เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
You’re all I see [Jongin x Kyungsoo]Nuynyaloners
Second Time Impression


  • Chapter 3



    Title: Second Time Impression
    Pairing: EXO
    Rated: PG
    Genre: Romantic
    Tag: #FicYoureallisee



    To. D

     

    Your voice is my favorite sound.

     

    From. K






     

    “นั่นมัน…” คยองซูเบิกตากว้างและอ้าปากอย่างเหวอๆ ราวกับเห็นอะไรที่มันน่าตกใจยังไงยังงั้น

     

     

     

    นี่มัน…

     

     

     

    คนที่เลี้ยงกาแฟเขานี่!

     

     

     

    “คยอง มึงรู้จักเพื่อนแบคฮยอนเหรอ”

     

    “ก็…”

     

    ชานยอลที่นั่งข้างๆ คยองซูหันมาถามเจ้าตัวที่กำลังเหลือกตากว้างด้วยความตกใจ ปกติเพื่อนตัวเตี้ยคนนี้มักจะไม่ค่อยแสดงอารมณ์ตกใจหรือประหลาดใจซะเท่าไหร่ นี่แสดงว่ามันต้องรู้จักเพื่อนแบคฮยอนมาก่อนหน้านี้แล้วแน่ๆ

     

    “ที่กูบอกว่ามีอุบัติเหตุนิดหน่อย เพราะว่ากูเดินไปชนคนนี้จนแก้วกาแฟตกลงพื้นหกเลอะเทอะเต็มไปหมดเขาก็เลี้ยงกาแฟกูเป็นการขอโทษนี่แหละ”

     

    “ไม่ใช่ว่ามึงต้องเป็นคนขอโทษเขาเหรอวะคยอง”

     

    “ก็กูมัวแต่จ้องหน้าของเขานี่หว่า ชาน…มึงก็รู้ว่าสายตากูไม่ดี แถมกูยังลืมหยิบแว่นไปอีก”

     

    “ละมึงก็จ้องเขาด้วยตาเหลือกๆ ของมึงเนี่ยนะ ป่านนี้เขากลัวมึงจนไม่อยากจะทำงานด้วยละมั้ง”

     

    “ชานเพื่อนรัก อยากกินขนมตุ้บตั้บสักชิ้นสองชิ้นไหม หื้ม?”

     

    “ไม่ละ…ขอบใจ กูอิ่มแล้ว”

     

    สองเพื่อนซี้กระซิบกระซาบใส่กันไปมาจนไม่สนใจผู้ที่มาใหม่อย่างคิมจงอิน แบคฮยอนได้แต่ทำหน้าอย่างหน่ายใจและส่งสายตาขอโทษไปยังเพื่อนสนิทร่วมสาขาของเขาแทนคนทั้งคู่ที่กำลังจะเสียมารยาทฐานที่ไม่ทักทายผู้มาใหม่ ก่อนที่จะส่งเสียงกระแอมผ่านลำคอเพื่อเป็นการเตือนให้สองคนนี้หันกลับมาสนใจจงอินได้แล้ว

     

    “อ่า…โทษทีนะแบค ไอ้ชานมันชวนพี่คุยน่ะ”

     

    “อ้าว…ปาขี้ใส่กูเฉย”

     

    “ไอ้ชาน!”

     

    และแล้ว…คยองซูก็แจกขนมตุ้บตั้บให้ชานยอลกินจนได้

     

     

    “เฮ้อ…ตีกันตลอดเวลาแบบนี้แล้วProject ของพวกพี่จะเสร็จไหมวะ”

     

    แบคฮยอนทำสีหน้าเอือมระอาและพรูลมหายใจออกมา เพราะสองคนนี้มักจะตีกันตลอดเวลาเสมอ เรื่องเล็กเรื่องน้อยก็หาเรื่องแกล้งกันตลอด ซึ่งส่วนมากจะเป็นฝ่ายชานยอลแฟนของเขาที่มักจะหาเรื่องให้ตัวเองถูกพี่คยองซูทุบตีเป็นประจำซะมากกว่า

     

    “ย่าห์! พี่ชาน!”

     

    “จะ..จ๋า ฮยอนนี่”

     

    “เลิกแกล้งพี่คยองซูซะที ให้จงอินยืนรอแนะนำตัวนานแล้วนะ”

     

    “ฮ่าๆ สมน้ำหน้า โดนแฟนดุทีนี่จ๋อยเป็นหมาหูตกเลยนะมึง”

     

    คยองซูปล่อยอารมณ์ขำขันด้วยการหัวเราะเสียงดัง การที่ได้เห็นชานยอลกลายสภาพจากคนเป็นหมาจ๋อยๆ ตัวนึงเพราะโดนแบคฮยอนเอ็ดเข้าให้เป็นสิ่งที่เขาชอบและรู้สึกตลกทุกทีที่ได้เห็นภาพแบบนี้

     


    แต่การหัวเราะของคยองซูนั้น...ดันไปส่งผลกระทบต่อหัวใจของอีกคนหนึ่งเข้าให้แล้ว

     

    ริมฝีปากรูปหัวใจดวงน้อยสีชมพูค่อยๆ ขยายกว้างขึ้นกลายเป็นหัวใจดวงโต

    ดวงตาโตๆ นัยน์ตาสีดำสนิทค่อยๆ เล็กลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นขีดเกือบครึ่งวงกลมตามความกว้างของรอยยิ้มรูปหัวใจ

     

    ราวกับว่ามีประกายแห่งความสุขและความสดใสแผ่ออกมาจากคนตัวเล็กท่ามกลางสภาพอบอุ่นกึ่งร้อนที่ชวนให้น่าหงุดหงิด

     

     

    นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกกันว่า First Impression ความประทับใจเมื่อแรกเห็น

     

    แต่สำหรับผมคงต้องเรียกว่า Second Time Impression เพราะว่าเจอกันครั้งแรกมันค่อนข้างที่จะ… อืม ก็โดนจ้องเขม็งด้วยตาดุๆ แบบนั้นหน่ะ

     

    พี่คยองซูจะรู้ตัวบ้างไหมว่าแค่พี่ยิ้ม… แค่ยิ้มรูปหัวใจของพี่ก็ทำให้ใจของผมละลายได้

    เพื่อนพี่คยองซูกับแบคฮยอนทนเห็นรอยยิ้มแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ผมแค่เห็นผมก็แทบทรุดทรงตัวยืนไม่ไหวแล้ว

     

    ก้อนเนื้อเท่ากำปั้นภายใต้กล้ามหน้าอกข้างซ้ายกำลังเต้นระรัวๆ จนเลือดสูบฉีดขึ้นไปหล่อเลี้ยงที่ใบหน้า

     


    เฮ้อ…ผมต้องทำยังไงที่จะได้เห็นรอยยิ้มรูปหัวใจดวงนี้ได้ในทุกๆ วัน

     

     

     

    “ไค ไค ไคเว้ย!”

     

    “หะ! หืม?”

     

     

    หลังจากแบคฮยอนจัดการเจ้าแฟนตัวป่วนอย่างปาร์คชานยอลให้สงบปากลงได้แล้วจึงหันมาสนใจเพื่อนสนิทที่จะมาช่วยโปรเจ็คของพี่คยองซูแทน แต่ก็พบว่าจงอินนั้นมองไปที่พี่คยองซูแบบตาแทบจะไม่กระพริบ แถมแก้มสีแทนสว่างของมันก็ขึ้นสีแดงเรื่อๆ อีก หรือว่า...

     

    ไม่น่า...คงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอก ของแบบนี้มันต้องดูๆ ไปก่อน

     


    "มึงไม่สบายรึเปล่า กูเห็นว่าหน้ามึงแดงก็เลยทัก"

     

    "เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร แค่อากาศวันนี้มันร้อนกว่าปกติ"

     

    "เหรอ...งั้นมึงก็แนะนำตัวเลย มึงจะได้นั่งซะที"

     

    “อ่า”

     

    ไม่ๆ เราต้อง keep look เป็นหนุ่มมาดเท่ จะแอ๊บหลุดเป็นคุณหมีขี้อายต่อหน้าพี่เขาไม่ได้ ไม่ได้ๆๆ

    จงอินพยายามเรียกสติที่หลุดลอยไปกับรอยยิ้มกว้างของพี่คยองซูให้กลับคืนมาเร็วๆ หลังจากนั้นก็ใช้มือข้างที่ถนัดเสยผมหน้าม้าที่ปรกอยู่บริเวณหน้าผากขึ้น

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ ผม คิมจงอิน เรียนอยู่ปี2 เอกการแสดง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” พร้อมกับโค้งตัวลงเล็กน้อยหลังจากที่พูดจบประโยค

     

    “พี่ชื่อปาร์คชานยอล อยู่ปี3 เอกกำกับภาพยนตร์”

     

    “พี่ชื่อโดคยองซู ปี3 อยู่เอกเดียวกันกับชานยอล”

     

    “ส่วนแบคไม่แนะนำตัวนะ เพราะทุกคนในที่นี้ก็รู้จักดีอยู่แล้ว ฮ่าๆ” แบคฮยอนพูดติดตลกเพื่อสร้างบรรยากาศให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น ถึงจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันแต่ก็มีอายุห่างกันแค่ปีเดียวเท่านั้น

     

    เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อย จงอินจึงนั่งลงข้างๆ แบคฮยอนซึ่งตรงข้ามกับคยองซูพอดี และการพูดคุยงาน Project Music Video อย่างไม่เป็นทางการจึงเริ่มต้นขึ้นโดยรุ่นพี่ตัวเล็กเป็นคนอธิบายลักษณะงานแบบคร่าวๆ

     

    “คือสคริปต์เพิ่งจะเขียนเสร็จก่อนที่น้องจงอินจะมา…”

     

    “เรียกผมว่า ไค เฉยๆ ก็ได้ครับ”

     

    “อ่า…ไค”

     

    "ครับ พี่คยองซู :)"

     

    ในระหว่างที่คยองซูและชานยอลกำลังอธิบายถึงลักษณะการดำเนินงานของโปรเจ็คนี้ให้จงอินฟัง

    แบคฮยอนก็ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องชื่อเล่นของจงอินด้วย

     

    พูดถึงเรื่องความสนิทในฐานะที่เป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่ไฮสคูล เรียกได้ว่าสนิทถึงขนาดที่ว่ารู้ไส้รู้พุงกันหมด ซึ่งปกติเจ้าเพื่อนคนนี้ถ้ายังไม่ได้รู้สึกสนิทกับใครมันก็จะแทนตัวเองว่า "จงอิน" แต่เมื่อสนิทมากๆมันก็จะแทนตัวเองว่า "ไค" ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่มันตั้งขึ้นมาเอง

     

    หรือว่า...

    ไม่อยากจะบอกหรอกนะว่า…

    ถึงจะไม่มั่นใจ 100% แต่เซ้นส์มันบอกว่า ไคน่าจะชอบพี่คยองซูเข้าให้แล้ว

     

     

    "โปรเจ็คที่อาจารย์ให้โจทย์มาทำ แกบอกว่าให้เอาฉากในซีรี่ย์เรื่องอะไรก็ได้ 2 ซีน (scene) บวกให้เข้ากับเนื้อเรื่องของ music video ที่เขียนขึ้นมาเองให้ได้ ซึ่งพวกพี่เลือกซีนสำคัญ 2 ซีนใน the heirs มาทำ" ชานยอลเริ่มเกริ่นอธิบายเป็นคนแรก

     

    "2ซีนนี้ก็คือ ซีนแรกคือซีนที่ชาอึนซังกับชเวยองโดบังเอิญเจอกันที่มินิมาร์ท หลังจากนั้นสองคนนี้ก็เดินด้วยกันระหว่างไปโรงเรียน ในขณะที่กำลังจะข้ามถนน รถที่คิมทันนั่งก็บังเอิญขับผ่านมาเจอพอดี คิมทันจึงลงจากรถเพื่อที่จะไปหาชาอึนซัง จนเกิดศึกชิงนางขึ้นมา…คนที่จะมารับบทเป็นคิมทันก็คือไคนะ” คยองซูอธิบายเสริมในซีนแรก

     

    “ครับผม แล้วใครเป็นชเวยองโดล่ะครับ”

     

    “คยองซูไง” ชานยอลชี้นิ้วไปทางเพื่อนรัก

     

    “กู?”

     

    “เออ มึงนั่นแหละ”

     

    “มึงนี่คิดแปลกๆ ให้กูรับบทนี้ ไม่ได้ดูขนาดความสูงกูเลยนะ ไอ้ห่า”

     

    “ความสูงมันไม่จำเป็นไงคยอง มันสำคัญที่อินเนอร์ทางการแสดงเว้ย”

     

    “มึงเชื่อในฝีมือการแสดงกูขนาดนั้นเลย?”

     

    “ใช่ กูเชื่อในฝีมือของมึง จำไม่ได้เหรอ หนังสั้นของรุ่นพี่ซูโฮที่ได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์น่ะ”

     

    “เพราะบทต่างหาก”

     

    “ไม่ๆ พี่ซูโฮบอกว่าเพราะฝีมือการแสดงของมึงนั่นแหละ”

     

    “โห…พี่คยองซูเคยเล่นหนังสั้นด้วยเหรอครับเนี่ย ผมอยากดูเรื่องนี้ซะแล้ว” ไคพูดแทรกขึ้นมาเพราะเขารู้สึกแปลกใจที่คนที่ชอบทำหน้านิ่งๆ อย่างพี่คยองซูจะเคยผ่านการแสดงอย่างการเล่นหนังสั้นมาก่อน

     

    “เออ…เดี๋ยวไปขอแผ่นหนังที่เซฟไฟล์หนังสั้นเอาไว้มาให้ละกัน แผ่นอยู่ที่ห้องตัดต่อน่ะ” ชานยอลหันหน้าไปตอบไค

     

    “เหอะ อวยเข้าไป กูไม่ลอยหรอก”

     

    “ดูจากน้ำหนักตัวมึงแล้ว มึงไม่น่าลอยขึ้นหรอก ฮ่าๆ”

     

    “หึๆ”

     

    ทั้งไคและแบคฮยอนได้แต่มองตาปริบๆ สลับกันไปมาระหว่างชานยอลและคยองซู แต่ก็ต้องมีอาการหลุดขำอย่างหยุดไม่ได้เมื่อ…

     

    “อ้ากกกกก เจ็บนะเว้ย!” จู่ๆ ปาร์คชานยอลก็กรีดร้องโอดโอยโหยหวนเพราะถูกคยองซูดึงใบหูด้วยมือเล็กๆ แต่มีเรี่ยวแรงมหาศาลจนทำให้คนที่ถูกดึงหูรู้สึกเจ็บได้ ส่วนไคและแบคฮยอนนั้นไม่ได้รู้สึกสงสารหรือเห็นใจเลย แต่กลับหัวเราะเสียงดังมากกว่าเดิม

     

    “ปล่อยให้มันร้องไป พวกเรามาคุยงานกันต่อดีกว่า” คยองซูหันหน้ากลับมาพูดกับคนที่นั่งตรงข้ามเขาซึ่งก็คือไค

     

    “คิก…คะ..ครับๆ” ไคพยายามให้ตัวเองหยุดขำเพื่อจะได้คุยงานต่อ ส่วนเรื่อง keep look เป็นหนุ่มมาดเท่ให้พี่คยองซูเห็นนั้น…ช่างมันเถอะ

     

    “ซีนที่2 ก็คือซีนที่…”

     

    “พี่คยองซูครับ”

     

    “หืม?”

     

    “แล้วคนที่จะมารับบทเป็นชาอึนซังล่ะครับ”

     

    “เอ่อ…พี่ยังไม่ได้ติดต่อใครในคณะเราไว้เลย เพราะสคริปต์เพิ่งเขียนเสร็จสดๆ ร้อนๆ ขอโทษทีนะ”

     

    “ไม่เป็นไรเลยครับ ส่วนเรื่องหาคนมารับบทชาอึนซัง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเถอะครับ”

     

    “หะ? แต่นี่มันไม่ใช่หน้าที่ที่ไคจะต้องมาทำนะ มันเป็นหน้าที่ของพี่กับชานยอล…พี่เกรงใจ”

     

    “ให้ผมช่วยเถอะครับ ผมอยากมีส่วนร่วมด้วย”  ไคพูดและแสดงท่าทีอย่างจริงใจว่าอยากช่วยจริงๆ

     

    อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับพี่ ผมอยากช่วยและอยากมีส่วนร่วมทั้งนั้นแหละครับ  ใจจริงๆอยากจะพูดตะโกนแบบนี้ออกไป แต่ถ้าพูดแบบนี้ออกไป..แล้วถ้าผลลัพธ์มันออกมาไม่ดีล่ะ

     

     

    “เฮ้อ…ก็ได้ๆ แค่ช่วยติดต่อนะ”

     

    “ครับ :)”

     

    ความจริงแล้วผมอยากช่วยพี่มากกว่านี้แต่…แค่นี้ก็ดีพอแล้วล่ะครับ

     

     

    “พูดถึงซีนที่2 ต่อนะ ซีนนี้ก็คือซีนที่ชเวยองโดเข้าไปป่วนในห้องกระจายเสียงเพื่อล่อให้ชาอึนซังเข้ามาติดกับ และเพื่อตั้งใจจะให้คิมทันรู้สึกขายหน้าเรื่องที่คิมทันเป็นลูกเมียน้อย แต่สุดท้ายยองโดก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้เพราะอึนซังเข้ามาหยุดและปิดการออนแอร์เสียงได้ทัน อึนซังต่อว่าและลากยองโดให้ออกจากห้อง แต่ก็พลาดท่าถูกยองโดจับตัวอึนซังไว้แน่น จังหวะนั้นคิมทันที่เดินมาถึงหน้าห้องกระจายเสียงก็เห็นภาพนั้นพอดี คิมทันโมโหจึงถีบประตูห้องที่ยองโดกดล็อกจากข้างในหลายครั้งด้วยความรุนแรง…อ่า 2 ซีนสำคัญก็มีแค่นี้แหละนะ ส่วนสคริปต์ในส่วนอื่นพี่ขอกลับไปตรวจความเรียบร้อยก่อน แล้วจะนัดมาคุยอีกทีนึงนะ” คยองซูอธิบายซีนสำคัญนี้อย่างตั้งใจให้ไคฟังภายในรอบเดียว

     

    ทั้งจังหวะการพูด น้ำเสียงทุ้มน่าฟัง ท่าทางที่เอาจริงเอาจังของพี่คยองซู อ่า…ดูดีกว่าหน้าดุๆ เป็นไหนๆ

     

     

    “คือ…ผมขอไอดีไลน์พี่คยองซูได้ไหมครับ?”

     

    “เอ่อ…ได้สิ”

    คยองซูไม่ทันได้คิดอะไรมาก เขาแค่คิดว่าที่รุ่นน้องอย่างไคมาขอไลน์เขาเพราะแค่อยากมีช่องทางไว้ติดต่อเรื่องงานได้สะดวก คงไม่ทันได้คิดหรอกว่ากำลังถูกหนุ่มอายุน้อยกว่าขายขนมจีบ

     

    ได้ไลน์มาก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยละนะ

    ไครู้สึกขอบคุณโชคชะตาหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เขาตัดสินใจช่วยพี่คยองซูหาคนมารับบทเป็นชาอึนซัง อย่างน้อยก็มีข้ออ้างหาเรื่องคุยในไลน์ได้แล้ว

     

     

    หลังจากที่คยองซูและไคได้แลกไอดีไลน์และแอดเป็นเพื่อนเรียบร้อยแล้ว แบคฮยอนที่นั่งมองพวกเขาคุยกันอย่างเงียบๆ ได้สักพักจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมา

     

     

    "พี่คยองซูกับไคคุยงานเสร็จแล้วสนใจไปดูหนังกับฮยอนกับพี่ชานไหม?"

     

    "ไม่อ่ะ/ไม่" คยองซูและไคพูดตอบคำถามแบคฮยอนพร้อมกัน

     

    “เห๊ยยย…ตอบพร้อมกันด้วย”

    ชานยอลทำหน้าและหลิ่วตาล้อเลียนจังหวะที่ทั้งคู่บังเอิญพูดพร้อมกัน เจ้าตัวหันไปหัวเราะคิกคักกับแฟนตัวเล็ก คยองซูมองชานยอลอย่างไม่เข้าใจว่ามันจะหัวเราะคิกคักทำไม กะอีแค่พูดพร้อมกัน

    ส่วนแบคฮยอนไม่อยากจะพูดแซวอะไรมาก เพราะเขารู้ดีว่าเวลาไคมันเขินน่ะ…ดูออกง่ายจะตายไป

     

    “ถ้างั้นฮยอนกับพี่ชานไปก่อนนะ เดินทางกลับบ้านดีๆ นะครับพี่คยองซู ไคมึงก็ด้วย”

     

    “เออไม่ต้องห่วงกูหรอก เชิญไปเดตกับพี่ชานยอลเถอะ”

     

    “แค่ดูหนังเว้ย ไม่ได้เดต”

     

    “มันก็คือการออกเดตละน่า ใช่ไหมครับพี่ชานยอล”

     

    “ไอ้ไคมันพูดถูกนี่…ฮยอนน่า เรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันรอบหนังเอา”

     

    หลังจากพูดจบเจ้าตัวก็หยิบคว้าเอากระเป๋าสะพายของแฟนตัวเล็กมาสะพายที่ไหล่ข้างที่ยังว่าง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อเดินไปจับมือนุ่มนิ่มและฉุดดึงให้ร่างบางลุกขึ้น ส่วนแบคฮยอนได้แต่หันหน้าและโบกมือลาพี่คยองซูและไคที่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้สีมะฮอกกานี หลังจากนั้นจึงหันหน้ากลับไปและก้าวเดินออกไปกับชานยอล

     

    “พี่คยองซูล่ะครับ จะกลับเลยรึเปล่า?”

     

    “อืม…พี่ก็ว่าจะกลับเหมือนกันนะ เพราะเรื่องงานก็ไม่มีอะไรแล้ว”

     

    “แล้วพี่กลับยังไงเหรอ?”

     

    “รถบัสน่ะ”

     

    “งั้นผมขอไปส่งพี่ที่ป้ายรถบัสได้ไหมครับ”


    .

    .

    .



     

    Talk Talk

     

    อัพฟิคต้อนรับเปิดเทอมวันแรกของปี4 ปีสุดท้ายแล้วสินะ เรารู้สึกว่าเวลามันก็เดินผ่านไปไวเหมือนกัน นี่เรายังจำช่วงเวลารับน้องได้อยู่เลยนะ ตอนนั้นสนุกมากๆเลยแหละถึงจะเข้าไปรับน้องแค่วันเดียวก็ตามเถอะ (แอบโดดเพราะไปทำธุระกับที่บ้าน)

     

    เวิ่นเว้อมาเยอะมาแล้วยังไงก็ขอให้คนอ่านมีความสุขกับเปิดเทอมกันมากๆ เลยนะถึงแม้ว่าเปิดเทอมวันแรกเราจะได้ชีทมาให้อ่านแล้วอาจารย์บอกว่าจะควิซก็ตาม ฮ่าๆ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Call me Daisy. (@helloimdaisy)
กิ๊ดดดดดดดด
ไม่ได้อ่านฟิคไคซูมานานแค่ไหนแล้ว
พอบังเอิญเห็นในนี้เลยกดเข้ามาอ่านแทบไม่ทัน เรือของนุ้ง;-;

เป็นฟิคที่ดีกับใจจังเลยค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ น่ารักมากๆ
เป็นการต้อนรับเปิดเทอมที่ดีเหลือเกิน

ยังไงก็สู้ๆนะคะ
จะรออ่านตอนต่อไป
แล้วก็สู้ๆกับการเปิดเทอมด้วยนะคะไรท์ :D
Nuynyaloners (@nuynyaloners)
@helloimdaisy ในที่สุดก็เจอ...คนชิปไคซูอยู่ในminimoreแล้วววTT

ตอนแรกๆลังเลว่าจะแต่งฟิคไคซูดีมั้ย แต่เพราะความขี้ชิปของเราอ่ะนะ5555

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ดีๆนะ มีกำลังใจในการแต่งฟิคเพิ่มขึ้นเยอะเลยยยย :)