เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เล่มนี้ที่ฉันอ่านตะเกียงดาว
ฉุยฉาย
  • จม.ฉบับที่ ๑๕

    ถึงคุณ..

     

    ฉันไม่ชอบฤดูร้อน!!! คุณได้ยินฉันไหมฉันตะโกนอยู่

    .

    ไมเกรนมักแวะมาเยี่ยมตอนช่วงนี้บ่อยซะด้วยสิแต่ฟ้าก็สวยสุดกว่าฤดูไหน หากฉันมีความกล้าพอจะพาร่างออกไปแหงนหน้ามองกับอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันไม่อาจเกลียดฤดูร้อนได้เต็มใจนักคือเหล่าไม้ต้นใหญ่ที่ธรรมดายืนต้นใบดกหนาดาษดื่นประดับริมถนน ได้เวลาอวดเสน่ห์ของตัวเองบรรณาการดวงตะวันริมทางจึงเต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูร้อนอันเจิดจ้า ความงดงามแห่งฤดูถูกปลุกตื่น

    .

    ฉันรักไม้ต้นใหญ่ที่ออกดอกเล็กจิ๋วสุดใจเหมือนคนเฉยชาที่ใจดียังไงยังงั้นคุณว่ามั้ย เหมือนคุณไง พอฉันได้เจอคุณจริงๆอีกครั้งฉันรู้เลยว่าคุณเปลี่ยนไปมากทีเดียว คุณดูเก้อตอนฉันบอกว่าขอกอดหน่อย คุณระวังตัวเกินไปนิดจนฉันใจแป้วเพราะหากเป็นเมื่อก่อนโน้นคุณคงกอดฉันทันทีที่เราเจอกัน คุณยังเหมือนเดิมและไม่เหมือนเดิมในเวลาเดียวกัน

    .

    คงเพ้อเจ้อเกินไปหากจะหวังว่าทุกสิ่งไม่เปลี่ยนแปลง ช่างน่าแปลก ตอนเจอกันเรากลับคุยถึงเรื่องอื่นที่ไม่ใช่หนังสือสบายดีไหม มีความสุขไหม ตัวเล็กเกินไปแล้ว กินข้าวเยอะๆ หน่อยสิ และฉันยังคงเป็นน้องสาวคุณอยู่เหมือนอดีตไม่เคยมากกว่านั้นฉันเข้าใจนะถึงเมื่อก่อนจะไม่เข้าใจก็เถอะ แบบนี้ก็ดีแล้วมันมีค่ามากกว่าใช่ไหมใช่หรือเปล่า

    .

    แล้วฉันก็กลับมาอ่านหนังสือหลายเล่มในเวลาเดียวกันอีกครั้งเรื่องของเรื่องคือพยามอ่านออกให้เยอะกว่าซื้อเข้านั่นแหละแต่เป็นเกมส์ที่ไม่เคยชนะสักทีอย่างที่คุณรู้มาตลอดนอกเสียจากว่าฉันจะปิดตาไม่ส่องหนังสือ ไม่ตามสำนักพิมพ์แต่มันก็มีข้อยกเว้นอีกล่ะ

    .

    หากเราไม่ซื้อตอนนี้ต่อไปกลายเป็นหนังสือหายากราคาแสนแพงขึ้นมาถึงตอนนั้นต้องตาลีตาเหลือกเสาะหากันให้วุ่นวายอีกจึงสรุปได้ว่าเสียทรัพย์แต่วันนี้ดีกว่าเสียทรัพย์หนักในอนาคตจริงไหมจะมีคำแก้ตัวใดดีกว่านี้เป็นไม่มีล่ะ ฉีกยิ้มรับมือที่เอื้อมมาเคาะกะโหลกของคุณอย่างทันท่วงที

    .

    คุณอยากฟังถึงเรื่องไหนก่อนดีนิทานเบาๆ กับเรื่องแฟนตาซีไซไฟ เมื่อก่อนฉันมักจะหลีกเลี่ยงหนังสือพวกไซไฟมาตลอดไม่ชอบ สมองน้อยอ่านเข้าใจยากพวกเรื่องวิทยาศาสตร์เนี่ยแต่พอมาวันหนึ่งฉันกลับชอบที่จะอ่านแฟนตาซีไซไฟ มันเริ่มจากเรื่องไหนนะ อาร์ทิมิสฟาวล์ หรือนิทานจักรวาล หรือก่อนหน้านั้นที่จำไม่ได้

    .

    งั้นฉันเล่ารวมเรื่องสั้นฉุยฉายของสมเถาให้คุณฟังดีกว่าอ่านจบไปตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วแน่ะเป็นหนึ่งในรวมเรื่องสั้นที่มีข้อยกเว้นอย่างที่เคยบอกไปกับจม.ฉบับก่อนไง สมเถาเป็นหนึ่งในนักเขียนปลื้มของฉันล่ะโดนตกด้วยเมืองแก้ว หลังจากนั้นหลายเล่มก็เดินขบวนเรียงหน้าเข้ามาแต่ยังอ่านไม่หมดหรอกแค่ได้ไว้ครอบครองก่อนมันอุ่นใจ เพราะฉันคือซึนโดะขุ

    .

    งานเขียนสมเถาบางเรื่องต้องอ่านหลายรอบอ่านแล้วต้องคิดล่ะว่าเขาตั้งใจเสนออะไร คือมันไม่จำเป็นต้องตั้งใจหรอกเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าอ่านหนังสือแล้วไม่สนุกพาลเลิกอ่านเสียอีก แค่ว่าพอฉันอ่านหนังสือเยอะขึ้นหัวมันไปเองของมันมั้งเขียนถึงสิ่งนี้เพื่อจะถ่ายทอดความคิดหมายถึงสิ่งนั้นนะ และบางเรื่องค่อนข้างสลับซับซ้อนจนต้องอ่านซ้ำว่าเข้าใจถูกหรือเปล่าแต่สำหรับคนที่เคยชินกับลายเส้นการเขียนของเขาคงเข้าใจได้ไม่ยากเท่าไหร่หรอก

    .

    ส่วนตัวกินหนังสือน้อยๆอย่างฉัน ต้องค่อยละเลียดตามไปทีละขั้นกระดึ่บกระดึ่บไป ฉันชอบรูปแบบการนำเสนอแบบนี้วิธีคิดแบบนี้ รวมเรื่องในเล่มนี้เป็นแฟนตาซีไซไฟเขย่าขวัญนิดๆสะท้อนเรื่องราวในมุมแปลกการขายบริการทางเพศ เรื่องของเด็กที่ไม่มีทางเลือกไม่ว่าหญิงหรือชายการยอมรับชะตากรรมล่ะมั้ง

    .

    โดยเหลนของดร.แฟรงเคนสไตน์ในโครงการสลับอวัยวะฉันเข้าใจว่าเมื่อใครสักคนเข้ามาเป็นเหยื่อด้วยเรื่องนี้ หมายความว่าเขาหรือเธอได้ตายไปแล้วในด้านการเปรียบเปรยมีกลิ่นของดอกไม้ช้ำด้วยแรงขยี้ กลิ่นดอกไม้เน่า แต่ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายต่างก็มีความเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง โหยหา ให้ถมเต็มกันทั้งนั้น เป็นอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์เราเป็นใครหลายคนในขณะนั้นได้แม้ไม่ต้องสับเปลี่ยนอวัยวะก็ตาม จริงหรือเปล่า

    .

    เรื่องของความเคยชินการกระทำสิ่งเดิมๆซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า จุดจบของเรื่องจึงเป็นสิ่งเดิมเสมอ จนกว่าเราจะลุกมาทำบางสิ่งที่แตกต่างออกไปบ้างเหมือนเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากความซ้ำซาก ในวันเดิมไปเจ็ดล้านปีเราไม่ใช่สัตว์ทดลองของมนุษย์ต่างดาวเพื่อเรียนรู้พฤติกรรม ที่แลกเปลี่ยนด้วยความเป็นอมตะเพื่อให้เรากระทำเรื่องเดิมทุกวันเป็นกรณีศึกษาเรายอมหรือเปล่า หรือว่าทุกวันนี้เราทำอยู่โดยไม่รู้ตัวเป็นมนุษย์ทดลองอยู่ มันก็น่าคิดอยู่นะ

    .

    เรื่องความเจ็บปวดการถูกล่วงละเมิดในครอบครัวหนีจากการถูกกระทำ ความเจ็บปวดของชนเผ่าดั้งเดิมซึ่งกลายเป็นผู้ถูกขับออกจากแผ่นดินตัวเองโยงใยการหลบหนีในสองเรื่องและความรู้สึกของความไม่เข้าพวก เป็นคนนอก การยึดครองของคนที่อ้างว่ามีความเจริญอย่างเผ่าอินเดียแดงและไอนุของญี่ปุ่น การต่อสู้เพื่อยืนยันตัวตนในชาติพันธ์ไม่ให้ถูกครอบงำจากการขยายอำนาจในรูปแบบต่างๆ ของต่างชาติ

    .

    อำนาจความร่ำรวย สิทธ์ของทายาทที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของพี่น้อง เพราะความเห็นแก่ตัวความกลัว ศาสนาความเชื่อ ถูกยกเอามาเขียนไว้อย่างมหัศจรรย์ในเรื่องเมืองแมน(นึกถึง1Q84ของเฮียมูขึ้นมานิดๆ)ทั้งเล่มไม่ได้บอกเล่าอย่างซื่อตรงว่าเป็นแบบไหน เพียงแต่เราคนอ่านตีความเข้าใจเอาเองแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปตามสภาวะล่ะนะ

    .

    ฉันก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดหรอกมีหลายแง่มุมมากในแต่ละเรื่องสั้นทั้งสี่เรื่อง แล้วการจะบอกเล่าถึงเรื่องสั้นนี่มันยากกว่าเรื่องยาวจริงจังทีเดียว ไม่อยากจะเชื่อเลยไว้คุณอ่านเองคุณคงรู้แหละหมายถึงว่าหากคุณอยากลองอ่านดูมีอะไรน่าสนใจเยอะทีเดียวสำหรับเล่มนี้ที่สำคัญอากาศร้อนทำสมองฉันปั่นป่วนนิดหน่อย โทษดินฟ้าอากาศไปเรื่อยเนอะ

    .

    พูดถึงดินฟ้าอากาศชอบนึกถึงชื่อหนังสือของคุณประภัสสรเป็นหนังสือที่จำชื่อแม่นมากในชีวิต ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศชื่อหนังสือน่ารักและเป็นคำพูดติดปากฉันตั้งแต่อ่านครั้งแรก ว่าแล้วทำให้อยากอ่านหิมาลายันขึ้นมาเชียวเฮ้อ...พูดถึงเล่มหนึ่งอยากอ่านอีกเล่มหนึ่งไปได้คนเรานี่นะ ประหลาดจริง

    .

    และวันนี้เป็นวันหนึ่งที่อากาศร้อนมากขอบคุณในวันนั้นที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้งไม่อยากบอกว่าคิดถึงแต่ก็ใช่คือคิดถึง.

    ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๒

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in