เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
places to go.ละมุดพรรณ
PATTAYA LIFE เที่ยวพัทยายังไงให้ใจสงบ?
  • WHAT? เราจะมาเล่าชีวิต 2 วัน 1 คืนสุดชิล ฉบับรวบรัด ในโลกแห่งพัทยากัน ที่ใคร ๆ ก็ว่าวุ่นวายแถมเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว จะเที่ยวยังไงให้สงบ ให้ใจได้พักล่ะ? ที่นี่อาจมีคำตอบนะ

    HOW? โชคดีของเรา ที่แฟนชนะการประกวดโปสเตอร์ ได้รางวัลที่ 1 คือที่พักใน Villa Thongbura (วิลล่า ทองบุรา) @พัทยา 1 คืน เป็นโอกาสทองที่จะได้พักสมองจากงาน แล้วไปเที่ยวสบาย ๆ บ้าง

    THANK YOU ขอบคุณ พี่รัฐ เจ้าของที่พัก และผู้มอบรางวัลนี้ให้กับพี่บีมนะคะ พี่รัฐดูแลดีมาก ๆ เลยค่ะ ??


    DAY 1 : นี่หรือพัทยา?

    วันแรกมาถึงที่พัก ก็กรี๊ดกร๊าดมาก ที่นี่ตกแต่งสไตล์ล้านนา งามอย่างไทยสุด ๆ  เหมือนอยู่เชียงใหม่เลย บรรยากาศเงียบ และ ชิลมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ นอนอาบแดด อ่านหนังสือเงียบ ๆ พี่เจ้าของเล่าให้ฟังว่า ที่นี่จะมีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่เน้นพักผ่อนและชาร์จร่างกายที่แท้ทรู เอาเป็นว่าไม่กล้าตะโกนคุยค่ะ เกรงใจไปอีก

    ความประทับใจแรกคือ สระว่ายน้ำใหญ่และสวยมาก! ที่นี่เขาใช้กระเบื้องสีเขียวให้ดูเย็นตา กลืนไปกับสีต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้รอบ ๆ ที่พัก สระว่ายน้ำมี 2 ชั้น ไม่ลึกด้วย (เราสูง 152 ยืนได้ทั่วสระ อืม..ก็ไม่ลึกแหละ) เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี ความพีคคือเปิดประตูกระจกจากห้องพักออกมา ก็ลงสระได้เลย! เฮ้ย มันจะดีเกินไปแล้ววว ไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำแปป พร้อมโดดในอีก  5 นาที



    DAY 1 : ห้องพักดี มีความเก๋ ตอบโจทย์แฟมิลี

    ที่นี่มีห้องพักตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป จนถึงห้องใหญ่ไว้รองรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน ขนาดเราได้พักห้องสำหรับ 2 ท่าน ยังรู้สึกว่าห้องโล่ง ไม่อึดอัดแต่อย่างใด เสียดายที่ลืมถ่ายรูปห้องน้ำมาเพราะห้องน้ำก็กว้างเหมือนกัน มีอ่างอาบน้ำ / มุมฟักบัว / และตู้เสื้อผ้าไซส์ใหญ่ ไอเท็บครบ (มัวแต่กรี๊ดอยู่กับสระว่ายน้ำ เลยไม่ได้โฟกัสการถ่ายรูปห้องพักเลยให้ตายเถอะ) ส่วนมุมอื่น ถ่ายมาโดยรวม ก็จะเห็นได้ว่ากว้างจริงอะไรจริง มีโซฟาคู่ตัวใหญ่ / โต๊ะติดริมกระจก / โต๊ะเครื่องแป้ง / ชั้นวางทีวีก็ใส่ของจุกจิกได้ ที่สำคัญคือ มีเตา และ ไมโครเวฟให้ค่ะทุกคน! เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบพกอะไรมาทำกินเองง่าย ๆ น่ารักกรุบกริบ


    DAY 1 : ไม่เช็คอิน ไม่เข้าพัก แวะมาตักข้าวกินสักคำก็ยังดี

    เรามีโอกาสได้เจอร้าน The Mable Cafe & Restaurant ในเมืองพัทยา เป็นร้านอาหารที่อยู่ในเครือที่พักโรงแรม Areca Lodge บรรยากาศรวม ๆ มีความเป็น Urban Life นิด ๆ เหมาะกับคนที่ชอบเดินเที่ยวตอนกลางคืน หาอะไรกินเล่น ๆ ยามดึก เพราะ Street Food เยอะมาก แต่ที่เรามาวันนี้เราแค่แวะมากินมื้อบ่าย ซึ่งอาหารของที่นี่เราแนะนำมาก ๆ เลยนะ รสชาติอร่อย ราคากลาง ๆ และปริมาณเยอะเด้อ มา 2 คน สั่ง 3 อย่าง กินไม่หมด อิ่มก่อน ฟูลมากจริง ๆ แนะนำเลย

     


    DAY 1 : Night Life ที่ไม่เหมือนใคร กินพิซซ่าไป นั่งเล่นเกมไปจ้ะแม่

    Night Life ของหลาย ๆ คน อาจจะมีความพิเศษ และน่าติดตาม แต่ของเราทริปนี้ขอเป็นเก็บตัวในห้องชิล ๆ อย่างที่เครมเอาไว้ว่า เป็นทริปที่สงบจริง ๆ ชีวิตกลางคืนในพัทยาที่แสนวุ่นวาย เรากับพี่บีม(แฟนฉัน ๆ) ออกไปหาซื้อพิซซ่าในเมือง อยากลองกินพิซซ่าที่แบบ ต่างจากที่กิน เข้าใจใช่ไหมทุกคน เลยไปกว้านหาจนเจอร้านหนึ่งเข้าตา ก็เลยลองซื้อมาคนละชิ้น แต่ระหว่างทางกลับก็มีแวะสอยอย่างอื่นมากินอีกเยอะเลยนะ (ถ่ายไม่ทัน ความหิวมันบังตา) ถึงห้องก็ปาไป 3 ทุ่มกว่า ๆ แล้ว จัดวางอาหารเต็มโต๊ะเสร็จ ชีวิตเด็กติดเกมก็เริ่มต้นขึ้น! เป็นคืนเบา ๆ ที่เงียบและมีความสุขมากเหมือนกัน บางทีเปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนที่ทำกิจกรรมเดิม ๆ มันก็สบายใจได้เหมือนกันนะ

    ปล. พิซซ่าร้านนี้อร่อยเข้าตากรรมการมากค่ะ ถึงพี่บีมจะบอกว่าต้องการความฉ่ำชีสกว่านี้ก็เถอะ แต่สำหรับเราคือคอมพลีท!


    DAY 2 : อรุณสวัสดิ์ด้วยมื้อเช้าที่ไม่มีวันลืม! (Silver Spoon Restaurant)

    จริง ๆ ก็ไม่เช้าหรอกค่ะ กว่าจะตื่นก็เกือบเที่ยงแล้ว (ยิ้มแห้ง) ด้วยความที่พี่รัฐเทคแคร์ดีมาก ๆ พี่เขาชวนมากินข้าวที่ร้าน Siver Spoon เป็นร้านอาหารในโรงแรม Silver Sand ที่พักโด่งดังเลียบชายหาดพัทยานี่เอง ซึ่งทั้งโรงแรมและร้านอาหารก็เป็นของพี่รัฐทั้งหมด ความโชคดีของเราคือ ได้กินอาหารเมนูสุดพิเศษ เป็นเมนูลับที่ไม่มีในหนังสือเมนู! ปลื้มในปลื้ม ไม่ใช่แค่หน้าตาน่ากินอย่างเดียว แต่รสชาติคืออร่อยมาก ถ้าบรรยายจริง ๆ 3 หน้าก็ไม่จบ เอาเป็นว่าอร่อยทุกอย่าง ทุกเมนู พี่รัฐคัดสรรวัตถุดิบ และตั้งใจมาก ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ราคาไม่แพงด้วยนะทุกคน  ใครได้มาพัทยา ต้องมากินให้ได้ อันนี้ไม่ได้อวยนะ ถ้าไม่มากินคือพลาด!


    DAY 2 : ดูศิลปินคนโปรด กับคนที่ใช่ @Hello Van Gogh Pattaya

    ปิดท้ายทริปชิล ๆ เงียบ ๆ แบบตัดจบเหมือนหนังซีรีส์ที่ชอบค้างเติ่ง ด้วยการแวะพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับผลงานของศิลปินที่หลาย ๆ คนรู้จัก เขาก็คือ Vincent Van Gogh นั่นเอง ออกตัวนิดหนึ่งว่าเราไม่ได้เป็นศิลปินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ แต่เราชอบตัวตนและความคิดบางอย่างของ Vincent เท่านั้น และเป็นคนที่มีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์มาก มันมีอิมแพ็คกับเรามาก ๆ เราเลยตั้งใจจะแวะมาดูก่อนกลับบ้านกัน

    ที่นี่เขาจัดงานแสดงในรูปแบบของภาพ 3D ดูมีชีวิต สมจริง และสวยมากในสายตาเรานะ ทำให้เราเหมือนได้ใกล้ชิดกับศิลปินที่ล่วงลับเข้าไปอีกขั้น ที่สำคัญคือมีหลายโซน หลายแบบมาก ๆ มันสวยจริง ๆ แนะนำว่าไปดูเถอะค่ะ ทั้งบรรยากาศ และเสียงเพลง ทำให้เกิดความรู้สึกดี ๆ ที่ไม่เหมือนกับไปแวะเที่ยวที่อื่นเลยนะ ค่าเข้า 200.- เราว่าคุ้มเด้อ

    ปล. ก่อนกลับก็ได้มุมถ่ายรูปแบบมินิมอลถูกใจฉันเหลือเกิน

    ปล.2 ที่นี่มีแต่ภาษาเกาหลี และ ภาษาอังกฤษ ฟิลเหมือนอยู่โซลไปอีก (แต่ไม่เคยไปเกาหลีนะ เดา ๆ เอา)


    CONCLUSION

    เที่ยวที่ไหนก็รู้สึกสงบได้ ถ้าเลือกที่พักที่เน้นการพักผ่อนจริง ๆ เป็นไปได้อยากให้เลี่ยงช่วง High Season นะ

    ไปเที่ยวไม่จำเป็นต้องดีด ลั้ลลา เฮฮา หรือไปทำกิจกรรม Extreme เท่านั้น เราสามารถชาร์จพลังได้ด้วยการอยู่นิ่ง ๆ หรือทำอะไรเบา ๆ ชิล ๆ แม้แต่นอนเล่นเปื่อย ๆ ก็เป็นการพักผ่อน พักใจได้เหมือนกัน

    ลองแวะเที่ยวในสถานที่ ที่ไม่ได้โด่งดังในโซเชียลมาก เลี่ยงจุดแลนมาร์คบ้าง ลองฉีกกฎของทริปที่เขามักจะรีวิวกันในโซเชียลดู แล้วเราจะค้นพบทริปดี ๆ ที่เป็นสไตล์ของตัวเองได้ไม่ยากเลย

    ลองดูนะ :)

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in