เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Santa Monica and You.optimushwangirl
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน Santa Monica and You.
  •  

     




    (1)

     

    Santa Monica

     

     

     

     


                ผมได้ข่าวว่าน้องมันไปแอลเอพี่เจอกันหรือเปล่า

     

                ข้อความจากองซองอูทำให้ผมปลายตาหันไปมองร่างสูงใหญ่ที่นั่งพิงกำแพงสายตาเขาทอดมองไปยังวิวภายนอกห้องนอนตอนนี้

     


                ไม่เจอ

     

     

     

    ที่ไหนกันล่ะ!

     


                ทันที่ที่ผมมาเหยียบแผ่นดินอเมริกา จู่ ๆ ก็มีสายเข้าเป็นเบอร์ที่ผมไม่รู้จักโทรเข้ามาเสียงหายใจและประโยคแรกที่เขาเอ่ยขึ้นมันทำให้ผมใจเต้นผิดจังหวะ

     

     


              [อยากเจอ..]

     


              เสียงทุ้มติดสำเนียงปูซานมันคุ้นหูจนผมไม่ต้องเอ่ยถามชื่อจากคนปลายสาย

     

              ดะ..แดเนียล” อ่า..ผมว่าจะผมตั้งใจควบคุมเสียงไม่สั่นแล้วนะแต่ทำไงได้ ตอนนี้ดันตื่นเต้นซะงั้น

     


              [มาเจอกันหน่อยสิ…พี่ซองอุน]

     


              “นายอยู่ที่นี่..?”จากที่ซองอูบอกมาแดเนียลเพิ่งบินมาถึงก่อนผมไม่นานมานี้เองแต่เขาหาทางติดต่อผมได้เร็วขนาดนี้ได้ไงทั้งที่เราสองคนขาดการติดต่อกันไปร่วมเดือนด้วยซ้ำ

     


              ผมรู้เรื่องราวบางอย่างที่กำลังเป็นปัญหาของแดเนียลที่ผ่านมาผมทำได้เพียงให้กำลังใจเท่าที่มีโอกาสผมรู้มันไม่ง่ายหรอกแต่แดเนียลจะผ่านไปได้

     


    ผมเชื่อในตัวเขาน่ะ เชื่อเขาเหมือนที่ใครหลาย ๆ คนก็เชื่อเช่นกัน

     

     

     

    จ้องกันแบบนี้ มีอะไรจะถามผมเหรอเพราะแดเนียลรู้ตัวว่าถูกจ้องอยู่เขาจึงหันมาหาผม

     



    พี่แค่..อยากรู้ว่านายสบายดีไหม

     



    เป็นคำถามที่คงมีคนนับหมื่นนับแสนอยากจะรู้เหมือนกับผม

     


    ต้องการคำตอบแบบไหนล่ะ แบบที่ทุกคนต้องการ หรือ..”ร่างสูงเอี้ยวตัวหันมาจ้องหน้าผมสายตาเราสบกัน

     


                “แบบที่นายรู้สึก”ผมสวนกลับไปก่อนที่เขาจะเอ่ยจบ อยู่กับพี่…นายอยากพูดอะไร อยากทำอะไร ก็ทำได้นะ

     


                “หืม…ได้หมดเลยเหรอแดเนียลเม้มปากเบาๆ สายตายังคงจับจ้องมองมาไม่หยุด


     

                สายตาแบบนี้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างไรก็ไม่รู้แดเนียลใช้สายตาเก่งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมรู้ดี


     

                เดี๋ยวตีเลยจ้องเก่งเกินไปแล้วนะ!”ผมขึ้นเสียงใส่แดเนียลที่เอาแต่อมยิ้มใส่ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง


     

                ไปหาอะไรกินกันไหมพี่หิวอะผมเปลี่ยนเรื่องเมื่อแดเนียลยังคงจ้องหน้ากันไม่หยุด


     

                “ไปดิ ไปร้านที่เราเคยมาด้วยกันตอนนั้นดีปะ”แดเนียลเสนอ


     

                “แถวหาดใช่ไหม”


     

                “ใช่..”


     

                พอเขาเอ่ยถึงตอนนั้นภาพความทรงจำที่เคยมาที่นี่ด้วยกันกับเพื่อนพี่และน้องอีกสิบคนก็ย้อนกลับเข้ามาในความคิด


     

                อืมคิดถึง

     


                เมื่อเกือบสองปีที่แล้วผมเพื่อนร่วมวงอีกสิบคนเดินทางมาเล่นคอนเสิร์ตที่ลอสแองเจลิสและได้ไปเที่ยวที่หาด Santa Monica ด้วยกัน และในตอนนี้ผมก็กลับมาที่นี่คนเดียวอีกครั้ง


     

    ..ไม่ใช่คนเดียวสิ ในเมื่อเจ้าคนตัวโตที่เดินข้าง ๆดันโผล่มาให้เจอถึงที่นี่เสียอย่างนั้น

     


                แปลกดีที่หัวใจผมมันเต้นแรงเพียงแค่ได้เห็นแผ่นหลังกว้าง ๆ นั่นในชุดเสื้อยืดสีเข้มสบาย ๆ เข้ากับกางเกง Adidas สีดำที่แดเนียลชอบใส่ประจำเพียงแค่นี้ก็ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มหลุดยิ้มออกมาอาจเพราะไม่ได้เจอกันเกือบสองเดือนได้ล่ะมั้งถึงรู้สึกคิดถึงเขามากกว่าปกติ

     


     

     



     

    หลังจากที่ขออนุญาตผู้จัดการเพื่อออกมาข้างนอกกับรุ่นน้องคนสนิทแบบส่วนตัวแล้วผู้จัดการก็ยังกำชับอย่างหนักแน่นว่า อย่าให้ใครถ่ายภาพได้ ซึ่งผมก็รับปากแค่โดยดีจะไม่ให้หลุดหรอก เนียนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เชื่อสิ! และแล้วกลายเป็นว่าตอนนี้หนุ่มเอเชียสองคนก็ได้นั่งอยู่ในร้านอาหารกึ่งบาร์ที่เคยมาด้วยกันครั้งที่แล้วพวกเขาเลือกทานอาหารอเมริกัน พร้อมกับ Craft Beer คนละขวดเช่นเคย


     


    ช่วงพลบค่ำริมหาดยังเต็มไปด้วยผู้คนไม่ได้ลดน้อยลงเท่าไรนักท้องทะเลสีครามของมหาสมุทรแปซิฟิกตัดกับแสงอาทิตย์ที่กำลังอ่อนแสงลงแต่ยังคงสาดส่องไปทั่วท้องฟ้ากระทบกับก้อนเมฆสีขาวจนเกิดภาพที่สะดุดตาเจ้าชายแห่งก้อนเมฆให้หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเก็บภาพวิวนั้นไว้ก่อนคนตัวเล็กจะหันมาหาคนข้างกายพร้อมรอยยิ้มที่คนตัวโตเคยบอกว่ามันน่ารักมากๆ


     

    แดเนียล..ถ่ายรูปกันแดเนียลรู้งานดีจึงหันมาส่งยิ้มมองกล้องผมเอียงคอไปซบกับไหล่กว้าง ๆ ของแดเนียล คนตัวโตตัวแข็งนิ่งเหลือบตามองผมล่อกแล่กเพราะเขาไม่ชินกับการที่ผมเริ่มก่อนล่ะมั้ง


     

    เสียงกดชัตเตอร์ดังไปพร้อมกับรอยยิ้มของทั้งคู่

     

     

    มันคือภาพที่มีแค่เรา

     

     

    แค่เราจริง ๆ

     

     

     

    พี่มีงานวันไหนระหว่างที่ทานอาหารแดเนียลก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา


     

    พรุ่งนี้ มาดูดิ


     

    อยากไปนะ แต่ยากว่ะ คนรู้แน่..”


     

    เออ นั่นดิ ก็เสี่ยงไป


     

    “’งั้นทำให้เต็มที่แล้วกัน พี่เก่งอยู่แล้วผมรู้ จะรอดูคลิปนะครับแดเนียลยิ้มจนตาหยีใส่ผม


     

    ทำไงดีหัวใจผมมันจะระเบิดแล้ว!


     

    เขินเหรอ


     

    เปล่าซะหน่อยผมพูดปด


     

    คนเราอะอยู่ด้วยกันมาตั้งสองปีจะเดาไม่ออกได้ไงว่าแบบไหนเขิน แบบไหนโกรธเสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ผมคาดเดาไม่ออกแต่สายตาที่เขามองมามันยิ่งเพิ่มความแดงของใบหูและใบหน้าผมได้ดี


     

    “…”


     

    แล้วแบบเนี้ยคือเขินผม ดูออก


     

    แล้วแบบไหนคือคิดถึงล่ะไหน ๆก็โดนเด็กมันเล่นงานแล้ว เจอกันสักตั้งเป็นไง


     

    แบบผมไงแดเนียลยักคิ้ว พลางยิ้มมุมปาก คิดถึงจะแย่ ไม่งั้นไม่มาถึงนี่หรอกนะ”

     

     

     

    จบกัน


     

    ใครจะทนก็ทนไป แต่ผมน่ะ ไม่ทนโว๊ย!



     

    คังแดเนียลมันอ้อนเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ให้ตายเถอะไม่ใช่ว่าแต่ก่อนผมจะไม่เคยเจอเหตุการณ์แนว ๆ นี้หรอกนะ ตอนนั้นเขามากอด มาวอแว มาดมมาอุ้ม จิ้มแก้ม จับหน้าอก จับก้น ก็คือไอ้เด็กนี่มันทำกับผมมาหมดแล้วแถมยังไลฟ์ไปบอกว่าผมเป็นความรัก ผมน่ารักต่าง ๆ นานาอีก แต่ก็นั่นแหละทั้งหมดทั้งมวลยังไม่เขินเท่ากับคำว่าคิดถึงที่น้องมันหมายถึงเมื่อกี้เลยว่ะ


     

    อาจเพราะว่าผมก็คิดถึงเขามากเหมือนกันไงถึงทำให้ความหมายของคำนี้มันพิเศษกว่าครั้งไหน ๆ


     

    งั้นก็อย่าหายไปนาน ๆ สิ พี่ก็คิดถึงนายนะ


      

    ครับจะไม่หายไปไหนอีกแล้วล่ะ

     

     

     

     


    ตอนนี้ทุกอย่างโอเคใช่ไหมแดเนียลถามผมหลังจากที่พวกเราทานอาหารเสร็จสิ้น พวกเราย้ายตัวเองมานั่งริมหาด 



    ขวดเบียร์ที่มีเพียงหนึ่งก็เพิ่มมาเป็นสองแดเนียลยกขวดชึ้นมาชิดริมฝีปากก่อนจะกระดกเบียร์กลืนลงลำคอใบหน้าเรียวเมียงมองมายังผมที่กำลังนั่งชันเข่าเท้าคาง ในมือถือขวดเบียร์แกว่งไปมา


     

    โอเคเลยล่ะ สนุกนะที่ได้ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เคยได้ทำแต่มันก็มีนิดนึงที่รู้สึกคิดถึงวันเก่า ๆ แต่ก็นั่นแหละอย่างที่พวกเราเคยคุยกันทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้น


     

    ผมถอดมองไปยังหาดทรายและท้องทะเล ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปได้ไม่นานนักแต่ยังหลงเหลือเพียงแสงรำไรพอจะให้เห็นเสี้ยวหน้าขงแดเนียลที่นิ่งเงียบไป


     

    นายน่ะทำได้ดีแล้วนะแดเนียล


     

    “….”


     

    ในวันข้างหน้าสัญญานะว่าเราจะได้เจอกันบนเวทีประกาศรางวัลสักงานหนึ่งพี่จะนั่งดูโชว์ของนาย และนายก็จะดูโชว์ของพี่ เราจะได้ไปคอนรวมด้วยกันไปเจอกันตามรายการวาไรตี้ พี่อาจจะได้แต่งเพลงให้นายร้องสักเพลงมันคงดีมาก ๆ เลยว่าไหม”


     

    พี่ซองอุน…”น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะดึงร่างผมเข้าหาตัวเขา

     

     

    กอดที่ผมคุ้นเคย

     

     

    กอดที่ให้ความอบอุ่น

     

     

    กำลังสั่นไหว

     

     

    เชื่อพี่นะ และพี่ก็เชื่อในตัวนาย คังแดเนียลนายนะเก่งที่สุดเลย

     

     

     

     

    It's so sweet, knowing that you love me.

     

     

     

     

     

     

     

     

     



    (2)

     

    You

     



     

                ขอกอดหน่อยไม่ทันที่ประตูห้องจะปิดด้วยดี ผมรวบร่างเล็ก ๆ ที่เอ่ยคำขอนั่นเข้ามาในอ้อมกอดทันทีเมาแล้วน่ารักแบบนี้ ไม่ชอบหรอกนะ…

     


                พี่มินฮยอนเคยบอกว่าช่วงที่เป็นเมทกับพี่ซองอุนน่ะ เวลาคนตัวเล็กเมาทีไรตื่นมาอีกทีถอดเสื้อผ้าเกลื่อนเตียงไปหมด ถอดเก่งขนาดนี้ควรมานอนกับผมปะ…ให้ตายเหอะ


     

                ตอนนั้นยังมีแพคอยู่เลยเดี๋ยวนี้มันหายไปไหนแล้วล่ะพี่จำได้ดีจำได้ขึ้นใจว่าในคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของพวกเราพี่ซองอุนโชว์อะไรไว้ฮือฮากันทั้งฮอล์ไหมล่ะแต่ไอ้พี่ก็ดูไม่สนอะไรเลยก็นะโชว์เก่งตั้งแต่ตอนอยู่ในรายการแล้วคนนี้


     

                 “ปากนิ่มเหมือนเดิมไหมพี่ลองหน่อยดิ


     

                ริมฝีปากอวบอิ่มถูกครอบครองด้วยริมฝีปากของคนที่ตัวสูงกว่าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวแต่ถึงอย่างนั้นคนในอ้อมก็กอดเงยหน้ารับจูบอย่างเคยชิน ระหว่างเราสองคนน่ะคุ้นเคยกันและกันดี จุดไหนที่พี่ซองอุนชอบ จุดไหนที่จะทำให้เขามีความสุข…ผมรู้ ไม่ต่างกัน เขาเองก็รู้ว่าผมชอบแบบไหน


     

                ร่างกายของเรามันทำงานไปตามสัญชาตญานความต้องการที่ไหลวนอยู่ภายในเริ่มปลุกความเป็นตัวตนของเราสองคนริมฝีปากอวบอิ่มกดย้ำจูบบนกลีบปากล่างของผม ขบเม้มแผ่วเบาอย่างเคลิบคลื้ม ผมลากลิ้นเลียไปตามริมฝีปากอวบอิ่มเชื่องช้าก่อนจะแทรกมันเข้ามาภายในโพรงปากอุ่น สัมผัสเร่าร้อนเต็มไปด้วยรสชาติของเบียร์ที่ดื่มมาเมื่อก่อนหน้านี้ยิ่งทำให้ผมและเขาดำดิ่งไปนห้วงอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ




     

                อื้อ..”



     

                อ่า..คิด..ถึง..”ผมเอ่ยไปพร้อมกับพรมจูบปรายคางมน ไล่มายังแก้มเนียน คลอเคลียปรายจมูกรั้น ๆ น่ารักก่อนจะกลับไปยังริมฝีปากอวบอิ่มที่ผมหลงใหลอีกครั้ง



     

                ความร้องแรงทวีคูณจนไม่ได้สนใจเลยว่าเราจูบกันไปนานเท่าไหร่เพราะต่างคนต่างใช้เวลานี้บอกรักกันอย่างไม่รู้จบ



     

     

                อา..จูบอีก..จูบพี่อีก


     

                ผมน่ะไม่เคยขัดใจคนตัวเล็กหรอก

     

     

                จูบของพี่ซองอุนเหมือนยาเสพติดที่พอเริ่มติดแล้วก็อยากจะลองมันเพิ่มขึ้นไปอีก สัมผัสหวาน ๆ จากคนตัวเล็กปลุกปั้นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งลิ้นอุ่น ๆ นั่นหยอกเย้ากับปลายลิ้นของผมจนน้ำใส ๆ ไหลเยิ้มออกมาเลาะขอบปากก็ยิ่งทำให้อารมณ์ที่มีอยู่พุ่งสูงขึ้นจนทรมานไปทั้งร่าง


     

     

                “ดะ..เนียล อืม..”


     

                ริมฝีปากแดงระเรื่อครางเสียงออกมาเมื่อสัมผัสชื้นแฉะแตะแต้มไปทั่วลำคอผมจูบย้ำลงไปตรงร่องกลางระหว่างไหปลาร้าของคนที่นอนปรือตาอยู่บนเตียง


     

                ผมค่อยเลื่อนมือไปถอดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนบนตัวของพี่ซองอุนมือสองข้างของคนตัวเล็กกึ่งเปลือยโอบรอบคอ ก่อนจะค่อย ๆเลื่อนไล้มือมาตามลาดไหล่หนา ลากผ่านหน้าอกที่แน่นด้วยกล้ามเนื้อ พลางใช้นิ้วเรียวๆ สะกิดกระดุมเสื้อบนตัวผมเช่นกัน



     

                พี่ ยะ..อยากกอดนาย”ผมดึงร่างคนตัวเล็กที่กึ่งนอนกึ่งนั่งให้ลอยขึ้นมาก่อนจะจับสะโพกมนมานั่งทับบนทักตัวเอง


     

                ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันจนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่กระชั้นขึ้นตามแรงขับจากภายใน ใบหน้าหวานแดงเรื่อเมื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่คับแน่นภายใต้เนื้อผ้าที่นั่งทับอยู่


     

                แน่นไปหมดแล้วนะคนตัวเล็กชี้นำ


     

                “ทำไงดีล่ะครับ ผมว่ามันอยากเจอพี่นะ”ผมเงยหน้าไปสบตาเขาก่อนจะหยอกเย้าด้วยรอยยิ้มเรามองกันอย่างรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ พี่ซองอุนหัวเราะเบา ๆก่อนจะก้มใบหน้าลงมากดจูบข้างใบหูผม ลิ้นเล็ก ๆ และปากอวบอิ่มดูดเม้มบริเวณผิวเนื้อผมเบาๆ


     

                ไหน ๆ แล้ว..คงต้องเจอกันหน่อยแล้วล่ะ ยังว่านอนสอนง่ายเหมือนเดิมหรือเปล่าน้า”


     

                “อยู่แล้ว มันน่ะชอบพี่จะตาย ลองจับดูสิครับ”

     

     

     

     



     

                อืม..ม”ร่างกายผมกำลังถูกคนตัวเล็กเล่นงานด้วยสัมผัสชื้นๆ นั่น ปลายลิ้นที่ครอบครองผม นิ้วมือที่กำลังรูดขึ้นลงไปมายิ่งถี่เท่าไรเสียงลมหายใจของผมก็ยิ่งขาดห้วงอย่างทรมาน


     

                “อื้ม ม..มันดิ้นสู้จังอะเสียงหวานเอ่ยขึ้นเบาๆ พลางเงยหน้ามาสบสายตาผมที่จ้องเขาอยู่


     

                “กะ..ก็พี่กำลัง..อะ..แกล้งมันนี่นา”ผมเอ่ยอย่างติดขัดสติสัมปะชัญญะไหลลงไปกองตรงหว่างขาหมดแล้ว รวมถึงเลือดในกายด้วย เพราะตอนนี้น่ะมันแข็งจนแทบปริแตกร่อมร่อ


     

                “แล้วชอบไหม..”


     

                “…โคตรอะ ใกล้แล้ว…อ่า..”

     




     

                ผมเอนตัวนอนลงกับเตียง พลางรั้งร่างคนตัวเล็กที่กำลังก้มเงย ๆ เพลิดเพลินกับการปั่นป่วนผมให้เปลี่ยนมานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหากันปากหยักจูบเม้มกดสัมผัสเข้ากับปากอวบอิ่มซ้ำ ๆ ใช้มือเรียวยาวลูบไปตามสีข้างและแผ่นหลังเนียนก่อนจะค่อยไล่ไปจนถึงสะโพก พลางลูบไล้ก้อนกลม ๆ สองก้อนนั้นที่ทั้งนิ่มและเด้งผมใช้นิ้วชี้และกลางแทรกผ่านก้อนกามสองก้อนนั่นไปแตะสัมผัสกับช่องทางที่เริ่มชื้นระหว่างนั้นอีกมือหนึ่งที่ว่างอยู่แตะสัมผัสกับแกนกายของคนตัวเล็กที่กำลังแข็งชัน ผมรูดขึ้นลงเร่งจังหวะหน่อยๆ จนพี่ซองอุนหลุดเสียงครางออกมา และความชื้นแฉะจากปลายแท่งนั่นก็บ่งบอกว่าทุกอย่างกำลังพร้อมแล้ว

     

     

     

    Though we don't need to say it to each other, sweet

     

     


     

    ลมหายใจของคนตัวเล็กกว่าค่อยๆ  ถี่ขึ้นสลับปล่อยเสียงวาบหวามออกมา เมื่อตัวตนของผมแทรกเข้าไปในตัว


     

    อะ..นะ..แน่น แดเนียล..อา


     

    อืม..อีกนิดนะ


     

    ยะ..เพิ่งดัน..พี่ จุก


     

    “..อ่าเพราะใบหน้าหวานเหยเกผมเลยหยุดที่จะขยับร่างกายเพื่อเข้าไปให้ลึกกว่าเดิมคงต้องรออีกนิดให้พี่ซองอุนปรับตัวได้เสียก่อน

     


    ผมก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มที่เจ่อแดงอีกครั้งปลอบประโลมคนตัวเล็กด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน ในช่วงที่คนตัวเล็กกำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ผมมอบให้ร่างสูงจึงค่อย ๆ ดันตัวตนให้ลึกเข้าไปอย่างเชื่องช้าจนมิด


     

    อ๊ะ..”


     

    พี่ซองอุนใช้จมูกคลอเคลียกับจมูกผมมือเล็กโอบรอบคอแกร่งที่กำลังเริ่มขยับกายเป็นจังหวะเนิบนาบ ทุกจังหวะที่ขยับเขยื้อนกายเรียกเสียงครางสลับกับลมหายใจถี่ๆ ของคนตัวเล็กได้ดี ผมจับเรียวขาพี่ซองอุนให้อ้าออกรับสัมผัสที่แนบแน่นขึ้น  ก่อนจะยกขาข้างหนึ่งมาพาดบนไหล่และเร่งจังหวะโดยกระแทกสะโพกเข้าไปเน้นๆ


     

    ช้า สลับ ถี่



     

    เนิบนาบ สลับเร่งเร้า..



     

    วนอยู่อย่างนั้น



     

    ยิ่งตรงจุดไหนที่เสียงหอบหายใจของคนตัวเล็กถี่กระชั้นขึ้นผมจะยิ่งเน้นคลึงอยู่จุดนั้นซ้ำๆจนพี่ซองอุนหลุดครางไม่ได้ศัพท์ออกมา

     


    แรงปรารถนาที่พุ่งทยานสูงขึ้นเรื่อยๆ เผาไหม้เราสองคนจนลืมสิ้นความจริงใด ๆ สติและความนึกคิดต่าง ๆ ที่มีกำลังถูกสัญชาตญานครอบงำให้จดจ่อไปกับสัมผัสของร่างกาย


     

    เราสองคนต่างกำลังบอกรักกันนับพันครั้ง



     

    บอกรักกันผ่านร่างกาย

     


     

    Though we don't need to say it to each other, sweet

    Knowing that I love you, and running my fingers through your hair

      

     

     



                ผมจูบเบา ๆที่ขมับของคนตัวเล็กที่นอนหมดแรงหลังจากผ่านกิจกรรมเรียกเหงื่อกันไปไม่นานพี่ซองอุนครางเบา ๆ รับสัมผัส ก่อนจะพาดแขนมากอดผมไว้ ใบหน้าหวานซุกซบกับหน้าอกผม ผิวกายเนียนขาวแดงระเรื่อเล็กน้อยเพราะเสียดสีกับเตียงและเกิดจากการสัมผัสของผม



     

                พรุ่งนี้จะเป็นไงนะเสียงงึมงำของพี่ซองอุนเอ่ยขึ้นมาราวกับกังวลอะไรบางอย่าง


     

                พี่ระหว่างเราน่ะ..มัน”


     

                “แดเนียลพี่อยากมีนายนะแต่ก็รู้ใช่ไหมว่ามันไม่ง่ายเลยใบหน้าหวานที่ซบหน้าเข้ากับหน้าอกผมอยู่ก่อนนี้เงยขึ้นมาพลางสบสายตากับผมนิ่งๆ


     

                รู้สิ มันไม่ง่ายตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ด้วยกันแล้วไง


     

                “อือ..ตอนนั้นน่ะ นายแสดงออกมากไปด้วยซ้ำ”


     

                “ก็..”ผมปฏิเสธไม่ได้เลยเพราะที่เขาพูดมามันจริง ตอนที่อยู่ในวงน่ะ ใคร ๆ ก็รู้ว่าผมชอบเขาแค่ไหนทำทุกอย่างขนาดนั้น ดูไม่ออกก็แย่แล้ว


     

                ถึงกับไปบอกว่ามีคนลือว่าพี่เป็นแฟนสาวของนาย พี่เห้นแฟนคลับงงกันใหญ่เลยล่ะ


     

                ผมหัวเลาะลั่นกับประโยคที่เขาพูดใช่ในรายการนั้น ผมเป็นคนพูดถึงเองทั้งหมดจนวันต่อมาถึงกับเป็นข่าวในอินเทอร์เน็ต


     

                แล้วไงอะซองอุนแฟนสาวของคังแดเนียล


     

    ผมว่าก็เพราะดีว่านะ


     

    พี่ลงรูปผมบ้างดิ


     

    บ้าเหรอ ไม่..”


     

    ทำไมอะ


     

    เสี่ยงเกินไปนายไม่รู้เหรอว่ามีแฟนคลับ เอ่อ เรียกว่าไงนะ..?”


     

    ชิป


     

    อ่า นั่นแหละ มีแฟนคลับชิปพี่กับนายด้วยนะอย่าลงเลย


     

    โหกับพี่องอะก็มีคนชิปกับพี่นะครับ พี่ยังลงรูปเขาได้เลยอะ แต่กับผมนะ ไม่ยอมท่าเดียว ปากหยักยู่เบา ๆ ทำหน้าหงอยเหมือนน้องหมาที่ถูกเจ้าของเมินเฉยใส่ ผมน้อยใจเป็นเหมือนกันนะเห็นแบบนี้


     

    แดเนียลอ่า ไม่น้อยใจสิเพราะเห็นว่าผมเงียบ คนตัวเล็กก็พาตัวเองเลื้อยขึ้นมานอนทับบนตัวผมซะงั้น


     

    กลายเป็นว่าร่างกายเปลือยเปล่าของเราสองคนกำลังแนบชิดกันอีกครั้ง


     

    ง้อผมเลย


     

    เจ้าเล่ห์เนอะ..”


     

     

    แล้วไงอะครับตัวเล็ก

     

     

    หึ่ยย ทุกทีอะริมฝีปากอวบอิ่มเบะหน่อย ๆ ใช้สายตาเหล่มองผม

     

     

    พี่รู้ดีนะครับว่าควรง้อยังไงผมถึงจะหายน่ะผมกระตุกยิ้มใส่คนน่ารักที่หน้าแดงแจ๋อย่างนึกขันโดยที่พี่ซองอุนได้แต่จิ๊ปากขัดใจ

     

     

                ไหนคนเก่ง ง้อผมแบบที่พี่ชอบทำสิครับ

     

     

     

                ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินย้อนกลับไปราวกับเพลงที่เปิดวนซ้ำ ๆอย่างนั้นทั้งคืน.. 






    END



    tag #แฟนฮวังฟิคชั่น

     


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in