้.
           

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in