เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
wild rabbit #jaedohbrxnct
Chapter 10 : michelangelo





  • สิ่งที่ปรากฎเมื่อแก่สายตาของคนทั้งคู่เมื่อเจย์เดนผลักประตูบานนั้นให้เปิดออก คือแผ่นหลังของวัยรุ่นชายคนหนึ่งที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอะไรสักอย่างด้วยแล็ปท็อปตรงหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานบริเวณมุมห้อง

    ผ้าม่านหนาที่ถูกดึงปิดหน้าต่างทุกบานภายในห้องนั้น ทำให้ห้องแห่งนี้ทึบแสง นั่นจึงทำให้ประตูบานที่กำลังเปิดอยู่กลายเป็นทางเข้าออกเดียวของแสงสว่างไปโดยปริยาย และมันก็ทำให้วัยรุ่นชายคนนั้นรู้ตัวในทันทีว่าห้องนอนของตนกำลังถูกบุกรุกโดยคนแปลกหน้า

    "นี่เอฟบีไอ! อย่าขยับ เอามือวางไว้บนหัว!"

    เสียงตะโกนสั่งของเจย์เดนดังลั่น และมันก็ดังแหวกเสียงดนตรีที่อึกทึกอยู่ภายในห้องจนทำให้ทุกคนในที่แห่งนี้ได้ยินคำสั่งนั้นชัดเจน ปืนในมือของเจ้าหน้าที่หนุ่มถูกยกขึ้นเล็งไปยังเป้าหมาย ชายหนุ่มคนดังกล่าวที่หันมายังต้นเสียงตัวแข็งทื่อด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะรีบทำตามคำสั่งนั้นในทันทีโดยไร้ท่าทีขัดขืน

    แดนเนลใช้สายตากวาดไปรอบ ๆ ห้องเพื่อมองหาเครื่องเสียงแล้วเดินไปปิดมันเสีย โดยไม่แม้แต่จะเอ่ยขออนุญาตเจ้าของห้องเลยสักคำ เสียงสังเคราะห์ที่แทรกอยู่ในเพลงอีดีเอ็มเหล่านั้นทำเอาเขารู้สึกปวดหู และเขาไม่ต้องการที่จะได้ยินมันนานมากไปกว่านี้

    ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบโดยทันทีเมื่อเครื่องเสียงหยุดทำงาน

    "นายมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด เพราะสิ่งที่นายพูดอาจถูกนำไปใช้ในชั้นศาล" เจย์เดนเอ่ยคำเตือนมิแรนด้าออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ขณะสาวเท้าตรงไปยังชายวัยรุ่นคนดังกล่าว "นายมีสิทธิ์ที่จะขอทนาย ถ้าไม่สามารถจ้างทนายได้รัฐจะจัดหาให้"

    ปืนในมือของเจย์เดนยังคงจ่ออยู่ที่เป้าหมาย จนกระทั่งเขาเดินเข้าไปรวบตัวชายวันรุ่นคนนั้นเอาไว้แล้วส่งต่อให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่เพิ่งตามเข้ามาเป็นคนควบคุมตัวออกไป เจย์เดนรับรู้ได้ถึงความหงุดหงิดเล็กน้อยที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ยามที่เจ้าหน้าที่ในทีมของตนและชายหนุ่มคนนั้นเดินผ่านหน้าของเขาแล้วก้าวออกจากห้องไป

    วัยรุ่นผู้เป็นเจ้าของห้องนี้ดูเด็กเกินกว่าที่จะเป็นริชาร์ดได้ คนที่อยู่ในห้องนี้ไม่ใช่ริชาร์ดจริง ๆ อย่างที่แดนเนลบอกเขาเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้ามา

    "คุณรู้ได้ยังไงว่าคนที่อยู่ในห้องนี้ไม่ใช่ริชาร์ด"

    เขาตัดสินใจเอ่ยถามเจ้าหน้าที่จากซีไอเอเพียงหนึ่งเดียวในที่นี้ ขณะเดินตามอีกฝ่ายตรงไปยังแล็ปท็อปที่ถูกเปิดค้างเอาไว้บนโต๊ะทำงานนั่น เขามีเรื่องที่นึกสงสัยในตัวแดนเนลมากมากมายเต็มไปหมด และแน่นอนว่าเขาไม่อยากให้มีมันเพิ่มขึ้นมากไปกว่านี้อีกแม้เพียงเรื่องเดียว

    "ก็อย่างที่ผมบอกคุณ" แดนเนลเริ่มต้นอธิบายขณะนั่งลงตรงเก้าอี้ ก่อนจะวางมือทั้งสองข้างของตนลงบนแป้นพิมพ์ ดวงตากลมจับจ้องยังหน้าจอที่อยู่ตรงหน้าไม่ละไปไหน ทว่าริมฝีปากเรียวนั้นยังคงเอ่ยต่อ "ริชาร์ดน่ะระมัดระวังตัวกว่าผมเยอะ อะไรที่ผมไม่ประมาท เขาก็จะไม่ประมาทเหมือนกัน และไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลงเสียงดังจนไม่ได้ยินอะไรจากด้านนอกเลย ไปจนถึงการไม่ยอมล็อกประตูห้องนั่นน่ะ คือสิ่งที่ผมจะไม่ประมาทเด็ดขาด"

    สิ้นคำ ปลายนิ้วเรียวของแดนเนลก็แตะเข้าที่ปุ่มเอนเทอร์ และมันก็ทำให้หน้าต่างคำสั่งบนระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์สีดำสนิทเด้งขึ้นมากลางหน้าจอแล็ปท็อปในทันที

    "คุณจะทำอะไร?"

    "หาว่าข้อมูลพวกนั้นถูกส่งต่อไปที่ไหนอีกทอด"

    มือเรียวของแดนเนลที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วยามที่เจ้าตัวนั่งอยู่หน้าจอคอม ไปจนถึงเสียงแป้นพิมพ์ถูกกดที่ดังขึ้นตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่ยามที่อีกฝ่ายเอ่ยพูดนั้น กลายเป็นสิ่งที่เจย์เดนเห็นจนชินตาในช่วงหลายชั่วโมงที่ผ่านมานี้ เจย์เดนยอมรับและนับถือในความสามารถของอีกฝ่าย ทว่านั่นก็ไม่อาจทำให้ความเคลือบแคลงใจที่เขามีอยู่ลดลงไปได้เลย

    คำสั่งบนระบบปฏิบัติการถูกเรียกใช้อย่างไม่หยุดหย่อน ข้อมูลการใช้งานอินเตอร์เน็ตของคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไปจนถึงข้อมูลเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของบ้านหลังนี้ถูกขุดคุ้ยออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน เจย์เดนยอมรับว่าเขาไม่เข้าใจคำสั่งที่แดนเนลเรียกใช้ก็จริง แต่ถ้าเป็นข้อมูลที่ปรากฎขึ้นหลังจากแล้วล่ะก็ มันไม่ใช่เรื่องยากเกินความเข้าใจของคนทั่วไปอย่างเขาเลยสักนิด

    "ดูนี่สิ" แดนเนลเอ่ยขึ้นก่อนจะใช้ปลายนิ้วของตัวเองชี้ไปยังหน้าจอ "มีคนอื่นอยู่ในเครือข่าย"



    thisism2k$ who

    Logged on :
    thisism2k          (local)
    michelangelo    (h3110-28974-336587.numbereight.michelangelo...ru 64.233.181.104)



    ข้อมูลที่ปรากฎบนหน้าจอนั้นคือรายชื่อของผู้ใช้ทั้งหมดที่อยู่ในระบบขณะนี้ รวมไปถึงไอพีปลายทางของผู้ใช้รายนั้น ๆ ด้วย

    thisism2k คือชื่อผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของแล็ปท็อปเครื่องนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดยตรงด้วยสายแลน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะปรากฎอยู่ในรายชื่อของคนที่กำลังเข้าใช้ระบบอยู่

    ทว่า michelangelo นั่นไม่ใช่ เพราะไอพีปลายทางที่อยู่ด้านหลังชื่อนั้นบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ามาจากที่อื่น

    และนั่นก็ทำให้แดนเนลพิมพ์คำสั่งถัดไปเพื่อแสดงข้อมูลของไอพีแปลกปลอมดังกล่าว



    thisism2k$ whois 64.233.181.104

    Server Administrative Contact :
    DNS Admin
    2COM Co ltd.
    4 Avtomobilniy Street
    Moscow
    RUSSIA



    "ไอพีมาจากเซิฟเวอร์ที่รัสเซีย หึ ตัวหลอกอีกตามเคย" แดนเนลส่งเสียงหัวเราะต่ำในลำคอ ขณะเสียบยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ที่เขาพกติดตัวมาด้วยเข้ากับแล็ปท็อป ก่อนจะพิมพ์คำสั่งให้โปรแกรมแกะรอยไอพีที่อยู่ในยูเอสบีแฟลชไดรฟ์นั้นเริ่มทำงาน "มาคุยกันสักหน่อยเป็นไง คุณไมเคิลแอนเจโล"

    การทำงานของโปรแกรมแกะรอยไอพีปลายทางนั้นต้องใช้เวลาพอสมควร และมีเงื่อนไขอยู่หลายประการสำหรับการค้นหา หนึ่งในนั้นคือการที่เป้าหมายจะต้องออนไลน์อยู่ตลอดเวลาขณะที่โปรแกรมกำลังทำงานอยู่ ดังนั้นเขาจึงต้องหาวิธีการเตะถ่วงอีกฝ่ายให้ออนไลน์อยู่ในระบบนานขึ้น



    thisism2k$ write michelangelo
    thisism2k$
    นายเป็นใคร?

    Message from [email protected]...
    ลองเดาสิ ใช้สมองหน่อยเป็นไง
    ไม่ยากเกินความสามารถนายหรอกน่า ดีบีดี
    ไม่สิ ตอนนี้ฉันต้องเรียกนายว่าแดนเนล ถูกไหม?


    thisism2k$
    เหอะ ๆ
    นายมันขี้ขลาด ริชาร์ด


    Message from [email protected]...
    งั้นนายมันก็ดื้อ และอวดดี
    ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้นายจะไม่เปลี่ยนไปเลยนะ


    thisism2k$
    มาเจอกันซึ่งหน้าสิ
    จะได้รู้ว่าฉันเปลี่ยนไปหรือเปล่า
    ว่าไง?


    Message from [email protected]...
    เด็กน้อย ตอนนี้นายกับฉันก็เจอกันซึ่ง ๆ หน้าอยู่ไม่ใช่เหรอ
    เมื่อคืนนายไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะ
    นิสัยหาเรื่องเจ็บตัวนี่ก็ยังไม่เปลี่ยน


    thisism2k$
    ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน
    นายมาสนใจเรื่องของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


    Message from [email protected]...
    อันที่จริงฉันก็สนใจนายมาตลอดนั่นแหละ
    อ่า...ฉันว่าฉันออนไลน์นานเกินไปแล้ว
    ไว้เจอกันใหม่นะเด็กน้อยของฉัน บ้ายบาย


    michelangelo disconnected



    ริชาร์ดล็อกเอ้าท์หนีออกไปแล้ว บนหน้าจอแล็ปท็อปเด้งคำเตือนจากโปรแกรมแกะรอยไอพีปลายทางว่า 'การแกะรอยล้มเหลว เพราะเป้าหมายออนไลน์อยู่ในระบบไม่นานพอ'

    มือทั้งสองของแดนเนลกำหมัดเข้าหากันแน่น ดวงตากลมทั้งสองปิดลง ก่อนที่เจ้าตัวจะสูดลมหายใจลึก ท่าทีเหล่านั้นดูราวกับเขากำลังอดกลั้นต่อโทสะอยู่ ซึ่งเจย์เดนก็ตัดสินใจปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปเงียบ ๆ สิ่งที่เขาทำมีเพียงแค่ยืนมองแดนเนลอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาทั้งสิ้นให้เป็นการรบกวน

    เขารู้ว่าการอดทนกับความคุกรุ่นในใจนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นเพียงใด และแน่นอนว่าเขาไม่อยากเป็นคนทำลายความพยายามนั้นของแดนเนล เขาเลือกที่จะรอจนกระทั่งดวงตากลมของอีกฝ่ายค่อย ๆ ลืมขึ้นมาทีละนิด รอจนแววตาทั้งคู่นั้นไม่หลงเหลือร่องรอยของอารมณ์ใด ๆ อันแปลกปลอมอีกเลย

    ในตอนนี้เขาได้รับรู้แล้วว่าความสามารถในการเก็บอารมณ์ของที่อยู่คนตรงหน้าเขานั้น สูงกว่าคนทั่วไปหลายเท่านัก และอีกสิ่งหนึ่งที่เขาได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอีกฝ่ายในวันนี้ ก็คือการยั่วยุของริชาร์ดนั้นสามารถส่งผลกับอารมณ์แดนเนลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

    ริชาร์ดรู้ตัวตั้งแต่ต้นแล้วว่ากำลังถูกแกะรอยอยู่ จึงยอมเล่นตามเกมของแดนเนลก่อนจะพลิกกระดานในตอนท้ายแล้วหนีหายไป ทั้งถ้อยคำที่ริชาร์ดใช้ ไปจนถึงสิ่งที่ริชาร์ดกระทำ ทั้งหมดนั่นมันคือการกดข่มว่าตนเป็นฝ่ายเหนือกว่าดี ๆ นี่เอง

    แน่นอนว่าเจย์เดนมองเห็นทุกประโยคที่แดนเนลกับริชาร์ดสนทนากันเมื่อครู่ และเขาไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามันทำให้ทุกความเคลือบแคลงสงสัยที่คั่งค้างอยู่ภายในใจของเขานั้นยิ่งเด่นชัดมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

    ความสัมพันธ์ของแดลเนลและริชาร์ดเป็นอย่างไรกันแน่ ทั้งคู่เป็นเพียงอดีตคู่หูที่ตอนนี้แตกคอกันแค่นั้นจริง ๆ เหรอ? ไหนจะสิ่งที่เกิดขึ้นกับแดนเนลเมื่อคืนนั่นอีก ทำไมริชาร์ดถึงรู้ว่าแดนเนลเจ็บตัว เขารู้ได้อย่างไร ในเมื่อคนที่รู้เรื่องรอยช้ำบริเวณหลังมือของแดนเนลมีแค่เขาและเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่อยู่บนรถด้วยกันเพียงเท่านั้น

    คำถามทั้งหมดที่ผุดขึ้นมาทำเอาเจย์เดนเผลอขมวดคิ้วเข้าหากันช้า ๆ เขาชักจะรู้สึกว่าแดนเนลมีเรื่องราวที่ปกปิดเอาไว้มากเกินไป และเขาจะต้องหาคำตอบเรื่องพวกนั้นให้ได้ในสักวัน

    เสียงพับหน้าจอแล็ปท็อปเรียกสติของเจ้าหน้าที่เอฟบีไอให้กลับมาอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้าดังเดิม แดนเนลลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ว และคว้าแล็ปท็อปเครื่องนั้นขึ้นมาก่อนจะส่งต่อให้เขารับมันไปถือเอาไว้

    "ไปกันเถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรให้หาแล้วล่ะ คุณต้องไปสอบปากคำเด็กคนนั้นด้วยไม่ใช่เหรอ?"

    สิ้นคำ ร่างผอมโปร่งของแดนเนลก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่นึกรอคำตอบ เจย์เดนก้มมองแล็ปท็อปที่อยู่ในมือของตนแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ คำถามมากมายเกี่ยวกับแดนเนลนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขาไม่หยุด และดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถสลัดมันทิ้งออกไปได้ง่าย ๆ เสียด้วย

    เจ้าหน้าที่หนุ่มก้าวเท้าตามกระต่ายป่าแห่งซีไอเอออกจากห้องไป และปล่อยให้การรื้อค้นหาหลักฐานที่เหลือเป็นของเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ แทน เนื่องจากเขาจำเป็นต้องตามเจ้าของแล็ปท็อปที่อยู่ในมือของเขานี้กลับไปยังตึกสำนักงานสอบสวนกลางเพื่อทำการสอบปากคำ

    ในตอนนี้สิ่งที่เขาต้องหาคำตอบให้ได้คือเรื่องที่ว่าเด็กคนนั้นแค่ถูกริชาร์ดใช้เป็นเครื่องมือโดยไม่รู้ตัว หรือว่าเต็มใจร่วมมือด้วยกันแน่





    มาร์คัส ลี นักศึกษาปริญญาตรีปีสุดท้ายของคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คือตัวตนของเด็กวัยรุ่นคนนั้น ข้อมูลบนบัตรนักศึกษาที่ค้นได้จากกระเป๋าสตางค์ของเจ้าตัวตรงกับข้อมูลนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

    "นักศึกษาทุนวิจัยของทางมหาวิทยาลัยที่อาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยวหลังใหญ่เพียงคนเดียว คุณว่ามันฟังดูแปลก ๆ ไหม?"

    เจย์เดนหันไปถามเจ้าหน้าที่จากซีไอเอเพียงหนึ่งเดียวในที่นี้ที่ยืนอยู่ข้างกายของเขา หลังจากที่กวาดสายตาอ่านข้อมูลทั้งหมดในแฟ้มเสร็จสิ้น ขณะนี้พวกเขาอยู่ในห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่งที่ถูกกั้นออกจากห้องสอบปากคำด้วยกระจกเงาด้านเดียว และคนที่นั่งอยู่ภายในห้องสอบปากคำตรงหน้าของพวกเขาทั้งคู่ก็คือ มาร์คัส ลี วัยรุ่นชายที่เพิ่งถูกควบคุมตัวมาคนนั้น

    "ฐานะทางบ้านของเขาดีไหมล่ะ ถ้าเขาเป็นลูกของมหาเศรษฐีก็ไม่น่าแปลกนะ"

    "พ่อแม่เปิดร้านอาหารเกาหลีอยู่ในย่านโคเรียทาวน์ เป็นภัตตาคารที่มีสาขาอยู่ทั่วอเมริกา สาขาแรกที่ลอสแอนเจลีสนี่ได้มิชลินสองดาวด้วยนะ ก็ถือว่ารวยเอาเรื่องอยู่"

    "งั้นก็ไม่แปลก" แดนเนลตอบ "คุณจะเริ่มสอบปากคำเขาเลยหรือเปล่า?"

    "เริ่มเลยก็ได้ คุณจะเข้าไปด้วยกันไหมล่ะ เพราะผมคงไล่เบี้ยเขาเรื่องคอมพิวเตอร์ได้ไม่ดีเท่าคุณแน่"

    "เอาสิ"

    แดนเนลพยักหน้าตอบ ทว่าการเปิดประตูเพื่อออกไปยังห้องสอบปากคำของเจย์เดนก็เป็นอันต้องหยุดชะงักลง เมื่อสมาร์ทโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาเอาแต่สั่นครืดพร้อมกับส่งเสียงเรียกเข้าดังลั่น เจ้าหน้าที่หนุ่มรีบคว้ามันออกมาดูชื่อของคนที่โทรเข้ามา ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของเทย์เลอร์ คู่หูตัวเอง

    "มีอะไร?" เขาเอ่ยกับปลายสายทันทีที่กดรับ "นายหายเงียบไปเป็นชั่วโมง แล้วก็โทรมาขัดจังหวะตอนที่ฉันกำลังจะสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเนี่ยนะ"

    [เฮ้! อย่าเพิ่งโวยใส่กันสิ] เทยเลอร์รีบเอ่ยค้านมาตามสาย [ทางนี้น่ะยุ่งมากเลย ฉันเพิ่งปลีกตัวออกมาได้เลยโทรมาแจ้งข่าวนายสักหน่อย]

    "ข่าวอะไรของนาย?"

    [ก็เรื่องที่ว่าภายในห้องเซิฟเวอร์ที่นายให้พวกฉันไปตรวจค้นนั่น มันไม่ได้มีแค่ข้อมูลที่นายต้องการน่ะสิ]

    "แล้วมันมีอะไร? นายช่วยรีบพูดมาได้ไหม ฉันยังต้องไปสอบปากคำผู้ต้องสงสัยต่ออีก"

    คำพูดของอีกฝ่ายทำเอาเขายิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่เทย์เลอร์ต้องทีมีเพียงแค่การตามโยนาธานไปตรวจค้นห้องเซิฟเวอร์ที่อยู่ภายในตึกของโรงงานเก่า ซึ่งเขาก็ระบุไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าให้ตรวจสอบในส่วนไหนบ้าง และมันก็ไม่ได้มีอะไรที่เหนือบ่ากว่าแรงของโยนาธานเลยสักนิด

    ถ้าอย่างนั้นอะไรคือการที่เทย์เลอร์พูดราวกับว่าสถานการณ์ทางนั้นมันมีอะไรมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้กัน

    [ศพ] คำตอบจากปลายสายทำเอาเจย์เดนนิ่งค้างไป [เราเจอศพอยู่ในห้องควบคุมเซิฟเวอร์ มันเป็นห้องเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านในสุดของห้องเซิฟเวอร์อีกทีน่ะ ศพมีร่องรอยของการต่อสู้ แต่สาเหตุการตายยังไม่แน่ชัด พวกทีมสืบสวนฆาตกรรมกำลังตรวจสอบอยู่]





    [tbc.]
    ศัพท์เทคนิคในตอนนี้ in a nutshell
    - command line คือคำสั่งบนระบบปฏิบัติการที่สั่งผ่านหน้าต่างคอมมานด์โดยตรง แต่ละระบบจะใช้คำสั่งต่างกัน แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก หน้าตาของหน้าต่างคำสั่งจะเป็นประมาณนี้ อันนี้จะคล้ายๆกันทุกระบบปฏิบัติการเลยค่ะ 
    รูปที่เอามาแปะเป็นของระบบปฏิบัติการ window นะคะ แต่คำสั่งที่แดนเนลใช้ในเรื่องเป็นคำสั่งของระบบ linux
    คำสั่งที่แดนเนลใช้ในเรื่อง
    who เป็นคำสั่งที่ใช้ในการแสดงรายชื่อของ user ที่กำลัง login อยู่ในขณะนั้น
    whois (เลขไอพี/ชื่อโดเมน) เป็นคำสั่งที่ใช้ในการแสดงรายละเอียดของเจ้าของเลขไอพี/ชื่อโดเมนนั้นๆ
    write (ชื่อ user คนอื่น) เป็นคำสั่งที่ใช้ส่งข้อความไปให้ user คนนั้น
    - domain name หรือชื่อโดเมน ก็คือชื่อเว็บไซต์นี่แหละค่ะ ปกติแล้วเว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้ด้วยเลขไอพีโดยตรงเลย แต่เพราะว่ามันจำยาก เลยมีการสร้างชื่อโดเมนขึ้นมาให้จำง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่น
    ip address : 64.233.181.104
    domain name : www.google.com
    ลองเล่นด้วยการพิมพ์ 64.233.181.104 ลงในเบราเซอร์แล้วเอนเทอร์ดูค่ะว่ามันจะไปโผล่ที่ไหน อิอิ
    ***หากมีข้อมูลที่ผิดพลาดประการใดก็สามารถบอกเรามาได้เลยนะ เราจะรีบทำการปรับแก้ให้อย่างเร็วที่สุดค่ะ***

    ________________________________________

    มาร์ค ลี - มาร์คัส ลี

    จริงๆก็ไม่ได้ว่างหรอก
    แต่เครียดมากเลยหนีงานมาปั่นฟิคจนจบไปอีกหนึ่งตอน ฮือๆ
    ตอนนี้เนื้อเรื่องก็เดินมาเกือบครึ่งหนึ่งที่เราวางไว้แล้ว
    แต่คุณเอฟบีไอกับคุณกระต่ายป่าเขายังไม่มีวี่แววว่าจะรักกันเลยค่ะ
    ก็บอกแล้วว่านี่น่ะคือฟิคสืบสวนนนนนนน
    เลยเอาแต่สืบกันจนไม่มีเรื่องรักๆใคร่ๆเลยยังไงล่ะ แงงงง

    จริงๆตอนนี้มีฉากที่เราอยากเขียนมากๆอยู่ฉากหนึ่ง
    และมันก็เป็นฉากที่ทำให้เราตัดสินใจเขียนฟิคเรื่องนี้ขึ้นมาด้วย
    ลองทายกันดูได้นะคะว่าเป็นฉากไหน แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
    #ฟิควรบจด

    Note : ฟิคเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปิน สถานที่ และเหตุการณ์ใดๆ และไม่ได้มีเจตนาใด ๆ จะทำให้ศิลปินเสื่อมเสียทั้งสิ้น
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
ATitaya Snjak (@fb2204379136466)
เอาแตงโมเข้าไปด้วยค่ะ มาคัสยอมสารภาพหมดเปลือกแน่
Gift N. T. (@giftnt1402)
ฉากพบศพปริศนารึเปล่าคะที่เป็นแรงจูงใจให้ไรท์เขียน หรือว่าฉากการเผชิญหน้าในแชทระหว่างแดนเนลกับริชาร์ด

แอบเดาไว้ว่าคนที่นั่งฟังเพลงในห้องคือมาร์คเพราะดูเหมาะ แล้วก็เปิดตัวนายมาร์คัสในที่สุด แต่ริชาร์ด/ไมเคิลแอนเจโลนี่ตัวเลือกตีกันในหัว จนตอนนี้มีการเรียกแดนเนลเด็กน้อย แก่กว่าด้วยเหรอเนี่ย ถ้าจอห์นนี่ยังไม่เปิดตัว คงคิดว่าจอห์นนี่ไปแล้ว ฮ่าๆๆ พยายามดูลักษณะการพูด ที่มาชื่อริชาร์ด/ไมเคิลแอนเจโล อายุที่น่าจะแก่กว่า นึกถึงบางคนแต่ก็ไม่รู้สึกว่าใช่ เราคงลืมคิดถึงอะไรไปเองค่ะ (หรือเป็นตัวละครออริจินอล ปล่อยเราพูดกับตัวเองไปนะคะ ฮือ)

ตื่นเต้นปมอดีตระหว่างแดนเนลกับริชาร์ดมาก แดนเนลไม่น่าจะฆ่า... มั้ง ริชาร์ดชอบชักใย คงเตรียมอะไรไว้เซอร์ไพรส์ตอนแดนเนลเข้าห้อง

ขอให้ผ่านพ้นเรื่องที่เครียดไปได้ด้วยดีนะคะ
nctzen_zen (@nctzen_zen)
ยัยกระต่ายเธอไปทำอะไรมาาา;-;
hbrxnct (@hbrxnct)
@nctzen_zen นั่นสิ ไปทำอะไรมาาาาาา ;w;)