เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แม่เล่าให้ฟัง 1tofudulali
บินลัดฟ้า เริงร่าเยอรมัน
  • 9 มิ.ย.62   เป็นวันสำคัญที่ได้รับเชิญไปงานแต่งที่เยอรมัน  ก่อนจากนั้นหนึ่งเดือนฉันเตรียมเอกสารการเดินทาง เริ่มด้วยพาสปอร์ต ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์  พาสปอร์ตเสร็จก็นำพาสปอร์ตไปทำวีซ่า  ซึ่งมีกฎระเบียบมากมาย เอกสารที่ใช้ก็มี หนังสือเชิญ รูปถ่ายที่ถูกต้อง  ใบรับรองจากสถานทูตเยอรมัน  ค่าทำวีซ่า 3800 บาท  ระหว่างที่ทำเจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์หลายข้อ และมีเงินค้ำประกันคนละประมาณหนึ่งแสน  เงินนี้จะจ่ายคืนเมื่อเรากลับไทย  ใช้เวลาในการทำประมาณ3ชั่วโมง ก็ได้รับวีซ่า  พอถึงวันสำคัญเราก็ไปขึ้นเครื่องจากนครศรีธรรมราชไปพักที่โรงแรมใกล้ๆสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะเดินทางไปต่างประเทศเวลา 9 โมงเช้า ต้องไปเช็คอินล่วงหน้า 2 ชั่วโมง  ไปสายการบินเอมิเรตส์ เราเห็นสิ่งที่แปลกตา เจ้าหน้าที่แต่งชุดดูไบ หมวกสีแดงติดเครืื่องหมายสายการบินที่ข้างหมวกด้านขวา  และมีผ้าบางๆสีขาวห้อยข้างหมวกจากซ้ายไปขวา ความยาวถึงหน้าอก เสื้อสีขาวแขนสั้นขลิบที่ปลายแขน เราขอวีลแชร์เพื่อเป็นไกด์นำไปต่อเครื่องบิน  และช่องทางตรวจเอกสาร พอเอกสารผ่านเราก็ไปขึ้นเครื่องลำใหญ่มาก ที่นั่งมีทั้งหมด6แถว แถวละ4คน เครื่องบินมีสองชั้น แอร์โฮสเตสท์มีทั้งหญิงและชาย ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชีย เจ้าหน้าที่ให้บริการอย่างดี เครื่องบินออกตรงเวลา 9 โมงตรง ระหว่างที่นั่งเครื่องไปเราจะดูที่หน้าจอ มีรายการให้เลือกหลายอย่างเช่นการท่องเที่ยว สิ่งที่น่าสนใจคือเส้นทางการบิน  และเวลาจะลดลงเรื่อยๆ  ใกล้ถึงที่หมายแล้ว  ทำให้เรารู้สึกว่าไม่นาน  ระหว่างการบินมีการเสิร์พเครื่องดื่มไม่อั้นเช่น ไวน์ เบียร์  วิสกี้ น้ำผลไม้  ชา  กาแฟ ต่อด้วยอาหารหนัก มาเป็นเซ็ต ประกอบด้วย  ขนมปังก้อนโตกรอบนอกนุ่มใน  เสิร์พพร้อมแยม คัสตาร์ดเป็นถ้วย เนย ไก่หรือโคขุนอบชีส ราดซอสมะเขือเทศ  และซอสผงกะหรี่ รับประทานควบคู่กับธัญพืช  ถั่วแดง  เดืิอย ข้าวไรซ์เบอร์รี่  หุุงด้วยนมสด เสิร์พมาในภาชนะเมลานีนขาวสะอาด ซีนเรียบร้อย ใกล้ถึงจุดหมายของช่วงการเดินทางครึ่งแรก  6 ชั่วโมงเราก็ไปถึงดูไบ  เครื่องบินแลนด์ดิ้ง(แตะพื้น)  อย่างนิ่มนวล  เรามีเวลาเปลี่ยนเครื่องแค่ 1.30 ชั่วโมง  เวลาน้อยมากต้องรีบร้อนเพื่อให้ทันต่อเครื่องที่จะไปแฟรงค์เฟิร์ต  สัมภาระไม่ต้องขนลงเขาจะเอาไปส่งให้ที่แฟรงค์เฟิร์ตเลย พอเราออกจากเครื่องก็จะมีพนักงานวีลแชร์ชูป้าย เราจะไปนั่งวีลแชร์โดยยื่นวีซ่าให้เจ้าหน้าที่ เขาจะเช็คว่าชื่อตรงกับที่จองไว้หรือเปล่า  เขาจะเข็นวีลแชร์เราไปผ่านตึกขึ้นลิฟต์ลงลิฟต์หลายตึกมาก  เพื่อที่จะไปต่ออีกสนามบินหนึ่งที่ไปแฟรงค์เฟิร์ต  สนามบินที่นี่กว้างใหญ่ไพศาลมาก บางตึกไม่มีคนเลย  เราสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษแต่เจ้าหน้าที่เขาพูดสำเนียงไม่เหมือนเรา ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง  สุดท้ายเขาก็พาเราไปขึ้นไปต่อรถไฟฟ้า ความเร็วสูง ใช้เวลาประมาณ5นาทีก็ถึงอีกสนามบินหนึ่ง  เขาก็พาเราไปบนตึกไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์แฟรงค์เฟิร์ต เจ้าหน้าที่เช็คอินเป็นฝรั่งหนุ่มหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส  ผู้โดยสารก็จะเป็นฝรั่งยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ เชิญไปขึ้นเครื่อง การเรียกจะเรียกตามกรุ๊ป A B C D  เราลุ้นเพื่อให้ทันเวลาเช็คอินเพราะเป็นครั้งแรกในการเดินทางไกลที่สุดและเร่งรีบ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in