เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลคอลัมน์พิเศษ 《王源说》pigginaibiao
ธันวาคม 2019 : กดสวิตช์สับเปลี่ยนบทบาทชีวิต
  • ? นักเขียน : หวังหยวน ( นักแสดง, นักร้อง, ฑูตทางการศึกษาของ UNICEF)
    รายได้จากการเขียนคอลัมน์ทั้งหมด หวังหยวนบริจาคให้กับมูลนิธิ Yuan ค่ะ?

    เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว นับวันอากาศยิ่งเย็นลง บางครั้งผมก็อยากทำตัวเป็นสัตว์จำศีลอยู่ภายใต้ผ้านวมจริงๆครับ จนอีกนิดเดียวจะกลายเป็นสมาชิกของชมรมคนโดนเตียงดูดอยู่แล้ว หลังจากที่ผมค่อยๆปรับตัวกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้ ไม่นานมานี้ ผมก็ได้เริ่มต้นชีวิตการทำงานอีกครั้งที่บอสตันแล้วครับ

    อากาศในวันนั้นหนาวสั่นจน "ไร้ความรู้สึก" หลังจากเลิกเรียน ผมเดินออกมาจากห้อง หูทั้งสองข้างได้ยินแต่เสียงลมพัด “ซู่วซู่ว” ผมกระชับเสื้อของตัวเองแล้วรีบพุ่งตรงเข้าไปในรถ ร่างกายถึงค่อยๆรู้สึกอุ่นขึ้นมาได้ เมื่อไปถึงสตูดิโอ ที่นั่นมีทีมงานและสภาพแวดล้อมที่ผมคุ้นเคยดี ทำให้ผมปรับตัวได้เร็วขึ้น ภายในสตูดิโอมีเครื่องดนตรีอยู่สองสามชนิด ผมคิดขึ้นมาได้ว่าอีกไม่กี่วันต้องขึ้นแสดงแล้ว  ดังนั้นจึงใช้เวลาว่างจากการทำงานมาซ้อมเปียโน เหมือนแอบเล่นกับเพื่อนในคาบเรียนเมื่อตอนเป็นเด็กเลยครับ อิสระเหล่านี้บางทีก็ทำให้คนเราหวนคิดถึงช่วงเวลานั้นอยู่เหมือนกัน การทำงานในวันนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ กว่าจะเลิกงานพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว ผมนั่งอยู่ภายในรถ มองทิวทัศน์ภายนอกหน้าต่างที่กำลังปรวนแปร และแล้วความรู้สึกอ่อนล้าก็ค่อยๆคืบคลานเข้ามา

    ผมมีความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวก่อนที่จะหลับใหล ผมคิดว่า ร่างกายของผมเป็นเหมือนกับเครื่องบันทึกเสียงเครื่องหนึ่ง ส่วนชีวิตของผมก็เหมือนกับตลับเทปที่สามารถบรรเลงได้สองด้าน ด้านก.คือชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของผม ด้านข.คือผมที่วุ่นกับการทำงานราวกับบทเพลงของคอนแชร์โต เมื่อถึงเวลาที่ผมต้องเปลี่ยนสถานะของตัวเอง เครื่องบันทึกเสียงเครื่องนี้จะกดปุ่มสวิตช์ตัวเองไปอีกด้านโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับที่เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วผมนั่งฟังอาจารย์สอนอยู่ในห้องเรียน แต่ต่อมาก็ต้องเข้าสู่สภาพแวดล้อมและสถานะหน้าที่อีกแบบหนึ่ง คิดๆดูแล้ว ประสบการณ์แบบนี้ก็แปลกดีเหมือนกันครับ

    วันที่สอง หลังจากเรียนเสร็จผมก็ได้เริ่มตารางงานใหม่อีกครั้ง ผมใช้เวลาขับรถสี่ชั่วโมงกว่า ตั้งแต่ท้องฟ้ายังสว่างสดใสขับไปเรื่อยๆจนกระทั่งสีของมันเริ่มหม่นลง  ผมจอดรถพักสายตา ทบทวนบทความที่คุ้นเคยอีกสองสามรอบ สถานีต่อไปก็จะถึงนิวยอร์กแล้วครับ ตารางงานขององค์การสหประชาชาติครั้งนี้จัดขึ้นในวันเด็กสากล ผมสวมสูทให้เป็นทางการ นำเข็มกลัดขององค์การยูนิเซฟกลัดลงบนหน้าอก และเครื่องบันทึกเสียงในตัวผมก็เริ่ม “ฟึ่บ” กดปุ่มสวิตช์ตัวเองไปบรรเลงเพลงด้านข.อีกครั้ง

    พูดสุนทรพจน์เป็นภาษาจีนในหอประชุมขององค์การสหประชาชาตินับเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมครั้งหนึ่งเลยครับ เกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทเพลงคอนแชร์โตจังหวะเร็วในด้านข.บรรเลงกึกก้องอยู่ภายในร่างกายของผม ท่ามกลางความประหม่า ทุกอย่างเริ่มดำเนินเข้าสู่พิธีการ หลังจากเสร็จการประชุม ผมเดินขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าของตึกเอ็มไพร์สเตต ทำให้รู้สึกโล่งใจมากขึ้น ราวกับว่าทำนองเพลงหนักๆนั้นหยุดไปและค่อยๆดังขึ้นมาช้าๆในจังหวะที่ฟังสบาย 

    เพียงแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น ผมทอดตาไปยังเมืองแห่งป่าไม้ที่อยู่ภายนอกกระจกแก้วนี้ ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นเหมือนกับเกล็ดปลาที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม แม้ว่าจะยังไม่เปิดไฟ แต่ภาพของฝูงชนที่เดินขวักไขว่ไปมากับรถยนต์ที่เคลื่อนตัวอยู่บนท้องถนนราวกับเส้นไหมที่กำลังถูกทอนั้น ต่างเป็นประจักษ์พยานได้อย่างดีว่าเมืองแห่งนี้คือมหานครแห่งแสงสี ในช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ ความวุ่นวายใจในช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิง ได้ทอดมองฝูงชนที่เดินขวักไขว่อยู่เบื้องหน้า ทำให้ผมเริ่มตั้งตารอปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงแล้วล่ะครับ “เครื่องบันทึกเสียงของร่างกาย” ยังคงทำหน้าที่สลับบทเพลงไปมาอยู่เสมอ และดูเหมือนว่าใกล้จะถึงเวลาอัดบทเพลงใหม่ให้กับตลับเทปแล้วครับ เมื่อความหนาวพัดผ่านไป น้ำแข็งสลายตัว เผยให้เห็นสีเขียวของใบหญ้า ผมเชื่อว่าจะต้องบังเอิญพบเข้ากับสิ่งใหม่ที่ทำให้ความอบอุ่นยังคงอยู่ต่อไปแน่นอนครับ…

    Source
    Author weibo

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in