เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber | #Firthgrantsean and his nightmares
Christmas | Busy Day
  • Day 13 : Christmas (Busy) | #novelber

    Author :  Sean

    Pairing : Colin Firth x Hugh Grant

    Rating : No Rate

    ป.ล.ดราม่ามานาน ขอใส่มุมน่ารักๆของเค้าสองคน(ในอุดมคติของเรา)บ้างละกัน





     



    ผมติดธุระด่วน คงไปไม่ทันดินเนอร์มื้อเย็นที่บ้านพ่อกับแม่ของคุณนะ– ผมฝากขอโทษพ่อกับแม่ของคุณด้วย ไว้ทุกอย่างเรียบร้อยผมจะโทรไปหาอีกที

    ผมมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งขึ้นข้อความของคุณ

     


    ไม่เป็นไร..ไว้คราวหน้าก็ได้ ทำงานของคุณเถอะ สู้ๆนะคุณทนาย’ 

    ผมพิมพ์ข้อความตอบกลับไป ถ้าเขาไม่มาจริงๆ ปีนี้คงจะเป็นปีที่สองที่เขาไม่ได้มาฉลองวันคริสต์มาสด้วยกัน


    เมื่อปีที่แล้วเขาติดสัมมนาที่ต่างประเทศ- ผมหันไปมองโปสการ์ดที่ข้างหน้าเป็นรูปของหอไอเฟลที่มีตัวหนังสือหวัดๆของเขาจ่าหน้าซองถึงผม



    โกรธหรือเปล่า ผมขอโทษนะ  :( ’


    เปล่าหรอกน่า ไม่ต้องคิดมาก ผมสบายดี  :) ’

    ผมไม่เป็นไรจริงๆ...


    งั้นผมไปก่อนนะ – สุขสันต์วันคริสต์มาสนะครับ รักคุณ 

     


    ผมกดล็อคหน้าจอและวางโทรศัพท์ลงบนเตียง ข้างๆกับกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กที่ผมวางไว้สำหรับใส่เสื้อผ้า– เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมบอกพ่อกับแม่ไว้ว่าวันคริสต์มาสจะกลับบ้าน คงไปพักที่นั่นสักคืนสองคืน..พร้อมกับคุณ

     

    ผมหยิบเสื้อเชิ้ตที่พับไว้ใส่กระเป๋าและเสื้อสเวตเตอร์อุ่นๆสักสองตัว ผมหยิบผ้าพันคอของคุณมาด้วยแต่ผมไม่ได้บอกคุณว่าจะยืมผ้าพันคอผืนนั้นของคุณ แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะคุณมีเยอะอยู่แล้ว

     

    ผมมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง คืนนี้คุณคงจะกลับบ้านดึกน่าดู.. ผมหยิบกระเป๋าเดินทางของตัวเองและเดินออกไปนอกห้องนอน

     


     

    ‘ผมทำพาสต้าทิ้งไว้ในตู้เย็นนะ

    ถ้าหิวก็อุ่นกินได้เลย’

            - ฮิวจ์ -

     

     


    ผมแปะโน้ตทิ้งไว้ที่หน้าตู้เย็น– ผมคงต้องโทรไปเตือนเขาอีกทีเพราะเขาเป็นคนค่อนข้างขี้ลืม โดยเฉพาะเรื่องการทานอาหารในแต่ละมื้อ

     

    ผมมองดูรอบๆห้องอีกครั้ง..และปิดประตูห้อง

     

    ผมเดินลงมาที่ลานจอดรถด้านล่าง กดรีโมทรถและเข้าไปนั่งด้านใน


    ‘นี่เขาไม่คิดจะไปกับผมจริงๆใช่ไหม..’ ผมได้แต่ถามตัวเอง มันคงดูเห็นแก่ตัวแต่ผมก็อยากให้เขาไปด้วยกัน ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ฉลองด้วยกันแบบนี้อีกกี่ครั้ง

     

    ผมกดปุ่มสตาร์ทรถและขับมันออกไป มุ่งหน้าไปยังบ้านพ่อกับแม่ของผมที่อยู่นอกชานเมือง

     

    ผมใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแฮมเมอร์สมิธ บ้านเกิดของผม

     


     

    ผมเห็นพ่อยืนรออยู่หน้าบ้าน– แต่ก็ไม่เชิง...ก่อนหน้านั้นผมโทรหาพ่อว่าใกล้จะถึงแล้ว พ่อเลยเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้านแล้วยืนรอผมด้วยเลย

     

    “สวัสดีครับพ่อ เป็นไงบ้างครับ ยังปวดหลังอยู่ไหม” ผมเอ่ยถามผู้เป็นพ่อที่ยืนรอผมขนของลงจากรถ “ผมซื้อไวน์ชั้นดีมาด้วยนะ ไว้มาดื่มกัน” ผมยิ้มให้พ่อ

     

    “ฉันสบายดี - แล้วพ่ออัยการนั่นล่ะ” พ่อเอ่ยถามผมและถือถุงกระดาษที่ใช้ใส่ของขวัญช่วยผม

     

    “เขาติดธุระด่วนครับ” ผมตอบและเดินไปยืนรอพ่อที่ประตู “และเขาก็เป็นทนาย”

     

    “เฮอะ น่าเสียดาย ไม่ได้มาอีกแล้วสินะ แม่แกอุตส่าห์ดีใจ ทำไก่งวงอบตัวบะเริ่ม” พ่อยักไหล่ ความจริงที่ผมรู้คือพ่อก็คงเสียใจอยู่ไม่น้อยที่เขาไม่ได้มา แหงล่ะ เขาน่ะเซียนเรื่องดื่ม นั่นเลยเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อผมปลื้มนักปลื้มหนา

     

    “พ่อก็ถามหาแต่ลูกชายคนอื่นอยู่ได้” ผมขมวดคิ้วและเบะหน้าโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะโตแค่ไหน ผมก็ยังคงทำแบบนี้เสมอ เวลาโดนพ่อแกล้ง

     

    “งอนอีก” พ่อเดินมาเปิดประตูให้ผม “ไปๆเข้าไป แม่แกรออยู่ เดี๋ยวฉันจะไปย่างเนื้อให้”

     

    ผมหอมฟอดเข้าที่แก้มเหี่ยวๆของพ่อทันทีก่อนจะรีบหิ้วกระเป๋าเดินเข้าไปด้านในบ้าน

     



     

    บรรยากาศเดิมๆที่คุ้นเคยทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจเสมอเมื่อได้กลับบ้านพร้อมกับครอบครัวที่แสนอบอุ่น– ผมวางกระเป๋าไว้ข้างๆบันได และเดินตรงไปที่ครัว ซึ่งเป็นสถานที่เดียวที่จะรู้ได้ว่าแม่ของผมอยู่ที่ไหน

     

    ผมเดินเข้าไปสวมกอดแม่ที่ด้านหลังและหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่

     



    “ฮิวจ์!” น้ำเสียงของแม่ดูตกใจ เธอกำลังนวดแป้งอยู่ที่เคาท์เตอร์

     

    “คิดถึงจังเลยฮะ” ผมวางคางเกยไหล่แม่เบาๆ มองดูสิ่งที่แม่กำลังทำ ผมมักจะอ้อนแม่อย่างนี้เป็นประจำ “ทำอะไรอยู่ครับเนี่ย”

     

    “แม่ว่าจะทำขนมอบน่ะ แล้วคอลินอยู่ไหนล่ะ” แม่เช็ดมือกับเสื้อกันเปื้อนของตัวเอง ผมปล่อยแขนออกจากเอวของแม่ “ปกติพ่อแกต้องโหวกเหวกโวยวายแล้วไม่ใช่เหรอถ้าลูกชายคนโปรดมา” เอาสิ แม่ผมก็เล่นกับเขา

    เธอมองข้ามไหล่ผมไปยังประตูทางเข้าของห้องครัว

     

    “เขาไม่ได้มากับผมฮะ..ผมมาคนเดียว” ผมยิ้ม

     

    “ทะเลาะกันเหรอ” แม่เอื้อมมือขึ้นมาลูบแก้มผมเบาๆ

     

    “เปล่าครับ เขาติดธุระด่วนน่ะ” ผมยิ้มให้แม่อีกครั้ง “ไม่ต้องห่วงน่า เดี๋ยวไก่งวงนั่นผมจัดการเอง”

     

    “กินจุขึ้นนะเรา– ดูซิ พุงออกแล้ว” แม่ตีหน้าท้องผมแล้วหัวเราะ “ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนไหม เดี๋ยวแม่เตรียมอาหารไว้ที่โต๊ะกินข้าวรอ”

     

    “โอเคครับแม่”

     

     



    ผมหอมแก้มแม่อีกครั้ง แล้วถือกระเป๋าที่วางอยู่ข้างบันได ผมเดินขึ้นมาบนชั้นสองของบ้าน ตรงเข้าไปในห้องเก่าของตัวเอง ห้องที่ผมเคยนอนมาเกือบครึ่งชีวิต ความรู้สึกเดิมๆสมัยที่ยังเป็นเด็กก็กลับมาอีกครั้ง

     

    ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ผ้าห่มของผมถูกพับไว้เรียบร้อย แทบไม่มีฝุ่นจับเลยด้วยซ้ำ คงเป็นฝีมือของแม่แน่ๆ..จริงๆเลยผู้หญิงคนนี้

     

    ผมวางกระเป๋าไว้บนเตียงและจัดข้าวของใส่ตู้เสื้อผ้า ในนั้นยังมีเสื้อที่คุณลืมทิ้งไว้แขวนอยู่ ผมหยิบมันออกมา ที่ไม้แขวนเสื้อมีป้ายห้อยชื่อของคุณเอาไว้ ฝีมือของพ่อผมแน่ๆ เขาเห่อคุณยังกะอะไรดี

     



    ‘ ผมอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่แล้วนะ ผมคงจะค้างที่นี่สักคืนคงไม่ได้กลับไปที่ห้อง ผมทำพาสต้าไว้ในตู้เย็น ถ้าหิวก็อุ่นกินเลยนะ ดูแลตัวเองด้วย – รักคุณ  

    ผมกดส่งข้อความหาคุณอีกครั้ง

     



    ผมนั่งที่อยู่ที่ปลายเตียง นั่งรออยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าคุณจะตอบกลับ ผมเลยตัดสินใจไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด

     

    วันนี้ผมสวมเสื้อสเวตเตอร์ของคุณ(ที่ลืมไว้)ด้วยนะ ตัวใหญ่กว่าที่คิดเลยแฮะ... ผ้าพันคอของคุณยังมีกลิ่นน้ำหอมของคุณติดอยู่เลย

     

    ผมเดินลงไปด้านล่าง ทุกอย่างเสร็จสรรพเรียบร้อยอย่างที่แม่บอกไว้

    ขาดเพียงแค่คุณ...

     

    ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง– กดปุ่มโฮมดู หวังว่าคุณจะส่งข้อความมา

    แต่ก็ไม่...

     

    ผมเก็บโทรศัพท์ใส่ลงในกระเป๋ากางเกงของตัวเองและเดินเข้าไปในครัว ผมช่วยแม่ยกถาดอาหารจำนวนมากมายที่พอจะเลี้ยงคนได้ทั้งหมู่บ้านมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร

     

    “ทำเยอะขนาดนี้ มีผมอีกสิบคนก็กินไม่หมดหรอกฮะ” ผมแซวแม่ที่กำลังง่วนอยู่กับการอบขนม

     

    “ฉันก็ไม่ได้ทำให้แกกินคนเดียวนี่” แม่เปิดฝาเตาอบแล้วยกถาดขนมออกมา

     

    “..แต่ยังไงพ่อก็ต้องควบคุมอาหารนะครับ” ผมแย้ง

     

    “มีแค่พ่อแกกินคนเดียวหรือไง”

     

    “ผมก็กินฮะ– เดี๋ยวผมช่วยถือเอง” ผมหัวเราะแล้วช่วยแม่ถือถาดขนมอบมาวางไว้บนเคาท์เตอร์ที่คั่นอยู่ระหว่างห้องครัวกับห้องรับประทานอาหาร

     

    “แม่ช่วยขยับถุงกระดาษนี่ได้ไหมครับ” ผมพยักเพยิดหน้าไปยังถุงใส่ของที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์

     



    ..

     

    อุตส่าห์ซื้อมาให้..จะไม่เปิดดูหน่อยเหรอ เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอยู่เหนือหัวผม

     

    ผมเงยหน้าขึ้นก็พบกับคุณที่ยืนอยู่ข้างหน้าผม พร้อมกับรอยยิ้มสดใส

     

    “คอลิน!” ผมแทบจะทำถาดขนมหลุดมือ แต่แม่ก็ยื่นมือมาดึงถาดออกจากมือของผมทัน ผมแทบจะปีนเคาท์เตอร์พุ่งเข้าชาร์ตตัวคุณ

     

    “ไหนบอกติดธุระไง” ผมจับๆไปตามเนื้อตัวของเขา ตัวจริงด้วย.. มือของเขายังอุ่นเหมือนเดิมเลย

     

    “ธุระซื้อเสื้อให้คุณยังไงล่ะ..” คุณวางมือบนหัวผมแล้วขยี้ “กว่าจะลางานมาได้”

     

    “ฮืม..” ผมสวมกอดคุณแน่น “ขอบคุณนะ”

     

    “เด็กน้อยเอ้ย..” คุณหัวเราะเบาๆแล้วกอดผม– คุณโยกตัวไปมาราวกับพี่หมีตัวใหญ่

     

    อุ่นจัง...

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in