เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
New blood to tryhybridx_
Meeting Futurista (diary)
  • วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน 2561 
            วันนี้ได้มีโอกาสทำสิ่งที่ตัวเองไม่น่าจะทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ เราคิดอยู่นานมากว่าจะไปร่วมกิจกรรมนี้ดีไหม นอนคิดแล้วคิดอีก ขนาดอีกชั่วโมงนึงงานจะเริ่ม ยังลังเลอยู่เลย แต่คิดไปคิดมา มัวแต่กลัวไม่กล้าทำไม่กล้าเริ่ม แล้วเมื่อไหร่ล่ะ จะหลุดพ้นจากเซฟโซนตรงนี้ได้ 

    ฉันตัดสินใจออกจากบ้านเดินข้ามผ่านอุปสรรคกำแพงภายในจิตใจ

    ไปร่วมงานนี้ มันคืองานแลกเปลี่ยนความรู้ เหมือนกับเสวนาการเมือง แล้วก็มีแนะนำอะไรต่างๆ ขอไม่ใบอกไปมากกว่านี้แล้วกัน คือบอกแค่ว่ามีอาจารย์ปิยะบุตรด้วยนี่ ก็น่าจะรู้กันแล้วนะ 

    ......

    ...

    ..

    .

             เราตัดสินใจไปร่วมงานนี้ ไปคนเดียวไปแบบงงๆ มึนๆ เอ๊ะ ฉันมาทำอะไรที่นี่ ความคิดนี้ยังมีอยู่จนรู้ตัวอีกทีคือเข้าไปนั่งในห้องประชุมแล้ว ในห้องนั้นก็มีประมาณ 20 คนได้ ล้วนแต่เป็นคนที่มีอายุกันทั้งสิ้น อายุประมาณ20นี่มีน้อยมาก เรียกได้ว่าคำถามที่ว่าฉันมาทำอะไรที่นี่คือสมบูรณ์แบบเลย ฉันมาทำอะไรที่นี่ 555555555555555 งงมาก แต่ก็แบบเอาวะ เอาเลย ตัดสินใจแล้ว กล้าได้กล้าเสีย มาแล้วก็ทำให้เต็มที่ คิดซะว่ามารับความรู้ มาฟังประสบการณ์แล้วกัน ความจริงเหนือสิ่งอื่นใดคืออยากเจออาจารย์ปิยะบุตร 


    .

             ภายในห้องนั้นก็มีการอธิบายถึงอุดมการณ์ แนวทางของการเดินไปข้างหน้าของกลุ่มเรา พอเสร็จตรงนี้ เขาก็ให้พวกเราในห้องนั่งเป็นวงกลมแล้วแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน คือเราตื่นเต้นมาก เพราะทุกคนในห้องมีแต่คนที่มีประสบการณ์มากมาย ทำงานต่างๆกันเยอะแยะมาก ส่วนเราคือเป็นคนที่ไม่มีทักษะไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แถมยังต้องพูดต่อหน้าพี่ๆทุกคนตรงนี้แล้วก็ยังต่อหน้าอาจารย์อีก ฉันแอบกังวลแล้วก็เขินมาก  พื้นฐานปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกมากนัก แล้วคือตอนยืนพูดทุกคนก็มองนี่หมด ห้องมันเล็กแล้วจุดสนใจที่เป็นตัวฉันเองอีกต่างหาก แต่เอาวะ ฉันต้องพูด ก็คือต้องพูด ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหนนะ
    ...
    ..

    "ฉันบอกว่า ฉันยังขาดทักษะและประสบการณ์อีกมาก ฉันจึงต้องการมาเรียนรู้ มาเก็บประสบการณ์จากผู้มากประสบการณ์ในห้องนี้ ฉันต้องการเรียนรู้ขั้นตอนกระบวนการต่างๆ และนี่เป็นเหตุผลที่ฉันมาในวันนี้ คนรอบตัวฉัน พ่อ แม่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ต่า ยาย เพื่อนๆฉัน ต่างพูดถึงเรื่องการเมืองกันเป็นประจำ ถกเรื่องนี้เสวนาเรื่องนู้น แสดงทัศนะกันอยู่ต่อ บางครั้งก็มีทัศนะที่ก้าวหน้า เกลียดการคอรัปชั่น รักประชาธิปไตย ด่ารัฐบาลบ้างอะไรบ้าง แต่มันก็เท่านั้น มันก็เป็นการตื่นตัวทางการเมืองเพียงแค่ความคิด ฉันคิดว่ามันไม่ควรหยุดเพียงเท่านี้สิ เราควรทำอะไรได้มากกว่านี้ เราควรตื่นตัวในเชิงปฏิบัติด้วย เพื่อให้มันเกิดผลไม่เช่นนั้นแล้วพวกเราจะแสดงความคิดเห็นกันไปเพื่ออันใด นี่เป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งว่าทำไมฉันจึงได้มาคนเดียว เพราะคนรอบตัวฉันไม่ได้มีการตื่นตัวเชิงปฏิบัติกันเลย ขอบคุณค่ะ"
    ..
    .

             ฉันรู้สึกขอบคุณกิจกรรมในวันนี้มาก ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะสามารถยืนพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปได้อย่างเต็มที่ เป็นครั้งแรกที่ฉันชอบการพูดหน้าห้อง มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยนะ ที่เราจะสามารถพูดอะไรก็ตามได้อย่างใจต้องการ บรรยากาศในห้องนั้นมันดีมากกระตุ้นสิ่งที่อยู่ในใจออกมาได้ดีมาก พี่ๆลุงๆในห้องก็สุดยอดเลย ประสบการณ์มากล้นยิ่ง ฉันชื่นชอบคุณลุงคนหนึ่งมาก แกพูดไปก็ร้องไห้ไป ฉันคิดว่าความสิ้นหวังของคุณลุงเขาช่างมากล้นเสียจริง

    หลายๆคนในห้องก็มีความผิดหวังมากล้นเช่นเดียวกัน หวังว่าความผิดหวังนี้จะกลับมาเป็นแรงกระตุ้นพวกเขาได้นะ 

    ..


    .

    ฉันไม่เชื่อในบุคคลใดบุคคลหนึ่ง วันนี้ฉันเชื่อในอุดมการณ์ เชื่อว่าเราจะไปสู่อนาคตที่ดีได้
             ฉันต้องการให้มีกิจกรรมแบบนี้อีก ไม่จำเป็นต้องกิจกรรมทางการเมืองดอก เป็นกิจกรรมอะไรก็ได้ ที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนทัศนะซึ่งกันและกันเปิดโอกาส มีเวทีให้ทุกคนได้พูดคุย มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ไม่ว่าเราจะเป็นใครมาจากไหนก็พร้อมจะรับฟังกันและกัน ให้กำลังใจกันและกัน ช่วยเหลือกัน เพราะเราต่างคือเพื่อนมนุษย์

             ฉันขอขอบคุณทุกสิ่งอย่างในวันนี้ และอดีต และอนาคต ที่ขับเคลื่อนให้ทุกวันแต่ละวันผ่านไปอย่างที่มันเป็น ฉันขอบคุณตัวฉัน ฉันจะไม่เสียใจในการกระทำของตัวเองในวันนี้ ฉันขอบคุณการกระทำของเธอ





    ขอจบไปด้วยเพลงของ สาว สาว สาว - ดอกไม้แห่งน้ำใจ





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in