เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
overwhelmed by youpumpkin
it's raining in paris

  • ไฟสลัวในร้านกาแฟ 

    le café noisette ในมือ

    เพลงแจ๊สที่เปิดคลอเบาๆ

    สายฝนที่กระทบลงบนบานกระจก









    1.

    เสียงครืดคราดจากแท่งแกรไฟต์ที่ลากผ่านกระดาษดังขึ้นเป็นช่วงๆ

    ไคล์จดจ่อกับสมุดวาดรูปในมือ ขยับมือลงน้ำหนักเส้นสีดำ ลากมันเป็นเส้นสายโค้งมนสลับกับเส้นตรง  ก่อนที่เสียงหนึ่งจะเรียกเขากลับมาในโลกแห่งความเป็นจริง


    "ตรงนี้มีคนนั่งไหม?"


    ไคล์สะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่ขัดจังหวะการวาดรูปของเขา กวาดสายตามองไปรอบร้านก่อนจะค้นพบว่าเก้าอี้ทุกตัวถูกจับจองไปแล้ว 


    "ไม่มีครับ"


    เขานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามทันทีที่ไคล์พูดจบ แว่นกันแดดที่สวมอยู่ถูกถอดออกมาเกี่ยวไว้บนกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ต เผยให้เห็นนัยน์ตาสีฟ้าชวนมอง 


    ราวกับถูกสะกดด้วยดวงตาสีน้ำทะเลนั้น


    เขาแต่งตัวคล้ายกับพวกไบค์เกอร์ — เสื้อยืดลายวงดนตรีชื่อดัง คลุมทับด้วยบอมบ์เบอร์แจ็คเก็ตหนัง ยีนส์ขาดๆ กับรองเท้าแวนส์โอลด์สคูล ทุกอย่างเป็นสีดำ 


    "เฮ้" คนตรงหน้าดีดนิ้วใส่หน้าเขา ไคล์สะดุ้งจนเผลอทำดินสอหลุดมือ


    "คะ..ครับ?"


    "เห็นคุณมองฉันนานแล้ว"


    "เออคือ.."


    คนตรงหน้าเลิกคิ้ว


    "ขอโทษที คือผมไม่ได้ตั้งใจจะ.." ไคล์ทำสีหน้าเลิกลั่ก 


    คนตรงหน้ายกยิ้มมุมปาก "ฉันก็ไม่ได้จะว่าอะไรสักหน่อย"


    ไคล์ก้มหน้างุด พยายามวาดรูปที่ค้างต่อ แต่ตาก็พาลแต่จะเสไปมองเจ้าของดวงตาสีฟ้าที่นั่งฝั่งตรงข้าม  จมูกโด่ง กรามคมสันได้รูป งดงามราวกับรูปสลักหินอ่อน ก่อนที่พวกเขาจะสบตากัน 

    ไคล์รู้สึกราวกับหลงทาง หลงเข้าไปในดวงตาคู่สวยนั้น เขาสาบานว่าไม่เคยเห็นใครที่ตาสวยเท่านี้มาก่อน นัยน์ตาสีฟ้า ฟ้าน้ำทะเล สงบ ลุ่มลึก เพลงแจ๊สที่เปิดคลอเบาๆกับเสียงสายฝนที่กระทบลงบนบานกระจกยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน 

    ไคล์คิดว่าเขาเห็นทูตสวรรค์


    คนตรงหน้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้เขา "จ้องอะไรนักหนา หน้าฉันมันมีอะไรติดอยู่งั้นหรอ"


    ใกล้

    ใกล้เกินไป


    "ปะ..เปล่าคือ"


    อีกฝ่ายยกยิ้มก่อนจะเอนหลังพิงพนักพิงเก้าอี้


    "นายเป็นพวกจิตรกรงั้นสิ"


    "อืม ก็ใช่"


    "ฉันอาสาเป็นแบบให้สนใจไหม"


    ไคล์เบิกตากว้าง แปลกใจที่คนตรงหน้าพูดมันออกมาราวกับอ่านความคิดเขาได้ เขารีบพยักหน้ารับข้อเสนอก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ






    2.

    ฝนยังคงตกกระหน่ำแบบไม่มีท่าทีจะซาลงสักนิด


    "เราจะไปกันเลยไหม"


    "แต่ว่าฝนมันยังตกอยู่นะ"


    "ไม่เป็นไร ฉันเดินตากฝนได้"


    ไคล์เลิกคิ้วมองคนตรงหน้าที่เดินนำเขาออกจากร้าน


    "เออ ฉันเจสัน"


    "ไคล์ครับ"


    "ยินดีที่ได้รู้จัก ไคล์"






    3.

    "นายรู้ใช่ไหมว่าฉันล้อนายเล่น"


    ไคล์หน้าเหวอ "..ล้อเล่น?"


     เจสันไหวไหล่เบาๆ "เรื่องที่ฉันบอกว่าจะเป็นแบบให้นาย" อีกฝ่ายหันมามองหน้าเขาก่อนจะหลุดขำ "ฮ่าๆ นี่นายเชื่อฉันจริงดิ"


    "ก็.."


    "ฉันแค่เบื่อน่ะ แล้วนายก็อยู่ตรงนั้นพอดี" 


    ไคล์มองสบเข้าไปในดวงตาสีฟ้าของอีกฝ่าย พยายามจะหาความหมายในดวงตาคู่นั้น ละอองน้ำฝนเกาะอยู่บนแพขนตาและเจ้าตัวไม่สนใจจะเช็ดมันออกสักนิด เขาเอื้อมมือไปเกลี่ยละอองเหล่านั้นออกจากเปลือกตาของอีกฝ่ายอย่างเบามือ เจสันมองเขาด้วยความประหลาดใจ


    "ขอโทษที"


    "ขอบใจ แต่เดี๋ยวมันก็เปียกอีกอยู่ดี"


    "คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะคอยเช็ดให้"







    4.

    ไคล์เดินตามหลังเจสัน สายฝนปรอยปรายตกกระทบลาดไหล่ของคนตรงหน้า ส่งผลให้เสื้อผ้าลู่แนบชิดกับลำตัวเผยสัดส่วนของอีกฝ่าย มัดกล้ามสวยได้รูป เอว  ราวกับนี่คือประติมากรรมชั้นเลิศที่พระเจ้าตั้งใจปั้นแต่ง เขานึกอยากจะหยิบสมุดวาดรูปมาสเก็ตช์ภาพตรงหน้า ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดเหล่านั้นทิ้ง


    ฝนแรงขึ้นจนเขากลัวประติมากรรมชิ้นเอกตรงหน้าจะเสียหาย ไคล์ตัดสินใจคว้าข้อมือของอีกคนก่อนจะกึ่งจูงกึ่งลากเข้าไปหลบในร่มที่ใกล้ที่สุด 


    "คุณเปียกไปหมดแล้ว" ไคล์พูด เอื้อมมือไปเช็ดหยาดน้ำฝนออกจากไรผมของอีกคนอย่างเผลอไผล 


    "นิดหน่อยเอง"


    "ป่วยมาจะแย่เอานะ"


    "shh, you talk too much" เจสันหันมามองหน้าเขา ก่อนจะตวัดแขนโอบรอบลำคอ "I can think of better ways to use that mouth"







    5.

    เวลาเกือบสี่ทุ่ม ฝนหยุดตกแล้ว พวกเขาเดินเลียบแม่น้ำแซน เสียงเพลงโฟล์กดังมาจากนักดนตรีเปิดหมวกข้างทาง ประกอบกับแสงไฟสลัวที่สาดกระทบลงบนใบหน้าของอีกฝ่าย หัวใจของเขากระตุกวูบ 

    เขาอยากจะหยุดเวลา หยุดทุกอย่างไว้ที่ตอนนี้ อยากจะเอาภาพเหล่านี้ไปวาดลงสมุดสเก็ตช์เล่มโปรดจนกว่ากระดาษจะหมด


    "ฉันต้องไปแล้วล่ะ"


    แล้วความฝันของเขาก็ทลายลง 


    "ให้ผมเดินไปส่งไหม"


    "นี่ ฉันโตแล้วนะแค่นี้เดินกลับเองได้หน่า"


    ก็แค่อยากจะอยู่กับเขานานกว่านี้


    "เราจะได้เจอกันอีกไหม" ไคล์พูดออกไปก่อนที่สมองจะทันคิด 


    "อืม..ไม่รู้สิ"


    เจสันกระซิบที่ข้างหูเขาก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เขายืนนิ่งจากลมหายใจร้อนที่เป่ารดข้างหู กับกลิ่นน้ำหอมของอีกคนที่ยังติดอยู่ที่จมูก


    "maybe"




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in