เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
THE DIARY OF MY JOURNEYPATNAKAN
อิตาลีนี่มันอิตาลีจริงๆเลยนะคะ II
  • สวัสดีค่ะทุกท่าน มาพบกับภาคสองของ อิตาลีนี่มันอิตาลีจริงๆเลยนะคะ หลังจากที่เราคิิดอยู่น้านนาน ว่ามีอะไรที่ยังไม่เขียนไปมั้ย ซึ่งก็เราเขียนที่เรารู้ไปแทบทุกอย่างแล้ว 555555555555

    เอาล่ะ มาเริ่มกันที่ข้อแรก เริ่มที่ผู้ชายอิตาเลียนละกัน--- เอ๊ะ อาจจะมีคำหยาบประปรายบ้าง ก็อย่าถือสากันเลยนะคะ อรรถร๊สสสส

    เราควรใช้ความบ้าผู้ชายของเราให้เป็นประโยชน์ โดยการเขียนถึงผู้ชายอิตาเลียนไปเลยดีกว่า 5555555555 

    อาจจะดูเหมารวมๆไปหน่อย แต่ก็จากที่เราเห็นส่วนมาก ก็เป็นแบบนี้กันซะเยอะเลยนะคะ อยากเอามาเล่าสู่กันฟัง ถึงแม้เราจะไม่เคยมีประสบการณ์ได้ไปเดท (ทำไมเขียนถึงบรรทัดนี้แล้วนั้มตาไหรย์)
    แต่เรานั้นเป็นคนมีเวลาว่างกับการส่องผู้ชายเสมอ เราก็สามารถเก็บรายละเอียดมาได้ดังนี้ 

    อีดอก เขียนซะเหมือนคอลัมน์แม่บ้านฝรั่งต้องการทราบข้อมูลของผู้ชายประเทศนั้นๆเลยแต่ก็เอาเถอะ เขียนสนองนี้ดอะ 55555555555555555555 

    เน้นอีกครั้ง อาจจะไม่ใช่แบบนี้กันทุกที่นะคะ แต่เราเอาที่เราเห็นบ่อยๆและเห็นทั่วไปนะคะ <3
    และเราไปแลกเปลี่ยนมาสองปีแล้ว แฟชั่น กระแสเทรนด์ต่างๆอาจเปลี่ยนไป และแน่นอนว่า เราหากินกับของเก่าค่ะ เคยเอาลงใน exteen ไปแล้ว แล้วเอามารีไรท์ใหม่ ฮ่าาา /โดนตี 555555555555

    1.ผู้ชายอิตาเลียนจะติดครอบครัวมากกก โดยเฉพาะแม่กับน้องสาว อะไรจะคิดถึงครอบครัวตลอดเวลา ติดบ้านมากๆ บางคนเนี่ยสนิทกับน้องสาวจนถึงขั้นว่า ถ้าเราไม่รู้จักเค้ามาก่อน เราอาจจะคิดว่าเค้าเป็นแฟนกันก็ได้ เพราะหอมแก้มและกอดกันตลอดเวลา โอ๊ยยย หมั่นไส้และเหม็นความรักมากเด้อ น้องชงน้องชาย ย่ายาย ติดโหม้ดดด 

    2.ส่วนมากเทรนด์แฟชั่นต่างๆจะเห็นได้จากวัยรุ่นชาวอิตาเลียนค่ะ อย่างช่วงปีที่เราไปแลกเปลี่ยน อันเดอร์คัตกับ Hair bun ฮิตมากๆ จะทำทรงแบบนี้กันทั้งเมืองเลย แต่ดี หล่อ... 

    3.บ้าฟุตบอลมากกกกกกกกกกกกกก
    ช่วงที่มีฟุตบอลแมตช์สำคัญๆเนี่ย เมืองจะเงียบเลย แต่จะไปแห่กันอยู่จัตุรัสกลางเมือง 
    เอะอะอะไรต้องบลัฟกันด้วยทีมที่ตัวเองชอบ เช่น เมืองที่เราอยู่คือ Napoli (Naples) ทีมนี้ก็จะดังมาก แต่ถ้าเกิดมีใครชอบทีมของมิลาน ก็จะแบบ อีกบฏ! 555555555555

    เวลาว่างๆส่วนมากก็ไปอยู่คลับฟุตบอลกันหมดเลยค่ะ หูย ตอนเย็นเวลากลับบ้านนะ ตามสถานีรถไฟ ถอดเสื้อกันพรึ่บพรั่บ คนที่บ้านอยู่บนสถานีรถไฟอย่างชั้นก็โลมเลียชายเหล่านั้นผ่านสายตาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวค่ะ555555555555555

    เรื่องตลกที่สุดที่เคยเจอ คือ ครั้งนึงเราไปดูฟุตบอลนัดเยอรมันอิตาลี แล้วเมืองใหม่ที่เราย้ายไปอยู่เป็นเมืองที่ใช้สองภาษาก็คือ เยอรมัน อิตาลี ก็เลยเสียงแตกเป็นสองฝ่าย แต่ที่เห็นคนเยอรมันจะน้อยกว่าค่ะ ทำให้เค้าต้องเชียร์แบบไม่เต็มเสียงสักเท่าไหร่ 
    แต่ที่ตลกคือ  เราไปยืนเชียร์ข้างๆ คู่รักคู่นึง ซึ่งผู้ชายก็เอาเพื่อนตัวเองมาด้วย แต่พออิตาลีเตะเข้า นางดีใจ หันไปกระโดดจุ๊บเพื่อนตัวเองค่ะ ปล่อยให้เมียยืนงง ฮือ วงวารเจ้ 555555555555555555555

    4.การที่เค้าหอมแก้มและถามไถ่เรานั่นไม่ได้หมายความว่าชอบเรา.......
    (วิ่งหนีไปร้องไห้ใต้ต้นตะขบ) 
    ความจริงมันก็เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ เค้าก็ทักกันด้วยหอมแก้ม เรามีเรื่องมาเล่าอีกแล้ว เป็นเรื่องของเพื่อนผู้ชายเราคนนึงค่ะ เค้าก็ทักเราปกติ นี่คือบทสนทนาจริงๆนะคะ 5555555

    เจอร์ : Ciao! หยินนน เป็นไงสบายดีไหม

    หยิน : โซโซ เจอร์ราโด้ล่ะ

    เจอร์ : ก็สบายดี มานี่มา

    แล้วนางก็ยื่นหน้าเข้ามาเพื่อหอมแก้มเรา

    เจอร์ : ไปละนะ ไว้เจอกัน

    หยิน : อ่า... *พยายามหุบยิ้มเลเวลหนึ่งร้อยแล้วพยักหน้าตอบ*

     คือแบบ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด สติชั้นนนนนนน

     ยังไงก็แล้วแต่ เจอร์ราโด้มีแฟนแล้วค่ะแล้วการทักทายแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ ควรทำใจให้ชินว่ามันเป็นเรื่องที่ใครๆเขาก็ทำก๊านนนนนน

    เบื่อผู้ชายอิตาลีอะ บางทีก็ชอบมาอ้อยเราแบบไม่ตั้งใจอ้อย ทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้ว แล้วผู้ชายก็ชอบเล่นกับเพื่อนผู้หญิงอย่างกับแฟนเคยเจอกระโดดกอดกัน เพื่อนผู้หญิงร้องไห้บางทีก็เข้าไปกอดแล้วก็ให้ซบกับไหล่แล้วจูบหน้าผาก............

     แล้วกูที่มาจากประเทศที่ผู้ชายแทบแตะตัวผู้หญิงไม่ได้จะให้กูคิดยังไง

    คือฉันชอบเค้าได้ แต่ห้ามมโน ห้ามหวั่นไหวสินะคะ

    อีเวน สงสารกูด้วย ใจบางเด้อ


    ช่วงที่เราต้องย้ายเมือง เจอร์ราโด้ก็มาถามเราว่า ทำไมต้องไปอ่ะ ไม่ไปไม่ได้เหรอ เสียดายจังเลย

    โอ๊ยยยยยยยยย แม่งเง้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย อย่ามาถามคำถามแบบแฟนๆยังงี้ได้มั้ยวะะะะะ 

    *กระทืบเท้าลงพื้นอย่างเก้วกาดมากๆ*


    5.สูบบุหรี่กันจัดมากกก เริ่มกันตั้งแต่ม.ต้นเลย มีน้อยมากที่จะไม่สูบ จนบางทีเราอยากจจะบอกว่าเพลาๆบ้างไหม กว่าจะถึง 40-50 ปงปอดตับไตไม่แย่กันหมดเหรอ ผู้หญิงก็เหมือนกัน แต่ผู้ชายจะหนักกว่ามาก

    เอาล่ะ เปลี่ยนท้อปปิคกันบ้าง เพราะเราไม่รู้จะพูดถึงผู้ชายอิตาเลียนยังไงแล้วนอกจากความหล่อบรรลัยของพวกเขานะคะ

    6.ปิดเทอมฤดูร้อนของวัยรุ่นอิตาลีคือ 

     1.ปาร์ตี้

    2.เที่ยวยุโรป

    3.อวดผัว

    4.ไปทะเล.

    .

    .

    .

    .

    1000.อวดผัวและไปทะเล  #ค่ะ

    พวกนางชอบแสงแดดพอๆกับเทเลทับบี้ และชอบทะเลพอๆกับที่เราชอบผู้ชายหล่อ อปป้า หนุ่ม 2D ตั่งต่าง ซัมเมอร์จบไปเป็นเดือนแล้วพวกนางก็ยังคงลงรูปบิกินี่ที่ทะเล และแอ่นนมด้วยอินเนอร์นางแบบแม็กซิมกันทุกคน


    7.ผู้ชายอิตาเลียนจะอวดเมีย เห่อเมีย พอๆกับที่ผู้หญิงอวดผัว อ่ะๆๆ นั่งๆบนม้านั่งไปก็จะแบบโอบ เอาหัวมุด ผู้หญิงก็จะแง้วๆ เตงเค้าขอเอาขาพาดหน่อย เตงเค้าอยากกินนั่นง่ะ ................ 

    อีเชี่ย เห็นใจนายกสมาคมคนไร้ผัวไร้เพื่อนไร้ญาติแห่งประเทศไทยบ้าง อยากจะแหมให้ถึงดาวอังคาร ให้รอบจักรวาลและรอบกาแล็กซี่เร้ยยย อีมะกรูดเอ้ย

    8.ปาร์ตี้กันค่อนข้างหนักมาก ตีสองตีสามยังอัพรูปอยู่ปาร์ตี้อยู่เลยค่ะ มึงใช้เวลาปิดเทอมได้สุดกันจริงๆ

    ยิ่งโดยเฉพาะปาร์ตี้อายุสิบแปดนะคะ ซึ่งเป็นปาร์ตี้ที่สำคัญมากสำหรับวัยรุ่นอิตาเลียน ลูกโป่งฮีเลียมลูกโป่งสวรรค์ต้องมา แชมเปญพร้อมเค้กยี่สิบชั้นประดับด้วยเทียนเลขอายุที่ใหญ่ประหนึ่งเทียนพรรษาเจ้าของงานวันเกิดอีกนิดจะตีโป่ง ติดกากเพชรราตรีสโมสรกันเลยทีเดียวนะคะ บางคนถึงกับไปจัดในโรงแรมเลยปิดเธคก็มี นี่งานวันเกิดหรืองานกาชาดประจำจังหวัด จ้างหมอลำเลยมั้ย

    เวลาผ่านไปจน 18 ได้สามรอบแล้วก็ยังไม่เลิกอัพรูปย้อนหลังค่ะ พูดเลย


    9.สไตล์เมคอัพของผู้หญิงจะค่อนข้างต่างจากวัยรุ่นบ้านเรามาก อย่างที่คนไทยชอบเรียกกันก็สายฝ.นั่นแหละค่ะ ค่อนข้างยากที่จะเจอเมคอัพโคเรียลุค ไม่มีเลย ต้องสีเข้มเท่านั้นฮร่ะ

    10. สำหรับวัยรุ่นอิตาลี เค้ามีกระแสเคป๊อบบ้างไหม

    คำตอบคือ มีค่ะ แต่น้อยมากกก เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ที่ดังๆก็จะเป็น BTS กับ EXO ค่ะ

    แต่อย่างที่เราชาวติ่งรู้ หากชอบเคป๊อบวงนึง มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะติดไวรัสไปชอบวงอื่นต่อ กลายเป็นว่าเพื่อนสนิทเรา รู้เรื่องเกาหลีมากกว่าเราอีก Wanna one GOT7 ซีรี่ส์เกาหลีมันก็ดูเยอะกว่าเราอีกค่ะ ขุ่นพร๊ะะ 55555555555 แต่ส่วนมากวงเกาหลีจะชอบไปปารีสมากกว่าค่ะ นางมาโอดครวญใส่เราประจำ ยิ่งเวลาเราไปข่มนางว่า ก็อตเจ็ดมาขอนแก่นด้วยนะเว้ย บ้านเราอะ นางก็ด่าเราถถถถ

    แถมที่มหาลัยอิตาลีก็มีพวกภาษาตะวันออกให้เรียนด้วยนะ เพื่อนรุ่นพี่เราก็เรียนญี่ปุ่นกับเกาหลี ทั้งๆที่นางจบมอปลายจากวิชาคลาสสิค ซ่งเรียนกรีกกับละตินไรงี้

    11.แล้วถ้ากระแสเคป๊อบน้อย แล้ววัยรุ่นอิตาเลียนฟังไรกัน?

    จากที่เราเห็นแล้ว เค้าชอบฟังเพลงที่ฮิตกันในช่วงนั้นค่ะ ช่วงที่เราไปเพลง ROMA-BANGKOK ฮิตกันมาก พอเราบอกว่าแบงคอกคือเมืองหลวงของไทยแลนด์ ก็พากันร้องเพลงนี้ใส่เรา 

    เพลงนี้แม่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับแบ้งคอกเลยค่าาา แค่พูดว่าตามผู้ชายคนนึงจากโรม ผ่านล่อนด้อน ฮ่องกง มาสิ้นสุดที่แบงคอก 55555555555555555 

    ไม่อยากจะคิดว่าช่วงเดสปาซิโต้ฮิตๆจะเกิดอะไรขึ้น... แต่เอาจริงๆคนอิตาเลียนฟังเพลงภาษาสเปนเยอะมากค่ะ ตอนเราไปเนี่ย จะร้องเพลงภาษาสเปนได้มากกว่าอิตาเลียนอีกอ่ะ

    เพลงของคนนี้ฮิตมากค่ะ Alvaro Soler ดังโคตรๆๆๆ แต่เราชอบอะ เต้นสนุกดี ละตินๆ



    แต่สิ่งที่ตลกคือ หลังจากที่เราพูดชื่อเต็มของกทมให้ทุกคนฟัง พากันตื่นเต้นมาก เรียกกันมาฟัง เราได้พูดอยู่หลายรอบมากๆ เพราะแบบ พูดให้คนนึงฟังจบ คนนึงมาต่อ คนนึงก็เรียกกันมาฟังต่ออีก 

    อัดเสียงไหมจ๊ะ กุเหนื่อย 5555555555555 มีการบอกโอ้โห ถ้าเอาไปใส่ในเพลงโรม่าแบงคอกจะเป็นยังไง 555 

    12.เข้าผับได้ตั้งแต่อายุ 16 เลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นหน้าตาเด็กๆไปยืนในผับในบาร์ หรืออกมาเที่ยวเล่นตอนกลางคืน แอลกอฮอล์ก็ดื่มได้กันตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ เราแบบ อืม ตอนกูมอสามกูยังนอนดูบาร์บี้อยู่เลยอะ (ค่ะ เรายังดูบาร์บี้อยู่ แต่ภาคใหม่ๆนี่ไม่ได้ดูละ อีบ้า ตลก ไม่รู้ผจญภัยอวกาศอะไร)

    13.เราเคยไปคอนเสิร์ต THE 1975 ที่อิตาลี บัตรราคาถูกมากกก ประมาณ 23 ยูโร แต่เต็มเร็วมาก วันแรกก็หมดไปละ เราโชคดีเพราะเพื่อนคนนึงซื้อบัตรมา แต่มันติดสอบวัดระดับภาษา เราเลยไปซื้อต่อนางมา เลยได้ไป

    บัตรคอนอื่นๆที่เคยเจอก็ถูกมากนะคะ เคยเห็นแพงสุดๆก็ของอเดล อันนี้แพงจริง ขายบ้านขายรถไปค่ะ

    14.ถ้าโชคดีได้ไปเที่ยวเมืองใหญ่ๆมีอะไรให้ดูเยอะค่ะ นิทรรศกาลภาพถ่าย งานอาร์ต คอนเสิร์ต ที่ท่องเที่ยว ของซื้อของขาย ถ้าอยู่เมืองรอบนอกก็เงียบสงบดีเพราะแม่งไม่มีเชี่ยอะไรเลยค่ะ แต่เราโชคดีที่ได้ย้ายไปอยู่เมืองที่เป็นเมืองใหญ่แต่อยู่ชายแดนกับออสเตรีย เงียบสงบ มีภูเขา อากาศเย็น แล้วก็มีงานอะไรเจ๋งๆให้ดูเยอะมาก เพราะเป็นเมืองใหญ่ แต่คนไม่เยอะเท่ากับโรม หรือมิลาน

    ถ้าใครอยากอ่านเกี่ยวกับเมืองที่เราได้ไปอยู่ ก็เชิญข่ะ (ขายของแบบไม่เนียน) > หลงทางไปกับไกด์หยิน ณ Bolzano,Italy

    15.โดยปกติแล้วคนอิตาเลียนจะชอบไปที่บาร์ตอนเช้า ไปกินกาแฟกับครัวซองต์ที่เคาน์เตอร์บาร์ แล้วก็จากไป แป๊บเดียวจริงๆ ซึ่งไม่เหมือนคนไทยที่ไปคาเฟ่ไปนั่งกินกาแฟทำงานนานๆ ก็จะให้คนละอารมณ์กัน เพราะเค้ากินเหมือนเป็นมื้อเช้า คนไทยจะกินเป็นขนมทำงานเพลินๆมากกว่า 


    แต่คนอิตาเลียนกินกาแฟกันทั้งวี่ทั้งวันจริงๆค่ะ เอสเพรสโซ่แก้วเล็กๆไม่ถึงคืบ ราคาประมาณ 1.5-3 ยูโร

    16.แบรนด์เนมก้อปที่อิตาลีก็มี เยอะด้วย 555555555555555

    เค้าก็จะวางขายตามพื้น ตามทางเดิน เวลามีงานขายของค่ะ ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็ไนท์บาซาร์ไรเงี้ย ตลาดกลางคืนเวลาคนมาเดินเล่น ขายตามสถานที่ท่องเที่ยว เยอะมากกก 

    ตำรวจก็ปล่อยผ่านไปเฉยๆนะ บางทีรองเท้าที่เราเห็นเนี่ย รุ่นที่ดังๆอ่ะค่ะ สีขาวลายสีดำด้านข้าง ยังไม่รู้เลยใครใส่ของจริงของปลอม เพราะแม่งใส่กันทุกคน ฮิตเว่อๆ 55555555555


    17.คนอิตาเลียนกินม้าและกระต่าย เคยโดนหลอกแดกม้าด้วย กรี๊ดดดด

    คือไม่รู้ไง เพื่อนก็บอกให้เรากิน แล้วนางก็ถามรู้ไหมนี่เนื้อไร เราก็บอกไม่รู้

    นางก็บอก...นี่เนื้อ Cavallo นะ

    อืม...คาเปลโล่นี่หมวก คาวาลโล่นี่.............

    ฮี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย์ ม้าาาาาาาาาา อีสัสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

    ทำไมมมม ทำไมต้องแดกม้าาาาาาาาาาาาา (วิ่งไปร้องไห้ที่มุมห้อง)

    เราชอบม้ามาก รู้สึกว่ามันสง่าและเท่โคตรๆ ไม่คิดว่าวันนึงจะโดนหลอกแดกเนื้อม้า ให้ความรู้สึกเหมือนเราชอบหมา แล้วโดนหลอกแดกเนื้อหมา นั้มตา ;_____; แต่ก็ว่าไม่ได้อะเนาะ อาหารเค้า 555 แถวบ้านเรายังกินลูกอ๊อด กิ้งก่าเลย ก๊ากกกก

    18.คนอิตาเลียนชอบทำอาหารกินเองที่บ้าน ไม่ค่อยไปร้านอาหารกัน ซึ่งเราก็รู้ๆกันอยู่ว่ามันแพงมากๆ ส่วนมากที่เค้าไปกินก็เพราะเฉลิมฉลองสเปเชียลไรงี้ เช่น ปิดเทอมก็ไปกินอาหารญี่ปุ่นกับเพื่อน หรือแบบงานสำคัญต่างๆที่เราก็ไม่รู้ เพราะเราไม่เคยไป เพราะมันแพง 5555

    ส่วนมากก็กินแค่พิซซ่าง่ายๆ อาหารเดลิเวอร์รี่ยังไม่มีเลยค่ะ ซุปเปอร์มาร์เกตทุ่มนึงก็ปิดแล้ว ผิดกับไทยที่อยากกินอะไรก็มีให้กิน เคยลืมซื้อไข่มาทำกับข้าว เรากับโฮสซิสต้องวิ่งตาเหลือกเพื่อไปซุปเปอร์มาร์เกตตอนทุ่มนึง แต่ 6.50 เค้าก็ปิดร้านแล้ว........... อีสัส ไม่ส่งเสริมสายแดกเป็นอย่างยิ่ง คิดถึงเซเว่นและมินิมาร์ตร้านโชห่วยมาก ขนาดอยากกินไก่ทอดตอนสามทุ่ม ที่ไทยเค้ายังมาส่งที่หอได้เลย คิดถึงไทยแลนด์ข่า

    ดังนั้นคนอิตาเลียนก็จะไปซื้อของแบบลิสต์ไป ซื้อครั้งเดียวจบในอาทิตย์นั้นๆ แล้วก็ทำอาหารกินกันเอง เลยทำให้คนอิตาเลียนทำกับข้าวเก่งกันทุกบ้าน ทำอร่อยด้วย โฮสมัมทำขนมอร่อยมาก นั้มตาจะไหล... อ้วนวนไปฮร่ะ..


    19.คนอิตาเลียนก็กินข้าวนะ แต่เป็นข้าวบัสมาติ รู้สึกว่าจะนำเข้ามาจากทางอินเดียค่ะ ข้าวแอบจะแข็งๆนิดหน่อย ไม่รู้เพราะข้าวหรือคนอิตาเลียนเองที่หุงไม่เป็น... วิธีหุงข้าวเค้าก็คือต้มใส่น้ำใส่เกลือ ต้มจนสุก ถ้าน้ำหายก็เติมเข้าไปเรื่อยๆ สภาพมันก็จะแฉะๆ แล้วก็เหมือนกึ่งสุกกึ่งดิบ รู้สึกทรมานทุกครั้งที่กินข้าว..

    แต่เคยเห็นข้าวญี่ปุ่น ข้าวจากไทยก็มีเหมือนกันค่ะ

    รู้สึกอยากบริจาคหม้อหุงข้าวให้คนอิตาเลียน ไม่ก็ชั้นจะเป็นผู้ส่งออกและนำเข้าหม้อหุงข้าวเจ้าแรกและเจ้าเดียวในอิตาลี เราจะสร้างความสุขให้ทุกท่านในทุกมื้ออาหาร! และเราก็จะรวย รวยปุ๊บเราจะซื้อผู้ชายอิตาเลียนกี่คนก็ได้ อุวะฮ่าฮ่า!! (คุยกับตัวเองในกระจกและหัวเราะอย่างเสียสติ)


    20.ข้อสุดท้ายแล้วฮ่ะ คิดไม่ออกแล้ววววววว 

    ไม่รู้ว่าเป็นกันทุกที่ไหมนะคะ ข้อนี้อาจจะเป็นแค่บ้านเรา 

    คนอิตาเลียนชอบซื้อต้นไม้ให้กันค่ะ ... ร้านขายดอกไม้เยอะมากๆในเมือง แต่สวรรค์ของเรามากอะ เราชอบร้านดอกไม้ เห็นดอกไม้แล้วสบายใจ ขายแบบกระถางๆเลย แต่แบบช่อก็มีนะ แต่อย่างวันแม่งี้ โฮสซิสเราก็ชวนเราไปซื้อดอกไม้ให้โฮสมัม นางไม่เคยเห็นต้นผักตบชวาค่ะ นางก็ซื้อเป็นกระถางน้ำมาเลย เราก็บอกไปว่า ที่ไทยอะเยอะมาก จนเค้าได้ตักไปทิ้ง เพราะมันเยอะจนมองไม่เห็นแม่น้ำ แต่ไม่รู้ป่านนี้ต้นมันจะออกดอกรึยังนะคะ ซิสเอาไปใส่ในอ่างปลาที่บ้าน 5555

    โอเค ยี่สิบข้อพอ คิดไม่ค่อยออกแล้วจริงๆค่ะ แต่ถ้านึกอะไรออก จะมาเพิ่มเป็นภาคสามนะคะ

    ให้เป็นหนังไตรภาคไปเลย /เดี๋ยว 

    ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ <3 ทุกคนเลยยย 

    เราเพิ่งสร้างเพจไป ที่รวมงานเขียนจิปาถะของเรา 

    มั่นหน้ามากค่ะ สร้างเป็นชื่อตัวเองแล้วยังกล้าเรียกว่างานเขียนอีก ฮ่อล 55555 เราก็เขียนไรจับฉ่ายไปทั่วนั้นแหละค่ะ ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ เราอยากจะรวมที่เราเขียนเรื่องอิตาเลียนให้เป็นรูปเล่มเหมือนกัน ขอบคุณจีจีค่ะ เชิญได้นะคะ เหงามาก --> The Patnakan





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in