เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Internship life ตรงกลางระหว่างเด็กและผู้ใหญ่25decgirl
แม่ ! หนูได้เป็นบรรณารักษ์(ฝึกหัด)แล้ว
  • ตอนเด็ก ๆ พอรู้ตัวว่าตัวเองตกหลุมรักหนังสือ หนึ่งอาชีพที่ใกล้ชิดหนังสือแล้วเราพอจะรู้จักในวัยนั้นก็คือ "บรรณารักษ์"  เราคิดไปเองว่าการได้อยู่ในห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือ บรรยากาศเงียบ ๆ ของห้องสมุด การได้นั่งเช็คหนังสือบนชั้น ได้ทำระบบยืมคืนคงสนุกน่าดู (รวมไปถึงการแอบดูรายชื่อคนที่ยืมหนังสือเล่มนั้น ๆ ในหน้าสุดท้ายด้วย ไม่รู้ว่าดูทำไมแต่สมัยนั้นทุกครั้งที่ยืมเราก็แอบดูตลอด 555) 
    แต่พอโตขึ้นความฝันบรรณารักษ์เราก็ลดน้อยลง เรารู้จักอาชีพใหม่ ๆ มากขึ้น จนสุดท้ายอาชีพบรรณารักษ์ก็ไม่ได้อยู่ในลิสท์สิ่งที่อยากเป็นอีกแล้ว 

    ปัจจุบันเราคือนักศึกษาปี 3 กำลังขึ้น ปี 4 ซึ่งช่วงเวลาระหว่างนี้คือช่วงเวลาของการ "ฝึกงาน" แน่นอนว่าแค่บอกว่าฝึกงานในหัวก็จิตนการถึงการทำงานที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เข้าไปอยู่ในการทำงานของผู้ใหญ่จริง ๆ แบบจริง ๆ  ตอนเรียนเราเลือกเรียนในสิ่งที่รัก ดังนั้นตอนฝึกงานเราเลยเลือกสิ่งที่เราอยากทำเหมือนกัน ในสายสาขาที่เราเรียน (สาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก มศว) หนึ่งในสายงานที่เราสามารถทำได้ก็คือการจัดกิจกรรมเด็ก ซึ่งเราก็เลยได้มาฝึกงานที่ ห้องสมุดดรุณบรรณาลัย ห้องสมุดเด็กปฐมวัยในย่านบางรัก ใช่แล้ว ห้องสมุด เราเองก็แปลกใจเหมือนกันที่ในวัยอายุ 21 ปีเราได้กลับมาทำตามความฝันวัยเด็กอีกครั้ง 


    นี่คือสภาพการทำงานวันแรกของเรา เกร็งมาก ๆ แต่ใจสู้ (5555)

    การทำงานในอาทิตย์แรกของเรา เราทำความรู้จักกับคุณครูประจำห้องสมุด พี่ ๆ ที่คอยดูแลห้องสมุดและทำความรู้จักกับห้องสมุด แต่ละห้องในห้องสมุดแบ่งหนังสือออกตามแต่ละประเภทแล้วก็แต่ละวัยของเด็ก ๆ เราเดินไปเดินมาในห้องสมุดอยู่ทั้งวันเลย แต่ละชั้นในห้องสมุดมีสัญลักษณ์ต่างกันเพื่อให้เด็ก ๆ ที่มาใช้บริการสามารถนำหนังสือมาเก็บตามสัญลักษณ์นั้นได้ (เราว่ามันน่ารักมากเลย y-y เด็ก ๆ ได้ฝึกความรับผิดชอบ แล้วก็ได้ความภูมิใจอีกต่างหาก) การบ้านของเราในวันแรกคือการจดจำสัญลักษณ์เหล่านั้นให้ได้ทั้งหมด เวลาผู้ปกครองตามหาหนังสือเราจะได้สามารถระบุตำแหน่งให้ได้ และอีกงานที่เราได้เรียนรู้ก็คือ บรรณารักษ์  ตอนพี่เขาสอนสมัครสมาชิก การทำระบบยืมคืนให้เด็ก ๆ การเช็คหนังสือต่าง ๆ เรารู้สึกคิดถึงตอนเด็ก ๆ ที่อยากเป็นบรรณารักษ์ขึ้นมาเลย แต่ถ้าจะให้เรียกว่าตอนนี้เราคือบรรณารักษ์ก็คงเขิน ๆ เราเลยขอเรียกตัวเองว่าบรรณารักษ์ฝึกหัด

    การเป็นบรรณารักษ์ฝึกหัดของเราสนุกมากเลย ไม่เคยคิดว่าการนั่งจิ้มตัวเลขโค้ดของหนังสือใส่ระบบมันจะสนุกขนาดนี้ 55555 แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของเรามีชีวิตชีวาคือตอนที่เด็ก ๆ ยืนรอหนังสือจากเรา เวลาเด็ก ๆ ยืมหนังสือต้องเอาหนังสือกับสมุดสมาชิกมาให้เรานำข้อมูลเข้าระบบ เวลาเขารอหนังสือจากเราน่ารักมากเลย มีเด็กคนนึงที่บอกเราว่า "ผมขอเล่มเต่าเร็ว ๆ นะครับ" พอเรายื่นให้ เขาก็ขอบคุณครับ กระโดดไปมา อวดหนังสือใหญ่เลย น่ารักจนเราไม่อยากให้กลับบ้านเลย 555 เราคุ้นชินกับการทำงานในห้องสมุดมากขึ้น จริง ๆ เพราะสถานการณ์ COVID-19 แม้ห้องสมุดจะเปิดทำการแล้วแต่เด็กก็ยังไม่เยอะมากเท่าไหร่ งานของเราหลัก ๆ เลยอยู่ที่เบื้องหลังมากกว่า เราจึงเป็นบรรณารักษ์ฝึกหัดบางเวลา แต่เป็นเวลาที่สนุกมากนะ กลายเป็นว่าเราอยากทำส่วนนั้นบ่อย ๆ เลย

    แต่อย่างที่บอกว่าเราทำงานเบื้องหลังเป็นส่วนใหญ่มากกว่าเพราะมีคุณครูประจำตำแหน่งนั้นอยู่แล้ว (เราไม่ได้น้ำตาซึมเลย ไม่เลยจริง ๆ y-y) งานเบื้องหลังที่เราทำจึงประกอบไปด้วย 
    • การจัดปกหนังสือเพื่อเอาเข้าระบบออนไลน์ ให้ผู้ปกครองสามารถเลือกยืมทางไปรษณีย์ในสถานการณ์แบบนี้ได้
    • การคิดตีมหนังสือที่ใช้จัดแสดงในห้องสมุด 
    • การนำหนังสือที่เข้ามาใหม่ใส่ในระบบห้องสมุด
    • การจัดเรียงหนังสือในห้องสมุดใหม่
    • การวิเคราะห์หนังสือเพื่อนำไปลงในเพจแนะนำหนังสือนิทานให้ผู้ปกครอง 
    • การเขียนบทละครเด็กเพื่อนำไปแสดงให้เด็ก ๆ ดู 

    ถ้าสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น เราคงได้ลองจัดกิจกรรม Play group ในแต่ละสัปดาห์ด้วย


    ผลงานการจัดโซนหนังสือต่างประเทศของเรา (และพี่ ๆ )
    เราได้อ่านหนังสือนิทานลงเพจด้วยนะ วันแรกของการอ่านนิทานตอนอัดลงมีผู้ชมเป็นเด็กชาย 1 คนถ้วน ลูกค้าคนแรกที่ฟังนิทานสดของเราเลย 5555 แต่สิ่งที่เราตื่นเต้นมาก ๆ ก็คือ การทำงานบรรณาธิการ เพราะเราฝึกงานที่ห้องสมุดจึงแตกต่างกับเพื่อน ๆ บางคนที่ฝึกงานกับสำนักพิมพ์ เราตื่นเต้นมากที่เราเองก็มีการทำงานบรรณาธิการเหมือนกัน ซึ่งงานบรรณาธิการที่เราทำคือส่วนของหนังสือต่างประเทศที่มีผู้ใหญ่ใจดี (ผู้ปกครองของเด็ก ๆ หรือพี่ ๆ ที่แวะมาใช้บริการ ) มาแปลให้เด็ก ๆ ได้อ่านกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือญี่ปุ่นและเกาหลี หน้าที่ของเราคือต้องนำคำแปลเหล่านั้นมาปรับภาษา เพิ่มคำ ลดคำให้เหมาะสมกับหนังสือเด็ก ๆ มากขึ้นแล้วก็แก้บางจุดที่อาจไม่ถูกต้อง แก้วรรคตอนต่าง ๆ เหมือนกับงานบรรณาธิการตามสำนักพิมพ์เลย เรารู้สึกสนุกมากเพราะได้ทำงานที่ค่อนข้างหลากหลายดี อีกอย่างคงเป็นเพราะว่ามันสานฝันเราทั้งในวัยเด็กแล้วก็สานฝันเราในปัจจุบันด้วย เราเลยผ่อนคลายกับการได้ทำงานที่นี่มาก ๆ

    อาทิตย์แรกของเราผ่านไปอย่างรวดเร็ว สมองเราได้รับข้อมูลมาเยอะมาก ๆ แล้วเราก็มีสิ่งที่อยากทำเยอะมาก ๆ สมองเราคิดงานไปถึงตีมเดือนหน้าแล้ว 555 เราหวังว่าอาทิตย์ต่อไปเราจะยังคงมีไฟในการเป็นนักศึกษาฝึกงานอย่างล้นหลามแบบนี้ แล้วหวังว่าถ้าผลงานของเราออกมาสู่สายตาเด็ก ๆ เมื่อไหร่ เด็ก ๆ จะชอบงานของเรานะ 。•‿•。

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in