เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ผจญภัยในปักกิ่งamp
หลง รัก ปักกิ่ง
  • ทุกคน เราเพิ่งกลับมาเขียน หลังจากที่ผ่านไปนานมากกกกกกกกก 55555555555555 นานไปปะ 
    แต่จะไม่เขียนก็รู้สึกค้างคา อยากเขียนให้จบอะ 
    มันคือประสบการณ์ไปปักกิ่ง ครั้งแรก ครั้งเดียว และไปคนเดียว ของเราอ่ะ มันชาเลนจ์มากๆๆ

    ขอบอกก่อนว่าใครที่เข้ามาอ่านเพราะอาจจะเห็นชื่อหัวข้อว่าเราไปปักกิ่งมาแล้วก็คาดหวังว่าจะมีรูปสวยๆ รีวิวสถานที่เที่ยว คือขอบอกตรงนี้เลยนะ เราไปติ่ง  และก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ๆคนอื่นเค้าไปกันเลยค่ะ ถถถถถถถถ แต่ถ้าอยากรู้รีวิวประเทศเค้าโดยรวมๆ การขึ้นรถไฟ อะไรบลาๆ ก็มีประโยชน์พอสมควรนะ เราก็จะพยายามรีวิวในส่วนนั้นด้วยเผื่อจะช่วยได้ 

    ไปจ้า 

    ต่อจากที่ตอนที่แล้ว เครื่องเราดีเลย์มากใช่ปะ ถึงประมาณ 2.40 PM
    พอเราถึงปักกิ่ง เราก็ต่อรถไฟเข้าเมือง มันชื่อว่า ABC อะไรนี่แหละ ตั๋วก็ประมาณนี้
    (จริงๆใส่ไว้ในตอนที่แล้วด้วย)


    Beijing Capital Airport Express Train

    ราคา 25 หยวน เดินไปซื้อที่เคาท์เตอร์ก็ได้ คือวิธีซื้อตรงนี้จำไม่ค่อยได้ มันมีเครื่องให้หยอดด้วย แต่เหมือนตอนนั้นเรารู้สึกตู้มันยากอะ เลยเดินไปที่พนักงานเลย แล้วก็บอกว่า  1 person ง่ายๆแบบนี้เลย 5555555555555 เพราะมันน่าจะราคาเท่ากันตลอดสายอ่ะ แล้วสต๊อปแค่ไม่กี่ที่ ประมานนั้น

    เรานั่งจากแอร์พอร์ต มาลงสถานี Sanyuanqiao อย่าถามว่ามันอ่านว่าอะไร 
    ไม่รู้เด้อ4555555555 วิธีการก็คือ ต้องมีสตินะ ดูรูทของรถไฟให้ดีว่า มันไปทางไหน แล้วสถานีที่เราจะลงอยู่ต่อจากอะไร  ก็พยายามฟังๆ จับใจความไป ที่เราลงสถานีนี้เพราะว่า  มันสามารถลิ้งไปที่ subway สายเบอร์ 10 ที่ใกล้กับโรงแรมเรา ชื่อสถานี Jiaomen East Station ได้นั่นเองจ้า

    ตอนไปถึงคือฝนตกปรอยๆ รู้สึกแบบ ทำไมอุปสรรคมันเยอะขนาดนี้วะ ท้อแท้มากเว่อ55555555555 ลากกระเป๋าเข้าโรงแรมด้วยอารมณ์ซันไช่โดนไล่ออกจากบ้าน 5555555555555 ที่รันทดคือ การสื่อสารกับพนักงานโรงแรมค่ะ ไอ่เวน คือนางไม่พูดเลย พอรู้ว่าเราไม่ใช่คนจีน ก็พิมใส่กก.ทรานสเลทอย่างเดียว แล้วกว่าจะเข้าใจกันคือ นานสัส นานมากๆ ท้อแท้อีกแล้ว  5555555555 แต่สุดท้ายก็คือได้เข้าพัก ที่ห้องชั้นใต้ดิน ย้ำ มันคือห้องใต้ดิน แบบเดินจากชั้นกราวแล้วลงบันไดไปอ่ะ  แล้วห้องคือเหี้ยมากทุกคน  มันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่สามารถเล่นเน็ตในห้องได้อะ  ตอนแรกก็แบบ ไอ่เหี้ยทำไงดีวะ  คือเนตหายไปเลย งงใจมาก พยายามจะปิดเครื่อง รีเครื่องหลายรอบก็ยังเปนเหมือนเดิม เหมือนกูตายจากโลกนี้ทันทีที่เข้าห้อง ขาดการติดต่อ =_= ถถถถถถถถถ 

    สุดท้ายวิธีแก้ปัญหาก็คือ เวลาจะเล่นเน็ตก็ต้องออกมาจากห้อง ตอนแรกไปนั่งตรงบันได แล้วแม่บ้านมาเห็นนางก็ตกใจ  เสร็จแล้วชีก็วิ่งไปเรียกพนักงานมาคุยกับกู55555555555555 เราเลยบอกว่า ใช้เน็ตในห้องไม่ได้ค่ะ นางเลยเชิญให้ไปนั่งเล่นตรงล็อบบี้ คงกลัวมันเกะกะแขกคนอื่นแหละ แต่ก็แบบ มันลำบากกูมะอิผี ฮือ

    อันนี้ภาพแถวๆโรงแรม 

     
    ฝนตกปรอยๆ แต่คนคูลแบบเราก็คือไม่พกร่ม ไม่ซื้อด้วย อิห่า เปลือง เคยไปญป.แล้วฝนตก ซื้อร่มที่ซุปเปอมาเกตนี่แหละ กลับถึงไทยพังทันที ใจสลายเลย ร่มแม่งแพงด้วยอิบร้า ช้ำใจจนถึงทุกวันนี้อะ เพราะงั้น คนงกๆแบบเราก็คือ เอาผ้าพันคอคลุมหัวค่ะ จบ55555555555

    หลังจากที่เอาของไปเก็บเรียบร้อย เราก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า โบกหน้าใหม่นิดหน่อย เอ้อ จะบอกว่า อิรร.ที่กากอีกอย่างคือ ห้องน้ำ ประตูห้องน้ำเวลาปิดก็คือจะเสียงดังแบบ อรู้วววววววววววว โว้้้้้้้ววววววว อ๊าววววววววว แบบ ดังมากๆๆๆๆๆๆๆๆ คือกูคิดว่า ถ้ามันดังแบบชั่วโมงนึงไม่หยุดอะ รร.จะต้องคิดว่ากูแปลงร่างแล้ว อิฝัด คือมันเหมือนเสียงหวูด แบบเสียงประตูมันค้างอะ ประตูห้องน้ำที่เปนกระจกใสๆ เหมือนมันฝืด แล้วทุกครั้งที่อาบน้ำ แล้วเปิดปิดประตูคือดังมากกกกกก เหี้ยมาก555555555555 สุดท้าย หลังๆมาก็เลยไม่อาบน้ำ 

    ..ล้อเล่น 55555555 

    สุดท้ายนี่เลยไม่ปิดประตู เปิดอาบแม่งแบบนั้นแหละ น้ำก็กระเด็นนิดนึงใช้ผ้ามารองๆไม่ให้มันไหลมากก็พอ คือความกากขั้นสุด อย่างกับนอนรร.ม่านรูดอะ ม่านรูดที่ไทยยังดีกว่านี้เลยอะ T-T

    ต่อไปเป็นการรีวิวรถไฟ อันนี้ที่จริงเราจำไม่ได้ว่าเปนรุปจากขาไหนน่าจะจาก Sanyuanqiao > Jiaomen East  เป็นระยะทางทั้งหมด 15 สถานี ใช้เวลาทั้งหมด 1.20 ชม.ในการเดินทางนะ (สนบ. > Sanyuanqiao = 40 นาที ) + (Sanyuanqiao > Jiaomen East = 40 นาที)

    อันนี้คือบวกเวลาที่ต้องลากกระเป๋าขึ้นลงบันไดในการทรานสิสแล้วนะ
    บ้านเมืองเค้าคนเยอะก็คือคนในรถไฟก้อจะเยอะเหมือนบีทีเอสสยามตลอดเลย



    แต่แก คือดูพัดลมในมือเจ้ โคตรพีค5555555555555555555555555555555 หันไปเจอแล้วตกใจมาก คืออย่างนึงที่เราเห็นจากการไปจีนมาสองครั้งคือ คนจีนชอบพกพัดลมมาก อาจจะเปนอันเล็กๆ แบบคนไทยก็พกกัน ที่เปนพัดลมมือถือไรงี้ อันนี้ไม่แปลก แต่เราไปอะ เราก็ขึ้นรถไฟบ่อยใช่ปะ ไม่ใช่แค่ซับเวย์นะ เราไปสถานีรถไฟแบบ ออกต่างจังหวัดด้วย สถานีรถไฟที่มีทั้งความเร็วสูงแล้วก็ปกติ อารมณ์เหมือนหัวลำโพง เราก็เจอคุณลุงคุณป้าแบบถือพัดลมกัน แล้วคือ บางคนก็เห็นถืออันใหญ่มาก แบบพัดลมตั้งโต๊ะเลยอะ คือไม่รู้เพราะต้องไปต่างจังหวัดรึป่าวนะ แต่สัมภาระเค้าอะ ไม่ได้แบบ มีกระเป๋าเยอะๆเหมือนย้ายบ้านหรือไปหลายๆวันเลยอะ แต่พัดลมเค้าคือตัวใหญ่แบบคอสั้นๆที่ตั้งโต๊ะอะมึ้งงงงงงงง ตกใจมาก555555555555555555555 ส่วนคุณป้าคนนี้ก็คือ พัดลมมือถือ ออกไปเดินห้าง เดินตลาดนนัดแน่ๆ แต่มันใหญ่กว่าปกติปะวะ คนเราต้องพกพัดลมตัวใหญ่เบอนี้เลยหรอ55555555555555

    เอ้อ สำหรับใครที่อยากรู้นะ คือเราใช้แอพ Beijing Subway 

    อันนี้เลย https://itunes.apple.com/us/app/metro-beijing-subway/id435348307?mt=8

    คือเนื่องจากประเทศจีนเค้ากว้างใหญ่ไพศาลมากใช่ปะ
    แอพนี้ก็คือจะเปนรถไฟแค่ของเฉพาะปักกิ่งนะ ส่วนตอนที่ไปหนานจิงก็จะเปนอีกแอพ คือ Nanjing subway อารมณ์คล้ายๆกันเลย แอพนี้ก็ทำให้ง่ายต่อการใช้ชีวิตมากๆ แหละ รอดตายก็เพราะแอพนี้5555

    โอเค มัวแต่รีวิว มาเข้าเรื่อง 
    ไปรับน้องที่สถานีรถไฟ (น้องนั่งรถไฟความเร็วสูงมาจากอู่ฮั่น)
    ระหว่างทางจากสถานี Jiaomen East ของเราไปสถานี Beijing West Railway Station เนี่ย ของจริง ปราบเซียน คือ หลงจ้า55555555555555555555555555
    หลงแบบ หลงยังไงรู้มั้ย หลงในสถานีอะ คือจากสถานีเจี่ยวเหมินอีสอะไรนี่ไปปักกิ่งเวส มันต้องไปต่อรถไฟที่สถานี Liuliqiao (สายเบอร์9) อีสถานีนี้คือ พีคสุด พีคมาก มันงงมากเว้ยทุกคน 

    คือถ้าใครเคยไปตปท.ที่รถไฟเค้ามีหลายสาย หลายสี หลายประเภทมากๆ จะรู้ว่าก่อนขึ้นคือต้องดูดีๆ เพราะชานชาลานึงอะ มันจะจอดได้หลายขบวน 55555555 นี่หลงมาแล้วรอบนึงที่ญป แล้วที่จีนนี่ก็คิดว่า เออ กูต้องมีสติ แล้วนี่ก็แบบ เห้ย ต้องไม่หลง กูจะหลงไม่ได้ กูต้องไปให้ทันรับน้องนะ TT 

    แต่สรุปก็คือ กูหลงในสถานีค่ะคุณผู้ชม TT คือหาชานชาลาไม่เจอ ไอ่เวน555555555555
    คือพอถึงสถานีนั้นอะ มันก็ต้องลงมา เพื่อตามหาว่าสถานีที่เราจะไป ต้องขึ้นชานชาลาไหนใช่มะ 
    นี่ก็แบบ พอออกมาจากรถไฟ มองตรงข้ามคือไปสถานีอื่น  อะ  มองในแมพแล้ว ไม่ใช่ทางนี้  ก็เลยดูป้ายข้างบน  (มันต้องดูสถานีที่สุดสาย) ของเราต้อง National Library มันก็ชี้นะ ชี้ไปทางขวา พอมองตามก็คือ เอ้ะ ถ้าเดินทางนั่นมันออกจากสถานีรึปะ  หรือมันต้องลงไป (มันมีบันได) พอลงบันได คือไม่ใช่อีก ว้อทททททท 
    ก็เลยเดินขึ้นบันไดมาใหม่... -_- มายืนที่เดิม แล้วก็มองป้ายใหม่ คือมันต้องไปทางไหนในเมื่อข้างหลังมันไม่ใช่แน่นอน ข้างหน้าก็ไม่ใช่ แล้วข้างล่างก็ลงไปมาแล้วไม่ใช่เหมือนกัน กูต้องทำไง๊ คือยืนมึนอยู่ตรงนั้นแบบเคว้งมาก แล้วมองหาใครก็ไม่น่ามีใครช่วยได้อะ เก็ทมะ 55555555  

    สุดท้ายคือมองไปมองมา  มันมีลูกศรบอกอยู่ที่พื้นเว้ยย  อะ เอาใหม่ เดินตามลูกศรไปเลยจ่ะ  สรุปคือ วนหาอยู่เกือบสิบนาที  ตามลูกศรแบบนี้ ก็ค้นพบว่า ชานชาลา ที่แท้แล้ว มันอยู่ในหลืบบบบบบบบค่ะทุกคนนนนนนน U_U





    นู่นเรยจ้า ไม่ใช่นุ่นวรนชจ้า นู่นนนนน ในนู้น ไอ้บ้า 5555555
    อีเส้นนี้คือเดินตามมาตั้งแต่ข้างบน สรุปคือข้างล่างอะถูกแล้ว แต่ต้องเดินเข้าไปตามเส้น 
    ตอนแรกเราไม่ได้ตามเส้นไง มองแค่ป้ายข้างบนแล้วพอลงมาเจอตรงนี้เลยก็เลยงง มันไม่ใช่ทางที่จะต้องไปอะ โอ้ย โคตรเขาวงกต ฮือ 55555555

    นั่นแหละ สรุปก็ไปได้ ไปจนถึงปักกิ่งเวสจนได้

    มิชชั่นต่อไปคือ กูจะลงถูกประตูมั้ย
    แล้วน้องจะมาประตูไหน ต้องไปรอตรงไหน ตอนนั้นที่คิดคือ ลงๆไปก่อน ค่อยเดินหาเอาว่าต้องรอตรงไหน อาศัยดูป้าย แต่ความหวังคือริบหรี่มาก เพราะเคยมีปสก.หลงในสถานีหนานจิงเซาท์แล้วไม่ได้เจอด้วย จำได้มั้ย ถถถถถถถถถถ แต่สุดท้าย พอเราลง คือออกมามั่วๆ แล้วก็เจออออออออออออออ




    แถ่น แท้นนนนนน เจอแฟนคลับน้องที่จำได้ว่าเปนคนเกาหลี เจอตรงประตูที่ออกมาเลยจ้า พวกนางยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ อิเฟรี้ยยยยยย นี่คือแต้มบุญที่เหลืออยู่ 555555555555555 ไม่ต้องเดินตามหา ไม่ต้องหลงอีกแล้ว เหลือแค่รอเวลา ยืนมึนๆแถวนั้นแล้วก็รอเวลาเท่าน้านนนนนน 

    เหย รู้สึกแบบ นี่เปนความโชคดีอย่างแรกในทริปนี้เลยนะ 
    คือถ้าใครไม่เคยอ่านตอนที่แล้วต้องกลับไปอ่านดูจะรู็ว่านี่คือถือเปนความโชคดีและไม่มีอุปสรรคเปนครั้งแรกเลยจริงๆ ถถถ

    พอน้องมา ปรากดการความผีก็เกิดขึ้น
    คนรุมเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกก แบบมากกกกกกกกกกกกก
    อีนี่รีบถอยเลยอะ กลัวโดนเหยียบ คือเคยโดนเหยียบสมัยไปคอนเสิร์ตพี่ตูนบอดี้สแลม อิเวน จำฝังใจ คนเยอะตรงไหน รุมกันตรงไหน กูถอยก่อนแร้ว บายจ้า 55555555555



    สภาพนี้เรยนะ คือแบบ น้องก็ดูร้อนอะ 
    แต่ก็คือเปนห่วงแฟนที่รุมๆ ตลกดีคือนางเหมือนเปนยักษ์แล้วพวกคนแคระมาล้อมๆ 555555555
    ตอนเดินคือเหนทำหน้าเหวี่ยงตอนนึงคือตอนที่นายสถานีมาช่วยพาเดิน
    แล้วพาไปผิดทาง ไอ่ผี คือคนก็เยอะ คนเสือกก็เยอะ จีนมุงก็เยอะ แล้วยังมีหน้ามาพาไปทางผิด พอตอนเดินกลับคือชักสีหน้ากันหมดอะ แล้วอีลุงคือยิ้ม กูแบบ ว้อททททททท นี่มันบ้าไร 5555555 
    แล้วนี่ก็คือไม่รู้เหมือนกันว่าน้องต้องเดินทางไหน จะไปทางไหนก็เดินหมดแหละ แต่สถานการณ์คือเบียดมากจริง มาคลายตอนขึ้นบันไดเลื่อน แล้วก็ออกมาข้างนอกสถานีได้แล้ว ตอนนั้นก็คือคนไม่เบียดมาก คือที่มันเบียดเพราะว่าในสถานีคนอื่นก็เดินก็ต้องหลบๆเค้า แล้วมีสิ่งกีดขวาง ทำให้เวลาเราเดินหลบ มันก็ต้องมีการเลี่ยง แล้วเดินมาบรรจบกันอะ เออนั่นแหละ

    พอออกมาข้างนอกก็พอจะหายใจได้หน่อย
    และที่สำคัญบอกได้คำเดียว น้อง หล่อ มาก หล่อเหี้ยๆๆๆๆๆๆหล่อชิบหายอิเวน
    คือน้ำตาจะไหล แบบ เท่มากอะ ท่าเดิน การแต่งตัว ทุกอย่าง ทัชใจมาก แบบรักมาก T-T



    นี่พอถึงทางเลี้ยวก็คือได้ใกล้หน่อย ถถถถถถถถถถถถถถถถ
    ความเบียดคือลดลงแล้วหรือมัวแต่ฟินเลยไม่รู้สึกก็ไม่รู้อะ

    ตอนอยู่ข้างนอกได้สบตากันแวบนึงด้วยตอนน้องหันมาตามหาผจก.มั้ง แล้วอินี่คืออยู่ในสุด 5555555555 ด้วยความงง เข้ามาไงไม่รู้ แม่งเง้ย โคตรแบบ สายตามองต่ำ เหมือนคนแคระ ฮือ แต่เขินชิบหายเลย แง T--T




    และด้วยสิ่งนี้นะคะ
    อิชั้นก็ตายไปเรย ฝัง ฝังกูตรงนั้น ฮือออออ
    ผ่านมานานแล้วพอนึกถึงก้อยังเขินอยู่เลย (จริงๆมันเปนคลิปนะ5555)


    และวันนั้นก็จบวันด้วยการนั่งรถไฟกลับรร.
    ไปกิน KFC ที่ห้างแถวรร. นั่นแหละ แบบ ทริปนี้ได้กินแต่ เคฟซี แม็ก และมาม่า 
    เท่านี้จริงๆค่ะ ไม่ได้เข้าร้าน ไม่ได้กินอาหารจีนเลยเพราะไม่สามารถจริงๆ TT

    แต่เคฟซีคือทับใจมาก เรากินเบอเกอร์ไก่ เป็นขนมปังสีดำพร้อมหมูหยองรสเผ็ด เหย มันโอเคมากเลย ที่ไทยทำไมไม่มีนะ มันอร่อยมากอะ !








    จบวันนี้ด้วยสิ่งนี้ละกันฮะ
    วันอันแสนยาวนาน ถึงห้องก็ประมาณทุ่มกว่า
    ตอนแรกว่าจะเดินห้างต่อ แต่ไม่รู้จะซื้ออะไร 
    อีกอย่างคือเหนื่อยด้วย 
    มานั่งหวีดรูปหวีดคลิป อาบน้ำ ก็หมดวันแล้ว ถถถถถถถถ

    ตอนต่อไปวันแฟนไซน์
    เราจะไปผจญภัยกันต่อ วันสุดท้าย เย้



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in