หลังจากที่ลูกทัวร์แต่ละคนบรรจุบุฟเฟ่ต์ชาบูไต้หวันลงในกระเพาะจนอิ่มหนำสำราญเบิกบานใจกันแล้ว หัวหน้าทัวร์และไกด์ชาวไต้หวันก็พาพวกเราเดินต่อไปยังร้านหาคู่ในแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของไต้หวันที่มีชื่อว่าย่านซีเหมินติงเป็นจุดหมายแรก 

พอแนะนำร้านหาคู่เสร็จสรรพก็พาลูกทัวร์เดินต่อไปยังถนนที่จะเดินไปสู่จุดนัดพบ

 

นี่เวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว มีเวลาให้เดินช้อปปิ้งอีกหนึ่งชั่วโมง สามทุ่มครึ่งมารวมพลกันที่เสาต้นที่สามทับห้า ที่มีร้านขายน้ำมะระปั่น หัวหน้าทัวร์ป่าวประกาศให้ทราบกันทั่ว ใครต้องการไปตามหาคู่ก็ให้แวะกลับไปยังร้านแรกที่แนะนำไว้นะ

มีลูกทัวร์จำนวนไม่น้อยที่อยากตามหาคู่ จึงเดินกลับไปที่ร้านค้าแห่งนั้น รวมถึงเพื่อนของโลมาด้วยที่ตั้งใจจะตามหาคู่กลับไปเมืองไทยให้ได้ 

ร้านขนาดเล็กเพียงหนึ่งคูหาบรรจุนักช้อปชาวไทยกลุ่มนี้ทำให้ร้านแน่นไปถนัดตา ที่ร้านนี้ไม่มีคู่ในสเป็คของโลมา โลมาเลยไม่สนใจ แต่ละคนหาคู่ที่ใช่เจอจนพาออกจากร้านไปคู่แล้วคู่เล่า ส่วนเพื่อนของโลมายังไม่เจอคู่ที่ถูกใจสักที เหลือพวกเราสองคนในร้านเป็นกลุ่มสุดท้าย

และแล้วในที่สุดเพื่อนของโลมาก็เจอคู่ที่ถูกใจจนได้ ถูกใจตั้งสองคู่ เลยนำมารองเปรียบเทียบกันว่าคู่ไหนถูกใจที่สุด รองอยู่เป็นนานสองนานชอบคู่นี้ แต่เสียดายคู่นั้น ความจริงแล้วทั้งคู่ก็เป็นรองเท้าสีขาวเหมือนกันต่างกันตรงสีของลายเส้นเท่านั้นเอง 55 

เป๊ง!!! คู่ที่ลายเส้นมีสีสันก็เอาชนะคู่ที่ลายเส้นเป็นสีขาวไปจนได้นะคร๊าบ!!! หลังจากตัดสินใจเลือกคู่ได้แล้ว ก็ไปจ่ายเงินค่าคู่ เป็นอันเสร็จพิธีหาคู่แล้วล่ะจ้า

หัวหน้าทัวร์เชิญชวนว่ามาไต้หวันทั้งที คนที่รักรองเท้าผ้าใบยี่ห้อโอนิซึกะต้องไม่พลาดหาคู่ที่ถูกใจ ติดกลับเมืองไทยด้วยกันอย่างน้อยสักคู่ ด้วยว่าที่ไต้หวันโอนิซึกะถูกที่สุดในโลก ถูกกว่าประเทศญี่ปุ่นเจ้าของแบรนด์พี่เสือเสียอีกนะจะบอกให้

กลับมาที่เมืองไทยเพื่อนโลมาไปเดินห้างผ่านร้านโอนิซึกะ เลยขอเข้าไปเช็คราคาสักหน่อย ถอยจากไต้หวันมาประมาณสามพันสี่ร้อยบาท ในห้างเมืองไทยขายอยู่ที่สี่พันหกร้อยบาท แค่นี้ก็รู้สึกสบายใจล่ะ :)

ไปไต้หวันแวะไปหา "คู่" กันได้นะจ๊ะ ;)