เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
For a moment, I think I fell in lovethismetalducky
ตั๋วรถไฟโซน 2
  • เราไม่รู้จักเธอมาก่อน
    เราแค่บังเอิญมาเจอเธอบนเที่ยวบินเดินทางไปเพิร์ธเท่านั้น
    นี่เป็นเพิร์ธครั้งแรกของเรา
    แต่เธอว่าเธอเคยเดินทางไปแล้ว

    พอเครื่องลงเราก็ถามเธอ ว่าเธอมีแผนไปเที่ยวไหนหรือเปล่า
    เราบอกเธอ ว่าเราจะไป Blue Boat House
    เพื่อนเรากี่คนที่มา ต้องถ่ายรูปกับบ้านหลังนั้น แล้วลงอินสตาแกรมให้เห็นเสมอ
    เธอบอกเราว่า เธอจะเช่ารถฟรีของโรงแรม แล้วขับไปที่ชายหาดแห่งหนึ่ง
    เราจำชื่อหาดไม่ได้หรอก เราไม่รู้จักหาดนั้นด้วยซ้ำ
    แต่เราก็บอกเธอ ว่าถ้าเธอจองรถได้ เราก็ไปด้วย

    เราเอาโทรศัพท์มาขอเบอร์ทุกคน รวมถึงเธอด้วย
    เธอทำตัวน่าหมั่นไส้ บอกว่าเรามาขอเบอร์เธอ เราคิดอะไรกับเธอหรือเปล่า
    เราหมั่นไส้ เลยทำท่าจะดึงโทรศัพท์หนี
    เธอหัวเราะชอบใจ แล้วบอกว่าเธอแค่ล้อเล่นเฉยๆ

    ระหว่างทางไปโรงแรม เธอบอกเราว่า เธอกำลังจะเดินทางไปแฟรงค์เฟิร์ต
    เราบอกว่าเราเคยไปแฟรงค์เฟิร์ตแล้ว
    เธอเลยถามเราว่าเราไปไหนมาบ้าง ตึกสี Roemer หละสิ
    เราบอกว่าใช่ เราไป Goethe Haus มาด้วย
    เธอซักเราต่อว่าเราไปกับใคร
    เราก็ตอบไปว่าคนที่เราเจอในไฟล์ท
    เธอถามอีกว่าไปกี่คน
    เราก็ตอบว่าสองคน
    เธอถามต่ออีกว่า เขาคนนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
    เราก็ตอบตามจริง ว่าเขาหนะ ผู้ชาย

    เธอทำหน้าตาทะเล้น บอกเราว่าแรดจริงๆ
    เราถลึงตา บอกให้เธอพูดใหม่อีกทีสิ
    เธอหัวเราะบอกว่าเธอล้อเล่น
    เราว่าเธอล้อเล่นแรงไปหน่อยนะ

    เราเล่าว่า ไม่มีใครอยากไป Goethe Haus เพราะเขาไม่อิน เลยเหลือกันอยู่แค่สองคน
    เธอบอกว่า ครั้งหน้าที่เราไปเที่ยว ขอให้เราได้ไปกับผู้ชายหน้าตาดี
    เราก็งง ว่าทำไมต้องเป็นผู้ชายหน้าตาดีด้วย
    เธอเลยถามเรา ว่าเรามีแฟนแล้วหรือยัง
    เราตอบว่ายังไม่มี
    เธอก็ถามอีกว่าทำไม จนเพื่อนอีกคนพูดออกมา ว่าเหมือนเธอจะจีบเราเลย
    ถามคำถามเรา เหมือนจะชวนเราเดท
    เธอรีบปฏิเสธ
    เธอบอกเธอมีแฟนแล้ว อย่าพูดไปแบบนั้น
    ถึงโรงแรมพอดี เราเลยไม่ได้บอกเธอว่าทำไมเราถึงไม่อยากมีแฟน

    พอเช็คอินเรียบร้อย เรากับเพื่อนอีกคนก็ถามทางไป Blue Boat House
    ส่วนเธอก็ถามพนักงานโรงแรมเรื่องเช่ารถ
    ปรากฏว่ารถถูกเช่าจนถึงบ่ายโมง
    ช้าเกินไป เรามีเวลาแค่วันเดียว
    แต่เธอบอกว่า เธอขับรถพาเราไป Blue Boat House แทนก็ได้
    พวกเราแยกย้ายกันไปพักผ่อน
    พอถึงห้อง เราชื่นชมความงดงามของห้องพัก ถ่ายรูปส่งให้ป๊าม๊าดู ว่าเราอยู่สบายดี
    แล้วเราก็ตั้งแชทกลุ่ม นัดเวลาเจอกันเรียบร้อย และต่างคนต่างพักผ่อน

    พอถึงเวลานัด มีแค่เรากับเพื่อนอีกคน
    เธอไม่ตอบแชท และไม่ลงมาเจอพวกเรา
    เรากับเพื่อนเลยนั่งรถเมล์ไปกันเอง
    ราวๆ 20 นาทีก็มาถึง
    โชคดีที่ตอนเราไป มีคนไม่เยอะมาก
    แต่เพราะอากาศเย็นจับใจ เรากับเพื่อนเลยรีบถ่ายรูป เพราะร่างกายจะต้านลมทะเลไม่ไหว
    ถ่ายรูปเสร็จก็นั่งรถกลับ
    ระหว่างทางกลับ เธอตอบแชท ถามว่าเราอยู่ไหน
    เราส่งรูป Blue Boat House ไปให้เธอดู
    เธอพิมพ์เป็นเสียงหัวเราะตอบกลับมา

    พอเรากลับมาแถวโรงแรม ก็ว่าจะหาอะไรกิน
    เรากับเพื่อนเลือกอาหารเกาหลี
    เพื่อนบอกให้ชวนเธอ เพราะเราจะได้ไม่เหงา ตอนเพื่อนไปเจอเพื่อนเขาอีกที
    เราชวนเธอผ่านแชท ว่าเราจะกินอาหารเกาหลีนะ เธอมาแจมได้
    เธอบอกเธอจะมา แล้วเธอก็มาจริงๆ
    เธอบ่นว่าเธอตื่นไม่ไหว เลยไม่ได้ไป Blue Boat House ด้วยกัน
    เรากับเพื่อนหัวเราะ ก็เข้าใจแหละ ว่าเธอคงเหนื่อย

    เพื่อนเราออกจากร้านไปก่อนเรากินเสร็จ
    เหลือเราอยู่กับเธอสองคน
    เธอถามว่าเราจะไปไหนต่อ
    เราบอกว่าเราคงเดินเล่นแถวนี้ แล้วกลับเข้าโรงแรม
    พรุ่งนี้ไฟล์ทเช้า เราก็ว่าจะพักผ่อน
    เธอกลับบอกว่า เราน่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่ Cottesloe Beach ทัน
    เธอถามเราว่าจะไปมั้ย และเราก็ตอบว่า "ไป"

    เราซื้อตั๋วโซน 2 นั่งรถไฟสาย Fremantle ไป Cottesloe Beach กันสองคน
    ระหว่างทาง ต่างคนต่างก็เงียบ
    เธอพูดแค่ว่า หวังว่าเราจะไปทันอาทิตย์ตกดิน
    เราพยักหน้า แล้วตอบเบาๆว่า "อืม"

    พอเดินมาถึงหาด เราก็หยิบมือถือขึ้นมาเก็บภาพ
    พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า และจมลงสู่ท้องทะเล
    ต้องขอบคุณเธอ ที่พามาดูภาพงดงามแบบนี้

    เธอบอกให้เราถอดรองเท้ากับถุงเท้าออก แล้วไปย่ำบนผืนทราย
    ตอนแรกเราจะไม่ทำ เรากลัวหนาว
    แต่เธอบอกว่าเธอจะเดินเท้าเปล่านะ เราก็แค่ทำแบบเธอ "feel the sand" ไง
    สุดท้ายเราก็เท้าเปล่า ย่ำหาดทรายอยู่ข้างๆเธอ
    มันก็หนาวอย่างที่เรากลัวนั่นแหละ แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราคงไม่ทำ ถ้าเธอไม่อยู่ตรงนี้

    เธอหยิบโดรนออกมาจากกระเป๋า ขับเคลื่อนมัน ถ่ายภาพหาดทราย
    ส่วนเรา มองอาทิตย์จมลงทะเลเป็นแบ็คกราว์นภาพแผ่นหลังของเธอ
    เราถ่ายภาพนั้นไว้ เราว่าภาพนั้นมันเหงาดี
    เราหรือบรรยากาศก็ไม่รู้ ที่เราว่าเหงาน่ะ

    จนกระทั่งอาทิตย์จมหายไปทั้งใบ เหลือไว้แค่แสงหริบหรี่ปลายขอบฟ้า
    เธอหยุดบินโดรน
    เราสองคนหยิบรองเท้ามานั่งใส่ที่ม้านั่งริมหาด
    เธอถามเราว่า ให้เธอถ่ายรูปให้มั้ย
    ตอนแรกเราไม่อยากถ่าย แต่เธอก็พูดจนเราตอบตกลง
    เธอถ่ายภาพจากข้างหลัง เห็นเรานั่งบนม้านั่ง มองแสงอาทิตย์ชิดเส้นขอบฟ้า

    เธอบอกเธอชอบอารมณ์ของมัน เธอจะส่งมันให้เรา
    เราเลยให้เธอดูรูปเธอที่เราถ่าย
    เธอบอกเธอชอบรูปที่เราถ่าย เราเลยส่งรูปให้เธอเหมือนกัน
    จากนั้นเราก็ค่อยๆย้อนรอยทางเดิมกลับไปยังโรงแรม
    ซื้อตั๋วรถไฟโซน 2 ที่จะหมดอายุตอน สองทุ่มห้าสิบสาม
    เหมือนกับความรู้สึกนี้ของเรา ที่มันต้องจบในเวลาสองทุ่มห้าสิบสามเช่นกัน

    เราไม่รู้จักเธอมาก่อน
    เราแค่บังเอิญมาเจอเธอบนเที่ยวบินเดินทางไปเพิร์ธเท่านั้น
    นี่เป็นเพิร์ธครั้งแรกของเรา
    และเราคงต้องขอบคุณเธอ สำหรับประสบการณ์ครั้งแรกที่เราได้รับ
    ขอบคุณนะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in