เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายแปล✿ Peony ✿
รีวิว จำกัดเวลาล่า
  • รีวิว จำกัดเวลาล่า《限时狩猎》


    ผู้แต่ง: ถังจิ่วชิง 唐酒卿
    สำนักพิมพ์: Caihong
    จำนวน: 4 เล่มจบ
    เรื่องย่อ


    ⛓️ คุณกลัวผมเหรอ ผมเป็นแค่นักโทษมือเปล่าที่น่าสงสารคนหนึ่ง...


              เงื่อนไขในปฏิบัติการจับกุมนักโทษ หม่านฉง ทำให้ เยี่ยนจวินสวิน ต้องโคจรมาพบกับ สือซานเหยียน หรือรหัส 01AE86 อดีตสไนเปอร์ระดับแนวหน้าของกองกำลังพิเศษ แบล็กแพนเทอร์ พ่วงตำแหน่งนักโทษที่มีดัชนีความเป็นภัยระดับ S เพื่อร่วมมือกันไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในพื้นที่ล้าหลังอย่าง เขตถิงป๋อ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันและมีเพียงรถไฟกวงเถี่ยวิ่งผ่านทั่วทั้งเขต 

        ในรายงานการประเมินบ่งชี้ว่ารหัส 01AE86 เชี่ยวชาญด้านการปลอมตัว สอดแนม สะกดรอยตาม รวมถึงทักษะเอาตัวรอดก็ยอดเยี่ยมสุดๆ และการที่เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำที่มีการเฝ้าระวังแบบวินาทีต่อวินาทีได้อย่างมีความสุขมาตลอด 4 ปีนัั้นแสดงให้เห็นว่าคนคนนี้...ถ้าไม่มีปัญหาทางสมอง...ก็ต้องมีปัญหาทางจิตแน่นอน! (⊙_⊙) ซึ่งคนประเภทนี้เป็นคนที่เยี่ยนจวินสวินไม่อยากร่วมทีมด้วยเป็นที่สุด ส่วนการพบกันท่ามกลางบรรยากาศอันตรายและเสียงเตือนภัยจากระบบนั้น ช่างสวนทางกับท่าทีความร่วมมือและรับประกันว่าตนเองเป็นคนดีของสือซานเหยียนสุดๆ  // อย่ากลัวผมเลย ผมเป็นแค่นักโทษมือเปล่าที่น่าสงสารคนหนึ่ง (*ノωノ)



             สำหรับคดีฆาตกรรมแรกที่พวกเขาต้องร่วมมือกันสะสางนั้น มีเหยื่อ 3 คนถูกพบเป็นชิ้นส่วนศพในท่อระบายน้ำตามโครงการต่างๆ ที่น่าแปลกก็คือเหยื่อเคยมีประวัติเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศมาแล้วทั้งสิ้น ทว่าหลังจากเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าฆาตรกรกลับหลีกเลี่ยงองค์ประกอบในการล่วงละเมิดทางเพศภายในบ้านของเหยื่อทั้งสิ้น ซึ่งมันขัดแย้งกับความเคียดแค้นที่เป็นแรงจูงใจของฆาตกรตามที่นักข่าว หลิวเฉิน พยายามปุกปั่นรายงานต่อมวลชน

             แม้ว่าการไขคดีจะไม่มีอะไรซับซ้อนมาก ทว่ากลับมี ตัวตลก ซึ่งเป็นบุคคลลึกลับบนอินเตอร์เน็ตปรากฏตัวขึ้นและพยายามพุ่งเป้ามาที่เยี่ยนจวินสวิน  รวมถึงชี้นำให้ฆาตรกรลงมืออีกครั้งจนคดียุ่งเหยิงขึ้นไปอีก เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนจะถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี แถมยังประเดประดังเข้ามาพร้อมกันราวกับวงกลมที่ไม่มีทางออก (⇀‸↼‶)  หากนี่เป็น 'เกม' อย่างที่ตัวตลกบอก ทางเดียวที่เยี่ยนจวินสวินจะสามารถยืนยันว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็น 'ความจริง' หรือไม่นั้น ก็มีแต่ต้องพึ่งพาคนอันตรายอย่างสือซานเหยียนแล้วล่ะ!

    เยี่ยนจวินสวิน: "...คุณกัดผม"
    สือซานเหยียน: "จริงเหรอคุณสามารถกัดคืนได้..." //ดูสิ พี่ซานเหยียนใจกว้างแค่ไหน อิอิ (⁄ ⁄>⁄ ▽ ⁄<⁄ ⁄)


              ⚠️ Trigger Warning ~ เนื้อหาในคดีต่างๆมีประเด็นเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ ความรุนแรงในครอบครัว, การแยกชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์​, การกินเนื้อมนุษย์ , เลือด, การตาย, การฆ่าตัวตาย และเพศสัมพันธ์ที่ปราศจากความยินยอมพร้อมใจ


             มาแร้วทุกคน|・ω・)ノ กลับมาพบกับผลงานของคุณถังจิ่วชิงกันอีกแล้วค่า บอกเลยว่า จำกัดเวลาล่า เรื่องนี้พล็อตล้ำมาก แฝงไปด้วยความลุ่มลึก ตื่นเต้น และบ้าคลั่งสุดๆเลย จุดพีคคือลุ้นระทึกทุกบรรทัด คาดเดาอะไรไม่ได้เลย วินาทีก่อนหน้าคุณอาจกำลังเศร้าแต่วินาทีถัดมาระเบิดกลับมาถึงตัวแล้ว เคมีของคู่หลักก็เข้าสุดๆ ส่วนปลายทางของเรื่องราวก็จบลงก็ได้ทั้งว้าวและหน่วงใจเลยค่ะ สนุกมากๆ เอาเป็นว่าอ่านจบก็ยกขึ้นหิ้งทันทีเลยล่ะ ⸜(。˃ ᵕ ˂ )⸝♡  ซึ่งคุณถังจิ่วชิงยังคงจุดเด่นของความละเมียดละไมในการซ่อนความนัยหรือหย่อนปมไว้ในทุกบรรทัด ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันไปหมดและไม่สามารถมองข้ามได้เลย และด้วยดีเทลที่เยอะมากๆ แนะนำให้ค่อยๆอ่าน ค่อยๆเก็บรายละเอียดนะคะ 

              โดยเซตติ้งของ จำกัดเวลาล่า《限时狩猎》จะเป็นช่วงหลังสงครามในยุคอนาคตที่อำนาจทางการเมืองตกอยู่ในมือของกองกำลังพิเศษ แบล็กแพนเทอร์ ซึ่งพยายามผลักดันการทำงานของ สิบสองระบบหลัก มาใช้ในการควบคุมและตรวจตราสังคม ด้วยเหตุนี้ระบบอัจฉริยะจึงแทรกซึมไปในการใช้ชีวิตมนุษย์และกลายเป็นสังคมที่ถูกเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอด เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากข้อตกลงในปฏิบัติการจับกุมนักโทษ หม่านฉง ที่ทำให้นักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรสุดอัจฉริยะของสำนักตรวจสอบอย่าง เยี่ยนจวินสวิน ต้องร่วมมือกับอดีตสไนเปอร์ของแบล็กแพนเทอร์พ่วงตำแหน่งนักโทษสุดอันตราย สือซานเหยียน เพื่อไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเขตถิงป๋อ ซึ่งเป็นพื้นที่ไกลปืนเที่ยงและมีระบบเครือข่ายครึ่งๆกลางๆ 



            สำหรับคดีฆาตรกรรมในเรื่องจะมี 2 คดีใหญ่ด้วยกัน โดยคดีแรกได้หยิบยกเอา Nemesis เทวีแห่งการล้างแค้นมาเป็นตัวชูโรง เนเมซิสมีความนัยเกี่ยวกับความคับแค้นที่ไม่ได้รับความยุติธรรมและสนองความไม่ยุติธรรมนั้นๆด้วยการลงโทษผู้ที่กระทำความผิด เรื่องราวของคดีนี้เล่าถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนความอยุติธรรมที่เธอได้รับได้นำไปสู่การล้างแค้นนั่นเอง ส่วนคดีที่สองได้เชื่อมโยงเรื่องราว Charon คนแจวเรือของเฮดีสที่นำดวงวิญญาณข้ามแม่น้ำไปยังแดนยมโลก ด้วยคำอธิบายชื่อแครอนที่แปลว่า of keen gaze เราคิดว่ามันคล้ายกับการจ้องมองเหยื่อของฆาตกรมากเลย (←_←) ส่วนผู้ใช้ไอดี 'เรือข้ามฟาก' ในห้องแชทแฟนคลับของนักข่าวหลิวเฉิน และรถแท็กซี่ 'แบล็กศูนย์สอง' ที่เปรียบดั่งเรือของแครอนจะสาวไปถึงปมใดในเรื่อง ต้องมาติดตามกันค่า

           ส่วนวิธีการเล่าเรื่องราวของคดีต่างๆนั้นน่าสนใจมากค่ะ ความสนุกมันอยู่ที่การเล่าสลับพาร์ทระหว่างฆาตกรและการสืบคดีไปพร้อมๆกัน ทางหนึ่งคุณจะได้รับรู้บทวิเคราะห์ไขคดีของน้องจวินสวินผ่านร่องรอยที่ฆาตกรทิ้งไว้ อีกทางคุณก็จะได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของฆาตกรที่ก่อให้เกิดแรงจูงใจในการลงมือด้วย ทว่าทุกอย่างไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คิด เพราะคุณนักเขียนได้ใส่ตัวแปรเข้าไปแซงแซงให้ซับซ้อนขึ้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะนำไปสู่มุมมองใหม่ของนิยายและโศกนาฏกรรมของ การล่าแบบจำกัดเวลา นั่นเอง บอกเลยว่าจุดเปลี่ยนผ่านนี้ทำได้ดีมากๆ อ่านแล้วว้าวสุดๆเลยค่ะ (✧ω✧)



               ส่วน การล่าแบบจำกัดเวลา ที่เป็นหัวใจหลักของเรื่องนี้เกี่ยวพันกับ สิบสองระบบหลัก ซึ่งแต่ละระบบจะมีชื่อและคาแรกเตอร์ตามสิบสองเทพปกรณัมกรีกด้วย เช่น แอรีส เป็นระบบจัดการในศูนย์สงครามที่เจ้าอารมณ์ อาร์ทิมิส เป็นตัวแทนของระบบที่ใช้ในการล่าข้อมูล  ฮิฟิสตัส ใช้สำหรับจัดการกับความผิดพลาดของระบบทั้งหมด รวมถึง อะพอลโล ที่เป็นฝาแฝดของอาร์ทิมิสด้วย! ซึ่งระบบทั้งหมดได้แตกแขนงมาจาก ซุส ซึ่งเป็นระบบแรกที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นเอง และเมื่อ 'ยุคของระบบ' เริ่มต้นขึ้น พวกมันได้วิวัฒนาการไปถึงจุดที่โลกใบนี้ตกอยู่ภายใต้การเฝ้าสังเกตการณ์และไร้ซึ่งอิสรภาพอีกต่อไป ซึ่งพอเนื้อเรื่องดำเนินไปถึงจุดที่ทุกอย่างเปิดเผยออกมานั้น มันให้ความรู้สึกบ้าคลั่ง เศร้าใจ และหน่วงอารมณ์เอามากๆเลย และใช่ค่ะ…มันคือ“เคออส” ดีๆนี่เอง (⇀‸↼‶)

            สำหรับเรื่องนี้ยังมีนิยายในจักรวาลเดียวกันด้วยคือ 《准点狙击》หรือ Right on Target ซึ่งเป็นเรื่องราวของ รหัส 7-006 ซูเฮ่อถิง นั่นเอง โดย Timeline จะต่อจากจำกัดเวลาล่าค่า

            ส่วนการแปลขอตินิดนึง เพราะไม่ค่อยลื่นไหลจนรู้สึกว่าความสนุกถูกดรอปลงไป โชคดีที่เนื้อเรื่องสนุกมากๆ และความหล่อของพี่ซานเหยียนยังคงตรึงเราเอาไว้ได้อยู่ 555 ส่วนตัวคิดว่าใช้คำแปลทื่อๆ หรือเลือกใช้คำแปลแปลกๆ รวมถึงบางจุดที่ใช้คำแปลไม่เหมือนกัน เช่น เล่มหนึ่งมีีการพูดถึง 'ดินแดนมืด' ที่เป็นฟอรัมแลกเปลี่ยนความเห็นของสหายกองกำลังพิเศษพันธมิตรเหนือใต้ แต่เล่มหลังกลับใช้คำว่า 'แดนสนธยา' แทน สำหรับเล่มแรกๆอ่านสะดุดเป็นพักๆเพราะต้องตีความไปด้วย ต้องใช้สมาธิพอควรเลยค่ะ  ส่วนเล่ม 3-4 เหมือนหนังคนละม้วน 555 การแปลดีขึ้นเยอะ อ่านได้ยาวๆเลยค่ะ




             สำหรับตัวละคร เยี่ยนจวินสวิน เป็นตัวละครที่น่าสนใจมากค่ะ บุคลิกเหมือนเด็กน้อยขี้เซา สงบนิ่ง และเชื่อฟังมาก เขาเติบโตขึ้นมาในห้องกระจกของอาร์ทิมิสและได้รับการสืบทอดการไล่ล่าข้อมูล คิดคำนวณ และรับมือกับปัญหาอย่างตรงไปตรงมาจากระบบทั้งสิ้น เวลาทำคดีเขาจะวิเคราะห์เรื่องราวผ่านการขีดเขียนบนกระดานดำเล็กๆที่อยู่ในหัว ทว่าสิ่งที่อาร์ทิมิสไม่เคยสอนเขาคือวิธีการรับรู้อารมณ์ต่างๆ จึงไม่แปลกที่เยี่ยนจวินสวินจะดูเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสาที่น่ารักและน่าแกล้งสุดๆเลย 

               ส่วน สือซานเหยียน ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่ดึงดูดความสนใจเราได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ออกมา และทุกซีนนับจากนั้นไปค่ะ (*ノωノ) ตัวละครนี้มีบุคลิกต่อต้านสังคม ฉลาด ชอบควบคุม และป่าวประกาศการมีตัวตนอยู่ของตัวเอง รวมถึงคาดเดาความคิดไม่ได้เลย เขามักเฉยเมยกับทุกสิ่งบนโลก แต่เมื่อไรที่อยากเรียกร้องความสนใจก็สามารถทำตัวประหนึ่งหมาป่าสวมชุดแกะได้แนบเนียนสุดๆ ซึ่งความบ้าระห่ำและอันตรายของเขานี่แหละที่จะแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของคุณอย่างเงียบเชียบ กว่าจะรู้ตัวก็เสพติดความวิปริตของเขาไปแล้ว!!  (☆ω☆)



             และเมื่อกระต่ายน้อยต้องมาอยู่ร่วมกับสิงโตที่ยากจะคาดเคา การเฝ้ามองการรับรู้อารมณ์ของน้องจวินสวินที่ค่อยๆเปลี่ยนไปจึงน่าสนใจมากค่ะ ซึ่งการกระตุ้นแบบไม่หนักไม่เบาแต่อานุภาพรุนแรงของพี่ซานเหยียนทำให้น้องพยายามต่อสู้กับความรู้สึกอยู่ตลอด แต่น่าเสียดายที่สมองกลับจดจำรายละเอียดและความเซ็กซี่ของพี่ซานเหยียนได้แบบลืมไม่ลง (*ノωノ) ขณะที่พี่ซานเหยียนกลายมาเป็นข้อสอบใหม่ที่น้องไม่เคยเรียนรู้คำตอบจากอาร์ทิมิส น้องจวินสวินเองก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้โลกที่แห้งแล้งใบนี้ไม่น่าเบื่อสำหรับพี่ซานเหยียนอีกต่อไป และทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความรักของพี่ซานเหยียนที่เดินอยู่บนสัญชาตญาณของความบ้าคลั่ง ทั้งเกรี้ยวกราดและรุนแรงจนน่ากลัวเลยล่ะ! 

            ส่วนพาร์ทความรักของพวกเขา แท้จริงแล้วคือวังวนของโศกนาฏกรรมที่หาทางออกแทบไม่เจอ ( ; ω ; ) แม้เครื่องรับสัญญาณและดวงดาวเล็กๆในป่าทึบจะเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงโชคชะตาระหว่างพวกเขาเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ทว่า การล่าแบบจำกัดเวลา กลับเป็นเสมือนคำสาปที่บดขยี้ความรักของพี่ซานเหยียนครั้งแล้วครั้งเล่า แน่นอนว่าชื่อของสือซานเหยียน - สือ จากคำว่าเวลา ซาน จากคำว่าภูเขาสูง เหยียน จากคำว่าต่อเนื่อง และเมื่อน้องจวินสวินพูดกับเครื่องรับสัญญาณว่า "คุณสามารถเดินทางข้ามเวลา ข้ามภูเขาสูง และความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องมาหาผมได้ไหม?" สุดท้ายแล้วการข้ามผ่านการล่าแบบจำกัดเวลาและเส้นทางหมื่นลี้นี้จะจบลงอย่างไร ต้องมาเอาใจช่วยพวกเขากันน้า ~('▽^人)


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in