เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกของอาสาสมัคร มือสมัครเล่นnuna wongvises
บันทึกของอาสาสมัคร มือสมัครเล่น ลำดับที่ 3
  • บันทึกของอาสาสมัคร มือสมัครเล่น ลำดับที่ 3
    ตอน รับน้องทุ่งช้าง


    ถ้าจะเปรียบทุ่งช้างให้เป็นเทศกาลรับน้อง
    บอกเลยนี่คือระบบ SOTUS
    ทุ่งช้างคือรุ่นพี่ที่มากด้วยประสบการณ์
    ละสอนเเบบว้ากๆให้น้องรู้สึกเกลียดขี้หน้า
    เเต่เบื้องหลังมันเเฝงด้วยความชื่นมื่น


    หลังจากน็อคผ่านคืนเเรกมาอย่างไร้กังวล


    เราเข้าสู่คืนที่สองอย่างน่าตื่นเต้น ...


    มือเย็นเราเเละเพื่อนอาสาสมัครเดินไปไกลขึ้น มีจุดหมาย
    ปลายทางอยู่ที่เซ่เว่นหนึ่งเดียวของอำเภอ
    เราจำได้ว่ามันไกลพอสมควร ..


    ซึ่ง ... ใช่ เเม่งไกลจริง !!!


    เดินผ่านป้ายหมู่บ้าน ป้ายที่หนึ่ง ป้ายที่สอง ป้ายที่สาม..
    ป้ายเเล้วป้ายเล่าก็ยังไม่ถึงเซเว่นซักที
    อย่าว่าเเต่เซเว่นเลย ตอนนี้ราวๆทุ่มนึงเเล้ว


    ร้านรวงก็ปิดหมด เงียบสงัดไปทั่วทุกเเห่งห้องหิมเวศ ทั่วประเทศทุกราวป่า 55555
    หลังจากผ่านไปเกือบเข้ากิโลเมตรที่สาม ..


    ในที่สุดเราก็พบเซเว่น


    หลังจากรับประทานอาหารเย็นที่ครัวคุณเเดง (ข้างๆเซเว่น)


    คุณผู้อ่านคะ .. มึงอาจจะไม่ทราบว่ากูเดินมาไกลเเสนไกล นานเเสนนาน
    ..เพื่อซื้อน้ำเปล่าสองขวด..


    เเละเเล้ว.. คืนอันน่าตื่นเต้นก็เริ่มขึ้นหลังจากเราเดินออกกำลังกายกันเกือบสามกิโลจากเซเว่นเข้าหมู่บ้าน



    นนอาบน้ำคนที่หนึ่ง ตอยอาบน้ำคนที่สอง
    ระหว่างที่อมยิ้มอาบน้ำอยู่ ... ฝนก็เริ่มเทลงมา
    ความคิดในใจตอนนั้นคือ..กลัวไฟดับ
    เพราะเเบตมือถือเองก็เหลือไม่มากเเล้ว ...


    พาวเวอเเบงกูไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้น่าจะอยู่ที่รังสิต


    ถ้าดับก็คือนอน ทางเดียวเท่านั้น


    ไอสัส ...ไฟดับ


    เเว้บเเรกคือใจหายไปอยู่ตาตุ่มเเล้ว ... กลัว
    ข้างนอกฝนตกเเรงมาก ตกเหมือนฟ้าถล่ม


    กูอยู่ปลายดอยนี่คิดภาพน้ำป่าไหลหลากเเบบที่เห็นในทีวี
    ..ไก่กับหมาข้างนอกนี่จะนอนยังไงกัน เป็นห่วง ._.


    ..เเล้วไฟก็มาค่ะ


    วินาทีนั้นดิฉันทำการตอบเเชทอย่างรวดเร็ว


    ร่ำลาทุกคนในสายพร้อมกับกระเเสเเบตเตอร์รี่ที่ชาร์จไม่ทันเเล้ว ขอบคุณอีต้องที่เเนะนำให้ฟังเพลงระหว่างผ่านค่ำคืนอันโหดร้ายนี้ ...


    สัส ... เเม่งดับอีกรอบที่สอง


    คราวนี้ไม่สงสารไก่เเล้ว


    เพื่อนกูที่อาบน้ำอยู่ในส้วมเป็นยังไงไม่ทราบชะตากรรม


    ยังไม่ทันจะตะโกนถามไฟก็มา ...


    อาการนี้เรียกว่าไฟตก


    เพื่อนอาสาสมัครที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้วยกันในห้องได้กล่าวเอาไว้ เเต่เพื่อความปลอดภัยเราดึงสายชาร์จโทรสับออกเพื่อป้องกันไฟกระชาก ..ความกลัวเริ่มเเล่นเข้าจับจิต


    ที่นี่ไม่มีเทียน มีเเต่ไฟฉายกระบอกเล็กๆที่เเม่บังเอิญเอาใส่กระเป๋ามาเท่านั้น ...นนร่ำลาด้วยความจิตตกกับเพื่อนในเชทอีกเป็นรอบที่สอง ... ทันใดนั้น


    ไฟก็ดับอีกเป็นรอบที่สาม


    ยาวนาน 
    เงียบสงัด 
    ..มีเพียงเสียงฝนถล่มเท่านั้นที่ทำลายความเครียดที่ก่อตัวขึ้นเท่านั้น ...


    อมยิ้มตะโกนมาจากในห้องน้ำว่าขอยืมไฟฉาย เรายังพอมีมือถือ... ที่เเบตริบหรี่เต็มที่ ตอยเป็นคนเอาไฟฉายไปให้อมยิ้มที่ห้องน้ำ หลังจากนั้นห้องก็เข้าสู่ความเงียบ ..


    เรานับถอยหลังเเบตเตอรี่ที่ลดลงเรื่อยๆเเล้วเปิดไอพอดเสียบหูฟัง อมยิ้มเดินเข้ามาในห้องพร้อมไฟฉาย บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบ ... วันนี้ในบ้านมีเเค่เราสามคน คุณครูที่อยู่ด้วยกันกลับบ้านไปซักผ้า


    มันเครียด .. 
    ไม่สิ กูนี่เเหละที่เครียด ยิ่งฝนเม็ดใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งไม่สบายใจ


    เอาเถอะมึง ... ตัดใจปิดเน็ตนอน ใครซักคนบอกว่าเดี๋ยวก็เช้า


    บรรยากาศเมื่อคืน..


    เราเเเยกไม่ออกจริงๆ ว่าเรากำลังหลับตาหรือลืมตาอยู่
    บรรยากาศรอบข้างมันมีเเต่ความมืด
    กระทั่งมือตัวเองที่ยื่นออกไป ก็ยังมองไม่เห็น ...


    เหมือนตัวเองลอยคว้างอยู่กลางอากาศ


    มืดมิด หนาวเหน็บ ละมีเพลงไอพอดที่มีเเบคกราวเป็นพายุฝน
    คืนนั้นก่อนหลับไป จำได้ว่าเป็นเพลง Rain ของ เเทยอน ที่ฟังตอนพายุฝนกำลังตกเเบบนี้เเล้วเเม่งอินอย่างไม่น่าเชื่อ
    ต่อด้วยเพลงของสามี Goodnight จากโทโฮชินกิ เยียวยาหัวใจเเละห้องเล็กๆที่มืดมิดนี้เอาไว้


    หวังว่าพรุ่งนี้ไฟจะมา ...


     

    ค่ะ ไฟมา ...


    มาตอนเเปดโมงเช้าอีกวัน !!  
    ซึ่ง ตอนนั้นเราต้องอาบน้ำหนาวๆ พร้อมไฟฉายหนึ่งอัน


    ก่อนจะเดินลงเขาไปโรงเรียน ทำงานอาสาสมัครอย่างเป็นทางการ



    โรงเรียนบ้านเวียงสองเป็นโรงเรียนเล็กๆ

    ที่โรงเรียนจะมีเวรพี่ๆมาดูแลน้องอนุบาลด้วย

    มีห้องเรียนระดับชั้นละหนึ่งห้อง ... เด็กๆดูเเตกตื่น ไม่มากก็น้อยทันทีที่เห็นทีมของเรายืนถือเเฮนดี้เเคมกันอยู่หน้าเสาธง


    มันน่ารักมากนะ


    พวกกิจกรรมเชิญเสาธง สวัสดีค่ะพี่ปอสอง สวัสดีค่ะน้องปอหนึ่ง วันนี้ขอเสนอคำว่า มันเดย์ สเปลลิ่ง เอ็ม โอ เอ็น ดี เอ วาย ภาษาถิ่น วันจั๋น .. โอย น่ารักมาก


    เราห่างหายวิถีชีวิตประมาณนี้ไปหลายปี ..


    จะโชว์ความเเก่ก็ต้องพูดว่าเกือบสิบปีจากวัยประถม

    ห้องน้องอนุบาลก็ต้องเรียนกับทีวีเหมือนกัน

    ผอพาเราทัวร์ชมโรงเรียน ที่นี่เรียนกันผ่านทีวีจากโรงเรียนไกลกังวล ก่อนท่านผอ.จะปล่อยให้เราเริ่มงานอาสาสมัครกันอย่างเป็นรูปธรรม
    ซึ่งงานวันเเรกของนน หมดไปกับการติดต่อกระทรวงไอซีที เพื่อลากเน็ตมาเชื่อมต่อกับศูนย์อินเตอร์เน็ตชุมชนที่ไม่ได้ใช้มาหลายปีเเล้ว .. ห้องเล็กๆ ฝุ่นเยอะๆ ทำไปจามไป


    กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สามโมงเเล้ว 5555


    บรรยากาศชื่นมื่นอย่างไม่น่าเชื่อ


    เหมือนเมื่อคืนกูฝันไป 5555


    เเบตโทรศัทพ์เเละเเบตชีวิตได้ถูกเติมไปพร้อมๆกัน


    ปล. วันนี้มีรูปนะเว่ย 555 ภาพไฟดับไม่มี ขอให้เป็นโค้ดสี #000000


    ‪#‎NANnaja‬

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in