"เขยิบขึ้นบนไปก่อนค่าา อย่ายืนขวางประตูค่าาา น้องนักศึกษาเดินขึ้นบนให้หน่อยค่ะ!!" พี่สาวกระเป๋ารถเมล์ตะโกนจัดเรียงผู้โดยสารให้อยู่ในระเบียบตามที่ตนต้องการ ผู้คนต่างเบียดเสียดอัดแน่นกันขึ้นมาเรื่อยๆ ศอกสีชนกันไปมาตามจังหวะเหยียบคันเร่งของคนขับ ภายในรถมีทั้งคนที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ในมือ มองไกลออกไปนอกหน้าต่าง และพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆ รู้สึกดีเหลือเกินที่ไม่ใช่หนึ่งในคนที่ยืนอยู่ แต่ก็ไม่ได้ดีทั้งหมด คุณอาด้านข้างสับผงกและนั่งกินที่เข้ามาเกินจำเป็น คนอีกด้านก็เอากระเป๋ามาชนแขนตลอด
"เขมา มีลงก้าวออกมาเลยนะคะ!!" พี่สาวกระเป๋ารถเมล์ตะโกนบอกทางอีกครั้ง รถเบรกจอดที่ป้าย คนเดินตามกันลงไปประมาณหนึ่ง รถโล่งขึ้นนิดหน่อย ที่นั่งด้านข้างว่างแล้ว อยากลุกไปนั่งชะมัดเลยขณะกำลังอยู่ในห้วงความคิด ที่นั่งก็โดนโฉบไปต่อหน้าต่อตา แต่ช่างเถอะอย่างไงซะก็ขี้เกียจหอบของย้ายอยู่แล้ว ระยะทางใกล้จุดหมายมากขึ้น การใส่หูฟังอยู่แบบนี้ทำให้ลงลำบากอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความเคยชิน ถอดหูฟังออก แล้วนั่งฟังเสียงอื้อๆในรถแทน คุณอาด้านข้างยังคงหลับอยู่เหมือนเดิม มีความรู้สึกอยากเปลี่ยนวิวที่นั่งมองมาตลอดทาง หันไปทางที่นั่งที่เคยว่างเมื่อกี้ โจรขโมยที่นั่งคงคิดอยากเปลี่ยนวิวเช่นกัน สายตาเลยพบกันแว๊บหนึ่ง ก่อนอีกฝ่ายจะยิ้มบางๆตามความเคยชินของคนไทยออกมา มุมปากเลื่อนขึ้นริมฝีปากค่อยๆกลายเป็นเส้นตรงโค้ง พยักหน้าตอบกลับเล็กน้อยพอเป็นมารยาท เสียงประตูรถเปิดทำลายรอยยิ้มตรงนั้นให้หันกลับมาอยู่กับตัวเอง สาวท้องแก่เดินโยกเยกขึ้นมาหยุดตรงหน้าโจรขโมยที่นั่ง โจรขโมยที่นั่งลุกให้ทันที ผู้โดยสารขึ้นใหม่เบียดเข้ามาอีกครั้งทำให้โจรขโมยที่นั่งมายืนข้างๆอย่างช่วยไม่ได้ รถเคลื่อนตัวไปบนสะพานกรุงธน สภาพการจราจรบนถนนเส้นนี้ในยามเช้าติดยาวเป็นเรื่องปกติ วิวหน้าข้างยังคงเป็นแม่น้ำเจ้าพระยากว้าง ไหลเอือยๆไป การจราจรบนพื้นน้ำก็คับแน่นไม่แพ้กัน มีทั้งเรือลากจูง เรือพาย เป็นภาพที่ดูสบายกว่ารถที่เร่งรีบจอดเฉยด้านหน้าเป็นอย่างมาก ก้มมองนาฬิกา เวลาเจ็ดโมงสามสิบสี่นาที คิดได้เพียงพรุ่งนี้คงต้องออกเร็วกว่านี้ กระนั้นแล้วก็ปล่อยความคิดไปถึงกิจวัตรของพรุ่งนี้ ที่ต้องเร่งรีบ และเร็วขึ้นอีกนิด พล่างถอนหายใจยาวออกมา ชีวิตที่วุ่นวายจะไม่มีวันจบลงจนกว่าเราจะหมดลมหายใจ แต่เช่นนั้นจะมั่นใจได้อย่างไรว่าชีวิตหลังความตายจะไม่วุ่นวาย อาจจะมากกว่าตอนที่มีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ ไหนจะตั้งเจ็ดวันกว่าจะรู้ตัวว่าตาย หรือเราควรจะไปทางไหนดี เราจะติดต่อกับพนักงานนรก หรือสวรรค์ เราต้องกรอกข้อมูละไรลงไปบ้างหรือเปล่า ข้อมูลที่เราลืมไปแล้ว ข้อมูลในปัจจุบัน ช่องอาชีพควรกรอกอะไร แล้วอายุ? ที่อยู่ก็ต้องย้าย ต้องเตรียมเอกสารอะไรไหม แค่คิดก็วุ่นวายแล้ว ความคิดฟุ้งซ่านและล่องลอยไปเรื่อยๆ ขึ้นไปบนปุยเมฆที่ความกดอากาศต่ำ
'ปี้นนนน ปี้นนนนน ปี้น ปี้น!' เสียงแตรรถกระชากความคิดกลับมาอยู่ในตัวรถเมล์ปรับอากาศ และถนนที่ยังติดแน่นขนัด รถโตโยต้าบลอนเทาคันหนึ่งกำลังย้ำหนักที่แตรรถให้มอไซต์ข้างหน้าเคลื่อนตัว สายตานับสิบมองตรงไป หลากหลายอารมณ์ ฉันชอบสังเกตุสีหน้าของผู้อื่น และคิดเรื่องราวต่างๆขึ้นเองในหัว เป็นอย่างหนึ่งที่ทำตอนที่รถติดเช่นนี้ แต่ข้อควรระวังคือ อย่าจ้องเขานานเกินไป ไม่งั้นเราจะกลายเป็นโรคจิตทันที อย่างเช่น...
อ้ะ! ดูคุณป้าคนนั้นสิ เธอนั่งติดชิดหน้าต่างใกล้กับรถโตโยต้าบลอนเทาคันนั้น สายตาจ้องไปที่ตัวเลขบนป้ายทะเบียนรถ ในหัวคงกำลังคำนวณปรับตัวเลขสี่ตัวให้อยู่ในสองตัวพอดี และลุ้นในสองวันข้างหน้า หรือสาวนักศึกษาที่แอบยกกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเหตุการณ์ แล้วเม้ามอยกับกิ๊บซี่และแนนนี่ในกรุ๊บไลน์ไร้เชอร์รี่คีบแชแนล 'แกร!! รถมันบีบแตรเสียงดังมากเลย คนมองทั้งถนน' กดส่งอย่างรวดเร็ว หรือคุณลุงที่อยู่ตร- - - - -
*เสียงดนตรี* And when they let you down The morning rolls around It’s another day of sun It’s another day of su- - - ฮัลโล เออ ถึงสะพานซังฮี้แหละ รถอย่างติดเลย...
ตากว้างขึ้นอย่างตกใจ กลั้นยิ้มไหล่ไหวเล็กน้อย นึกถึงตอนที่นั่งในโรงหนัง จอขนาดใหญ่ฉายภาพจากเรื่องla la land เหตุการณ์ช่างเหมือนในหนังชะมัด จะขำแล้วนะ
"พุบ...!"
หัวคิ้วกระตุกขึ้นชนกัน เสียงพ่นลมที่เหมือนพยายามกลั้นไว้เล็ดลอดออกมาดังจากเหนือหัว พร้อมๆกับเสียงกลั้นขำของตัวเอง เงยหน้าขึ้นมองโจรขโมยที่นั่งกำลังยืนอมยิ้มมองคุณอาข้างๆเจ้าของเสียงริงโทน another day of sun ที่สะดุ้งตื่นมารับโทรศัพท์ ฉันได้แต่คาดเดา และคิดเรื่องราวในหัวไปตามที่ฉันถนัด ฉันยังคงจ้องหน้าโจรนั้น
เจ้าโจรนี่ต้องเคยดูla la land
หรือ
เจ้าโจรนี่ขำที่คุณอาสะดุ้งตื่น
"ป้าย!!" พี่สาวกระเป๋าตะโกน ทำให้รู้ตัว ถึงป้ายที่ต้องลงแล้ว ลุกขึ้นผงกหัวให้โจรขโมยที่นั่งเพื่อขอทางเดินแล้วพุ่งตัวลงขั้นบันไดเล็ก อย่างหวุดหวิด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in