น่าเบื่อชะมัด…
เด็กสาวผมยาวหยักศกสีน้ำเงินเข้ม กำลังนั่งยอง ๆ ใช้นิ้วชี้ข้างหนึ่งเขี่ยพื้นดินไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ ทัศนียภาพโดยรอบที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่า บลู ยังนึกทึ่งในตัวเองว่าเธอสามารถใช้ชีวิตเพียงลำพังแบบนี้ได้ยังไง
บึ้ม!!!
“อ้าว…เวรเอ้ย อีกแล้วเหรอ” บลูหันไปมองตามเสียงระเบิดซึ่งดังมาจากพื้นที่ห่างไกลอย่างหัวเสีย เด็กสาวแสดงปฏิกิริยาหงุดหงิดแทนที่จะตื่นกลัวด้วยเพราะนี่คือเหตุการณ์ปกติที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำ เฉลี่ยก็วันละครั้ง ช่างน่าโมโหเหลือเกินเจ้าพวกไฮโดรเจนโง่ ก่อระเบิดเก่งดีนัก ก่อได้ทุกที่ยกเว้นที่ที่เธออยู่
แน่จริงก็มาระเบิดใส่ฉันสิ
สิ่งที่บลูรำพึงรำพันนั้นไม่ผิดหรอก เด็กสาวอยากจะถูกระเบิดจริง ๆ เธอเชื่อว่าวิธีการนี้คงจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความรู้สึกว่างเปล่าอันเป็นอนันต์นี้ได้
โคร้มมมมม!!!!!
“อีกละ ก็บอกแล้วไงว่าแน่จริงให้มาระเบิดที่ฉั.. ฮะ เฮ้ย!!!!” บลูตะโกนเสียงหลงเมื่อหันไปมองแต่กลับพบว่าต้นตอของเสียงอันดังสนั่นนั้นไม่ใช่ระเบิด ทว่าเป็นเสียงกระแทกกับพื้นของวัตถุขนาดใหญ่สีขาวซึ่งโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาโดยรอบวัตถุปริศนานั่น ไม่นาน บางสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ภายในก็ค่อย ๆ ย้ายมวลออกมาด้านนอก
มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเธอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากยานอพอลโลถูกปล่อยมาได้ไม่นานก็หลุดออกจากแรงดึงดูดของโลก ผืนโลกสีน้ำเงินแซมขาวค่อย ๆ มีขนาดโค้งลง โค้งลง เรื่อย ๆ จนเกือบกลายเป็นทรงกลมสมบูรณ์
แต่ทันใดนั้น อพอลโลก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ
คลาร์กรีบเปิดดูจอควบคุมการบินทันที ก่อนจะพบว่ามีแรงดึงดูดมหาศาลฉุดรั้งให้ยานเคลื่อนที่ผิดไปจากวิถีเดิมที่ตั้งค่าไว้ เธอเริ่มตื่นตระหนกแต่ยังพยายามคุมสติไม่ให้ลนลาน ไม่เอาน่าคลาร์ก ยอดปราชญ์ย่อมไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคใด ๆ
ไม่หวั่นไหว… ไม่หวั่น…ไหว…ก็บ้าแล้ว! นั่น! เบื้องหน้าของเธอคือบรรดากลุ่มดาวและวัตถุอวกาศซึ่งกำลังถูกดึงหมุนเป็นเกลียวขดวนล้อมรอบจุดบอดสีดำขนาดใหญ่ คลาร์กเดาได้ไม่ยาก สีดำตรงกึ่งกลางนั่นไม่ใช่ความว่างเปล่า มันคือตัวละครที่ปรากฏอยู่ในทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอสไตน์ คือหลุมแห่งแรงดึงดูดมหาศาลที่สามารถบดเคี้ยวทำลายล้างทุกสิ่ง
มันคือหลุมดำ
ทันใดนั้นคลาร์กนึกถึงใบหน้าเหี่ยวย่นของธีโอดอร์เป็นสิ่งแรก
ขอโทษนะ คงไม่ได้กลับไปเล่าความมหัศจรรย์ของดวงจันทร์ให้ฟังแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แสงสว่างวาบปลุกหญิงสาวให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
“แค่ก ๆ ๆ” คลาร์กไอออกมาอย่างหยุดไม่ได้ด้วยเพราะสำลักควัน เธอรับรู้ได้ทันทีว่าอพอลโลได้ร่วงหล่นลงมากระแทกกับพื้นอะไรสักอย่าง แต่นั่นไม่สำคัญอีกแล้ว เพราะไม่ว่าด้านนอกจะเป็นอย่างไร เธอก็ต้องรีบออกมาจากยานให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสำลักควันตายอยู่ในนี้
ที่ไหนเนี่ย ดวงจันทร์เหรอ?
คลาร์กกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างอยากสำรวจขณะที่เท้าของเธอแตะลงบนพื้นนอกยานอพอลโล
แต่แรงโน้มถ่วงบนนี้มันควรจะน้อยกว่าบนโลกสิ เธอควรจะรู้สึกตัวเบาโหวง ไม่ใช่รู้สึกว่าตัวเองมีน้ำหนักเท่าเดิมอย่างนี้ หรือทฤษฎีจะผิดพลาด?
และระหว่างนั้น หญิงสาวจึงเพิ่งตระหนักได้ว่า…
“อ้าว…เฮ้ย!!! เดี๋ยวนะ!!! เมื่อกี้...หลุมดำ!!! นี่ฉันยังไม่ตายนี่หว่า!!! เฮ้ย!!!!!????? จริงเหรอเนี่ย!!!!!????? วู้วววว!!!!!!!!!!” คลาร์กกระโดดโลดเต้นไปมาพร้อมกับหวีดเสียงประหลาดออกมาอย่างไม่เป็นภาษามนุษย์
โดยไม่รู้เลยว่ามี ใครบางคน กำลังจ้องมองท่าเต้นอันทุเรศทุรังของเธออยู่ด้วยความรู้สึก…
“ปัญญาอ่อน”
“!!!!!”
คลาร์กหยุดโยกย้ายส่ายสะโพกแทบไม่ทัน เสียงปริศนาที่ดังขึ้นทำให้เธอเบิกตากว้างราวกับเห็นผี หญิงสาวกวาดตามองไปรอบ ๆ เพื่อหาต้นตอของเสียงอย่างลนลาน จนกระทั่งควันเสียที่แผ่ออกมาจากยานอพอลโลซึ่งบดบังการมองเห็นอยู่เริ่มจางลง ภาพของสิ่งมีชีวิตเบื้องหน้าจึงปรากฎขึ้น
เด็กสาวปริศนาผู้มีผมยาวหยักศกสีน้ำเงินเข้มกำลังยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้า โดยที่ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นกำลังมองผ่านหางตามาที่คลาร์กราวกับเธอเป็นตัวตลก!
...To be continued
สารบัญ http://minimore.com/b/a8o53
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in