เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The VowsVanilla * twilight
Part III
  • 6

     

                วันเวลาผ่านไป  ข้ายังคงร้องเพลงเต้นรำและเล่าเรื่อง ด้วยเลือดครึ่งหนึ่งของพ่อข้าที่ช่วยยืดอายุขัย ไม่ช้าเด็กชายชื่ออลันจึงโตทันข้าพอดี เขากลายเป็นชายรูปงาม แต่มักเก็บตัวอยู่กับหนังสือ เอาแต่ช่วยท่านเจ้าของคณะประเมินราคาสินค้าเมื่อยามต้องค้าขาย  

     

                “เจ้าจะมาติดข้าแจแบบตอนยังเล็กไม่ได้” ข้าว่าขณะที่นั่งเคียงกับเขาข้างกองไฟ วันนี้พวกเขาจัดงานฉลองให้เทวาและเทวี พวกผู้หญิงและผู้ชายเต้นรำ ในขณะที่บ้างเล่นดนตรี รอบตัวมีแต่เสียงสรวลเฮฮา ตั้งแต่ที่มีชายคนหนึ่งยื่นมือจะชวนข้าไปเต้นรำ มือของข้าก็ไม่เคยถูกปล่อยจากการเกาะกุมของชายหนุ่มข้างตัวอีกเลย

     

                “ข้าโตแล้ว” เขาว่านัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มมีแวววูบไหวไปตามแสงจากกองไฟ ยังคงย้ำคำที่ชอบพูดตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก พวกผู้ชายออกปาแซวข้า ว่ามีเจ้าของซึ่งหวงข้านัก “ทำไมจะไม่ได้”

     

                “ก็เพราะเจ้าโตแล้ว” แก้มของข้าแดงปลั่ง สัมผัสใกล้ชิดที่มือทำให้ข้ารู้สึกประหลาดขัดเขิน “ข้าอายุเยอะกว่าเจ้าอีก”

     

                “พ่อมดก็อายุเยอะกว่าเจ้าหญิง” อลันยังเอาเรื่องเล่าของข้ามาว่าซ้ำ มือที่กุมมือข้ากระชับแน่นขึ้นเหมือนจะไม่ยอมปล่อยให้ไปไหน และหากเขายังเอาแต่จ้องกันแบบนี้ เห็นทีข้าคงต้องคิดหาทางปลีกตัว

     

                “เจ้ายังจำเรื่องที่จบไม่ดีได้อีกหรือ” ข้าบอกเขา มองท่านพี่ทาซารีอาที่เต้นรำไปมองข้าไปด้วยสายตาเจ้าเล่ห์พิกล อลันไม่เคยนิยมชมชอบการขยับตัวตามเสียงเพลง และนั่นจะเป็นข้ออ้างของข้า “ไปคุยกับคนอื่นบ้างเถิด ข้าเองก็จะไปเต้นรำ”

     

                เขายังไม่ยอมปล่อยมือข้า แต่กลับฉุดข้าให้ลุกตามมา หน้าตาของชายหนุ่มดูหน่ายใจกับสิ่งที่ไม่ชอบทำ แขนขาของเขาทำท่าไม่เข้ากับจังหวะเพลงจนข้าหัวเราะ ข้าจึงเพียงแตะมือกับเขาไว้ เป็นฝ่ายหมุนตัวรอบเขาที่ยืนทำหน้าปั้นไม่ถูก เหมือนเต้นรำกับเด็ก แต่แล้วเสียงกระดิ่งที่ข้อเท้าข้าที่ดังเป็นจังหวะก็เงียบลงทันใด อลันรวบตัวข้าไว้ ดวงตามองข้านิ่งนาน

     

                “คราวนี้พ่อมดจะไม่ยอมปล่อยเจ้าหญิงไป หากใครจะเต้นรำกับหญิงที่เต้นรำได้งามอย่างเจ้า ก็เป็นข้า” เขาว่า ประทับรอยจูบบนริมฝีปากข้า แตะเพียงแผ่วเบาเหมือนปีกผีเสื้อ แปลกที่ข้ารู้สึกคุ้น แต่ก็ยังเขินอาย พวกผู้หญิงหัวเราะกันคิกคัก แม้แต่เพตราซึ่งบัดนี้โตเป็นสาว แถมยังเคยชังน้ำหน้าชายหนุ่มเมื่อตอนเด็ก

     

                “บอกข้าทีว่าเจ้าไม่ได้เมาสุรา”

     

                “แล้วเห็นข้าแตะสักหยดหรือ ข้ามีบทเรียน” เขาอิงหน้าผากกับหน้าผากข้า กระซิบใกล้ชิดเสียจนใจข้าเต้นเหมือนเสียงกลอง  เนื้อตัวไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเหมือนต้องมนตรา

     

                ข้าได้สติตอนที่ท่านพี่ทาซารีอารีบชิงประกาศ “คำทำนายของข้าช้าไปหลายปี แต่มันก็ถูก เห็นไหมเล่า...ยายตัวน้อยของข้า เจ้าได้เนื้อคู่จริงเสียด้วย”

     

    7

     

                เขาพาข้าแยกตัวออกมาแล้วนอนลงบนตักข้า ดวงดาวดูจะสว่างไสวกว่าวันไหน 

     

                ข้าปล่อยความเงียบให้โอบล้อมเราทั้งคู่ไว้ ใช้นิ้วมือสางผมของเขา ในใจทั้งสุขและเศร้าปนเปกัน ข้าไม่รู้จะบอกเขาว่าอย่างไร ถ้าข้าให้รักแก่เขาอย่างที่อยากให้ ข้าจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวที่รั้งเขาไว้เป็นของตน เขาต้องตายในขณะที่เห็นข้ามีชีวิตไม่แก่เฒ่าไปด้วยกัน ข้าไม่อาจไปพร้อมกันกับเขาในสถานที่ที่เขาจะไปหลังหมดลมหายใจ ข้าจะไปถึงช้ากว่า และหากข้าทำบาปปลิดชีวิตตัวเองไปพร้อมกันกับเขา ข้าก็กลัวจะไม่ได้เจอกับคนที่ข้ารักด้วยบาปนั้น   

     

                มันจะจบไม่ดี

     

                “คิดอะไรถึงร้องไห้” เขาถาม ข้ารีบยกมือขึ้นปาดน้ำตา ยิ้มให้เขา “ข้าเกลียดเวลาเจ้าร้องไห้เป็นที่สุด มันเป็นเสียงที่ข้าไม่ชอบใจ”

     

                “ข้าแค่คิดถึงนิทานที่เคยเล่าให้เจ้าฟัง พ่อมดกับเจ้าหญิง” ข้าเลื่อนมือลงไปกุมมือของเขา “เจ้าไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองมาผูกไว้กับข้าก็ได้ แต่ข้าสัญญาว่าจะมอบหัวใจไว้ไม่ให้กับใครคนไหน จนถึงวันที่ชะตาของเราจะต้องตรงกัน”

     

                “ข้าเกลียดคนที่คิดแทนข้า ข้าจะทำอย่างไรก็จะทำตามใจ เจ้าเลี้ยงข้ามาแล้วจะบอกว่าไม่รู้เรื่องนั้นดีหรอกหรือไง” เขาขยับตัวขึ้นมาจูบข้า มันไม่เหมือนจูบแรกที่แตะเพียงแผ่วผิว แต่ลึกซึ้งและยาวนานกว่ามากนัก “ข้าตามเจ้ามาจริง อายุของข้ามากกว่าเจ้ามากมาย ท่านพี่ทาซารีอาของเจ้าว่าไว้ถูก”

     

                ข้าไม่อาจเอ่ยคำใดได้ นอกจากถามว่าเป็นไปได้อย่างไร เขาตอบว่าตนเป็นพ่อมดอย่างในเรื่องเล่าของข้า และเขาก็รอเวลา  เรื่องเล่าของข้าคือประจักษ์พยานว่าข้ามีเจ้าของในตัวติดตามข้ามา หัวใจของข้ายังคงจำได้ แม้จะยังไม่รู้จักเขา เมื่อฟังแล้วข้าเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ได้แต่ต่อว่า “ท่านเป็นฝ่ายรอข้า ไม่เห็นยุติธรรม”

     

                “พ่อมดชั่วช้าอย่างข้าเคยสนคำว่ายุติธรรมที่ไหน” อลันหัวเราะ ยังคงล้อมือเล่นกับเส้นผมของข้า ก่อนเลื่อนนิ้วไปแตะริมฝีปาก “เถียงข้าคำหนึ่ง ข้าก็จะจูบเจ้าทีหนึ่ง เอาอย่างนั้นไหม”

     

                ข้าไม่เถียงเขาแม้สักคำ เขากอดข้าไว้ ในขณะที่ใจของข้าสลดเศร้า พยายามไม่ร้องไห้ “ถึงข้าจะมีเวทแต่ก็แค่ครึ่งหนึ่ง อายุขัยข้าเพิ่มขึ้นแต่ก็มีวันต้องจาก ท่านก็ต้องรอข้าอีกเป็นอย่างนี้วนเวียนไป ท่านจะไม่เจ็บปวดหรือ”

     

                “บางอย่างคุ้มค่าที่จะรอ...เจ้ารู้ไหม ของที่หายาก ของที่ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอ และเมื่อเจอแล้วคนอย่างข้าจะไม่ปล่อยไป” น้ำเสียงเขาดื้อรั้น ทำตามคำที่บอกไว้ว่าถ้าข้าเถียงทีหนึ่ง เขาจะหยุดมันด้วยหนึ่งรอยจูบ

     

                ข้ายิ้มขื่น ปล่อยให้สัมผัสอบอุ่นรายล้อมข้าไว้ สิ่งดีที่สุดในชีวิตข้า คนรักของข้า และข้าไม่อาจปล่อยเขาให้ทรมานด้วยการลาจากครั้งแล้วครั้งเล่าโดยที่เขาเป็นฝ่ายรอคอย

     

                “ข้ารักท่านและโปรดเข้าใจข้านะ จะเกลียดข้าก็ได้ ไม่รักข้าแล้วก็ได้” ข้าบอกเขา ก่อนเอ่ยวาจาเปล่งคำสาบานหนักแน่น เก็บเสียงสะอื้นไว้ในลำคอ “ต่อหน้าเทวาและเทวี ถ้าอำนาจท่านทรงฤทธิ์และมีอยู่ หากชายคนนี้ดื้อรั้นจะรอข้า ข้าจะขอให้เขาหาข้าไม่พบ แม้ใกล้กันแค่ไหนก็ขอให้แคล้วคลาดจากกัน...ไม่ได้เจอกัน แม้เห็นหน้าจำข้าได้และไล่ตามข้า ก็ขอให้ข้าคนนี้...จำรักของเขาไม่ได้”  

                 

                ประกายในแววตาเขาเหมือนมีพายุอยู่ข้างใน ข้าได้แต่ร้องไห้ พร่ำบอกเขาว่าข้าไม่อยากให้เขารอ เจ็บร้าวในอกเหมือนถูกบีบหัวใจ

     

                “เจ้าคิดแทนข้าทำแบบนี้ได้อย่างไร รู้ไหมว่าข้าออกปากยินดีว่าจะรอ ก็หมายความตามนั้น”

     

                พ่อมดว่าเขาดูโกรธและเสียใจพอกันกับข้า แต่ก็ยังกอดข้าไว้ “หากเจ้าสาบานไปแบบนั้น ข้าเองก็จะขอถือสัจจะสาบานเช่นกัน  ข้าจะไม่มอบความไว้ใจและหัวใจให้แก่ใครโดยง่ายไม่ว่าเกิดครั้งไหน ให้กาลเวลาย้อนกลับไป ไม่มีพ่อมดคนนี้ที่จะรอ ข้าจะหาทางคืนความอมตะ เกิดชาติไหนก็ขอให้เป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน หากข้ากับนางจะรักกัน ก็ขอให้รักชอบพอกันด้วยเห็นถึงตัวตนข้างใน ไม่ใช่ตัวตนเก่าในอดีตอันเนิ่นนาน และขอให้เป็นอย่างนี้เรื่อยไป...”

     

                เขาใจร้ายกับข้า...ใจร้ายกับตัวเองเสียเหลือเกิน เขาจะทิ้งสิ่งที่มนุษย์ทุกคนแสวงหาเช่นอายุขัยอันยืนยาวไม่มีวันดับ และชีวิตนี้ข้าจะต้องดูเขาหาทางทำเช่นนั้น จนกระทั่งข้าและเขาสิ้นชีวิตไปด้วยกัน

     

                รอยจูบประทับบนริมฝีปากข้าตีตราคำสาบานของเราทั้งคู่


                ในใจของข้ามีอีกหนึ่งคำสาบานที่ไม่ได้เปล่งเสียง...ว่าจะรักเขาไปตลอดกาล


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in