เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นั่งเขียนท่ามกลางแสงดาวDC K ToKa
จุดหมายที่ห่างไกลออกไป
  • 1
    เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา อากู๋ได้นั่งเครื่องบินมาที่อุบลเพื่อมาเยี่ยมอาม่าที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน และในตอนนั้นอากู๋ได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกับตัวผมเอง คือตอนนั้นผมได้ที่เรียนป.โทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้บอกเล่าให้อากู๋ฟัง และเมื่อเล่าเสร็จอากู๋จึงได้ถามต่อว่า

    "จะเรียนต่อป.เอก เลยหรือเปล่า"

    ในความคิดแรกสุด ก็คิดไว้ว่าต้องต่ออยู่แล้วแหละ เพราะอยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ต้องต่อป.เอกเป็นไฟท์บังคับอยู่แล้ว แต่พอจะตอบออกไป ผมมีความรู้สึกลังเลในการตอบ เป็นความลังเลในเชิงที่ไม่ได้เตรียมแผนชีวิตไว้ไกลขนาดนั้น คือในตอนนั้นวางแผนไว้แค่จะต้องเก็บของย้ายหอไปอยู่หอใหม่และต้องรายงานตัว ลงทะเบียนรายวิชา ยืนยันสิทธิ์ โน่นนี่นั่น คิดไว้แค่นั้น 

    กลายเป็นว่าการตอบในตอนนั้น เป็นการตอบที่ดูลังเลและยังไม่ชัดเจน

    สุดท้าย อากู๋เลยให้คำแนะนำไปว่า ให้ต่อป.เอกที่ต่างประเทศ เพราะจะได้มีงานที่รองรับที่หลากหลายและเป็นการเริ่มต้นเงินเดือนที่สูงกว่าต่อในไทย 

    พูดดูเหมือนง่ายมาก แต่มันก็ยากลำบากอยู่นะ ไม่ใช่แค่เรื่องภาษาซึ่งผมไม่คล่องเรื่องพูดเรื่องฟังและอยู่ในระดับฝึกหัด แต่ยังไม่การใช้ชีวิตที่นู่นหรือค่าเทอมที่คิดว่าแพงหูฉี่แน่ๆ ขนาดแม่ผมยังส่ายหัวเลยเมื่อได้ยินอากู๋แนะนำแบบนั้น

    และที่สำคัญคือ ไม่ได้วางแผนไว้ไกลขนาดนั้น


    2
    เมื่อตอนพักเที่ยง ผมกับเพื่อนๆอีก 3 คนได้นั่งกินข้าวและคุยกันไปถึงเรื่องวิชาเรียนที่เรียนวันนี้พร้อมทั้งถามเพื่อนๆว่า

    "ทำไมถึงมาเรียนป.โทล่ะ"

    ต่างคนต่างก็ตอบตามจุดมุ่งหมายของตัวเอง เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งตอบไปว่าอยากเป็นอาจารย์อยู่แล้วก็เลยต่อป.โท (เหมือนกันเลยแฮะ) บางคนมีทุนซัพพอร์ตตอนป.ตรีอยู่แล้วและเป็นทุนต่อเนื่องถึงป.โท ก็เลยจำเป็นต้องต่อ บางคนเรียนต่อเพราะทางบ้านอยากให้เรียน บางคนไม่รู้ว่าจะทำงานอะไรเลยเรียนต่อป.โทไปก่อน 

    หลังจากถาม-ตอบไปซักพัก มีเพื่อนมาถามผมว่า จะเรียนต่อป.เอกหรือเปล่า

    ผมในสภาพที่ง่วงและมึนๆนิดนึง เลยตอบเพื่อนไปว่า ก็อยากเป็นอาจารย์ก็ต้องต่ออยู่แล้วหรือเปล่าววะ และหลังจากนั้นมีเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า ถึงแม้จะต่อป.เอกแล้วแต่มหาวิทยาลัยเขาก็จำกัดโควต้านะ หมายความว่าเขาไม่ได้เปิดรับทุกมหาวิทยาลัย เมื่อผมได้ฟังอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกหวาดหวั่นแต่อย่างใด เพราะผมรู้สึกว่าจุดหมายยังไกลเกินที่จะไปโฟกัสกับมัน 

    เอาตัวรอดในป.โทให้ได้ก่อนเถิด


    3
    ณ ตอนนี้ผมได้เรียนป.โทไปแล้ว 2 อาทิตย์ มีความรู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่ค่อนข้างลงตัว ถึงแม้ว่าจะต้องดิ้นรนเรื่องเงินที่ต้องเอามาจ่ายค่าหอ ค่าไฟ ค่าเน็ตหนักกว่าเก่าก็ตาม เป็นความลงตัวที่ผมแทบไม่ได้คิดเลยว่าวันพรุ่งนี้จะต้องทำอะไร (เว้นแต่มีการบ้านที่ต้องทำ) อาจเป็นเพราะมีเรียนน้อยซึ่งเรียนแค่สามวัน --- จันทร์,พุธ,ศุกร์ หรือยังไม่มีงานใหญ่ที่เข้ามาในตอนนี้ เลยทำให้ใช้ชีวิตที่ชิวพอสมควร 

    เรื่องความคิดเรียนป.เอกสำหรับผมตอนนี้ แค่คิดไว้ว่าจะเรียนแต่ยังไม่ได้วางแผนละเอียดขนาดว่าจะเรียนในไทยหรือต่างประเทศ จะเรียนไปสายไหน อะไรยังไง ไม่ได้คิดไว้ แค่คิดว่าเอาเทอมนี้ให้รอดก่อน ค่อยๆเป็นค่อยๆไปแบบนี้มันดีอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องไปกังวลกับจุดหมายที่ไกลขนาดนั้น

    เอาไว้ค่อยถึงเวลา ถ้ามีจังหวะดีๆทุกอย่างมันก็ลงตัวเองแหละ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in