เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เก็บมาเล่าAlizz N Triburut
ชีวิต เด็ก ม เปิด
  •    

      ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยเรียน ม ปิดมาก่อนก่อนที่จะมาเรียนที่นี่ ตอนที่เรียน ม เปิด การเรียนการสอนจะเป็นแบบเห็นหน้าและมีบางวิชาที่ต้องค้นคว้าด้วยตัวเอง  พอฉันมาเรียนที่นี่ฉันอยากบอกว่า มันต่างจากมปิดที่ฉันเคยเรียน มาก   จากการเรียนแบบเห็นหน้าก็มาเรียนแบบออนไลน์ จากที่ต้องค้นคว้าอยู่แล้ว ก็ต้องค้นมากขึ้น เพราะว่าการบ้านที่ให้เราทำนั้นยากถึงยากมาก และวิชาหนึ่งที่นักศึกษา มสธ ทุกคนต้องเจอก็คือวิชาประสบการณ์ชาชีพ และช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันก็พึ่งไปร่วมอบรมประสบการณ์วิชาชีพ ที่มหาวิทยาลัย


    การอบรมประสบการณ์วิชาชีพคืออะไร

           การอบรมประสบการณ์ฯก็คือวิชาเรียนของนักศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ผู้ที่เรียนวิชานี้ต้องมีวิชาเรียนไม่เกินสามวิชาและต้องไปอบรมที่มสธ.  นนทบุรี เป็นเวลา 5 วัน 4คืน และแล้วก็ต้องไปอบรมประสบการณ์ฯภาษาอังกฤษการอบรมครั้งนี้ใช้เวลา5วัน 4 คืน การอบรมของฉันครั้งนี้  เริ่มตั้งแต่วันที่ 10-14ธันวาคม60 ฉันเดินทางมากรุงเทพฯ ตั้งแต่เย็นวันที่8 (ไปทั้งครอบครัว)ถึงกรุงเทพวันที่9 หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังมหาวิทยาลัย แล้วเข้าที่พักที่อาคารสัมมนา1 ทาง มหาวิทยาลัยมีอาคารที่พักหลายอาคาร ดังนี้   อาคารสัมมนา1  อาคารสัมมนา 2  อาคารพิทยพัฒน์ และ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา5 ธันวาคม 2550 เมื่อเช็คอินแล้วก็ลงไปทานข้าวที่โรงอาหารที่อาคารสุโขสโมสร  ก่อนที่จะเดินไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด ฉันอยู่ในห้องสมุดไม่นานก็ออกไปซื้อของที่ห้างบีไฮฟ์ที่หน้ามหาวิทยาลัย จำได้ว่า ตอนที่ไปที่ห้างนี้ฉันพยายามเดินหาร้านหนังสือ B2S ฉันเดินขึ้นไปด้านบนปรากฏว่า ไม่มี จึงเดินออกมาแล้วเดินไปด้านหลังคราวนี้เจอเลย ร้านเล็กๆใกล้กับร้านอาหารยาโยอิ   โอ๊ย หาตั้งนาน อยู่ตรงนี้เอง 

         ฉันกับครอบครัวอยู่ที่ห้างได้ไม่นานก็เดินมานั่งชิวที่ศูนย์หนังสือของมหาวิทยาลัยและออกมาพร้อมหนังสือสองถุงของพ่อ1ถุง ของฉันหนึ่งถุง ก่อนเดินไปยังห้องอาหารปาริชาตเพื่อกินอาหารเที่ยง เย็นวันเดียวกันก็ออกมาเดินเล่นออกกำลังกายกับครอบครัวหลังกินมื้อเย็นก่อนเดินไปถ่ายรูปที่ อุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก ภายในมหาวิทยาลัยแล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ? ก็อยู่ในมหาวิทยาลัยของเรานี่แหละอุทยานแห่งแห่งนี้ประกอบด้วย หอพระพุทธฯ เดินจากหอพระพุทธไปอีกไม่ไกลก็จะพบศาลาพุ่มข้าวบิณฑ์   และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว   อยากบอกว่า แถวนี้วิวดีจริงๆ เหมาะกับการถ่ายรูปมาก 

          เช้าวันต่อมาเราก็ต้องย้ายไปพักที่อาคารสัมนา2 (พัก ที่อาคารสัมมนา1  1 คืน)       เช้าวันนี้ฉันต้องไปลงทะเบียนเข้าอบรมที่อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ  เมื่อลงทะเบียนเข้าอบรมเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปลั๊ลลาหน้าม อีกแล้ว คราวนี้เราเดินไปยังร้านหนังสือสื่อภาษา ใกล้กับห้างบีไฮฟ์  ที่ไปเมื่อวาน  ซึ่งอยากจะบอกว่าร้านนี้ใหญ่มากๆมีหนังสือที่หลากหลาย ทั้งหนังสือภาษาไทย อังกฤษ ภาษาอื่นๆ  ก่อนจะกลับมาย้ายของเข้าอาคารสัมมนา2 ฉันพักอยู่ที่ห้องพักได้ไม่นานก่อนจะไปร่วมกิจกรรมที่ตึกเฉลิมฯในช่วงบ่าย ฉันเริ่มทำกิจกรรมตั้งแต่บ่าย ก่อนจะพักเบรกสองชั่วโมง 16.30-18.30  ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ในช่วงเย็น18.30  ก่อนกลับห้องพักตอนสองทุ่มครึ่ง ซึ่งจะเป็นแบบนี้ไปอีกสองวัน  เริ่มจาก 08.30 ผู้เข้าอบรมทุกคนจะต้องเข้าห้องประชุมใหญ่(ที่นี่เรียกห้องยักษ์)ก่อจะเข้าห้องเรียนจนถึงเที่ยง พัก1ชั่วโมงแล้วเรียนต่อตั้งแต่บ่ายโมงถึงสี่โมงครึ่งก่อนจะเข้าห้องยักษ์อีกครั้งในเวลาหกโมงครึ่งเลิกเรียนสองทุ่มครึ่งทุกวัน ฉันจึงคิดว่า หลังกินข้าวมื้อเย็นแล้วจะออกกำลังกาย ก่อนจะเข้าห้องยักษ์เพราะฉันถือว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ  (เพราะว่า ม เลี้ยงดี ทั้งเบรก ทั้งอาหารสี่มื้อ  ถ้าไม่ออกกกำลังกาย หรือมัวนั่งเฉยๆ มีหวังบวมแน่ๆ) พอถึงวันที่สาม เราเลิกตั้งแต่สี่โมง ฉันรีบเดินกลับห้องพักพร้อมคุณแม่ (ระหว่างอบรมแม่มาพักเป็นเพื่อน)ก่อนจะเข้าร่วมงานสารสังสรรค์ ที่อาคารเฉลิมฯ ก่อนเริ่มงานในเวลาหนึ่งทุ่ม


    กิจกรรมในแต่ละวัน

    วันอาทิตย์    พิธีเปิด     ส่วนในช่วงกลางคืน ก็จะเป็นการทำกิกรรม ละลายพฤติกรรม

      วันจันทร์   เริ่มด้วยการจับกลุ่มแสดงละคร(สอดแทรกคุณธรรม)ในช่วงเช้า  ช่วงบ่าย เรียนเรื่องการออกเสียง แลช่วงกลางคืนจะเป็นกิจกรรมึกการฟังด้วยการดูหนัง

     วันอังคาร ฝึกพูด แบบต่างๆ เช่น(สัมภาษณ์  อภิปราย) ในช่วงเช้า     ช่วงบ่าย   เรียนเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งานก่อนมาแบ่งกลุ่มช่วงกลางคืน

    วันพุธ    ฟังบรรยายพิเศษ      และแสดงบทบาทสมมติในตอนบ่ายส่วนช่วงกลางคืนจะมีกิจกรรมสาระสังสรรค์ (กิจกรรมสาระสังสรรค์นี้จะจัดขึ้นในวันที่สามของการอบรม)

    วันพฤหัส    โหวตคติพจน์  และพิธีปิด


    ความประทับใจ

    สิ่งที่ประทับก็คือ ภายในบรรยากาศที่ร่มรื่น สงบ เต็มไปด้วยต้นไม้ระบบนิเวศภายในมหาวิทยาลัยก็ดี  ,ตื่นเช้ามาก็จะยินเสียงนกร้องนอกจากนี้สถาปัตยากรรมของอาคารแต่ละอาคารออกแบได้อย่างสวยงามและลงตัวแถมก็ยังมีชื่อที่คล้องจองกัน   เช่น   อเนกนิทัศน์ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ  เป็นต้น นอกจากภายในบรรยากาศที่ร่มรื่น และ สถาปัตยากรรมของอาคาร แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่ประทับใจก็คือ ผู้ที่เข้าอบรมคนอื่นๆ ที่มีน้ำใจช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี ทำให้การทำกิจกรรมผ่านไปได้ด้วยดี  จากคนที่ไม่รู้จักกลายเป็นสนิทสนม ทำให้พอจบการอบรมแล้ว เป็นเหตุให้มีไลน์กลุ่มดังตลอดเวา นอกจากนี้ทำให้ให้เกิดมิตรภาพต่างวัย  นอกากนี้สิ่งที่ฉันประทบใจก็ก็คือกิจกรรมในห้องยักษ์ กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดีเพราะว่านักศึกษาที่มาที่นี่ มาจากหลายอาชีพ บางคนก็มีหน้าที่การงานที่ดี   ตำแหน่งสูง เมื่อมาทำกิจกรรมนี้ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันหมด และที่สำคัญ อาหารอร่อยมาก


     ทิ้งท้าย    

         เมื่อเข้ามึกประสบการณ์วิชาชีพผู้เขียนก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศที่งดงามของมหาวิทยาลัยทีนี่เป็นมหาวิทยาลัยที่ร่มรื่นระบบนิเวศที่สมบูรณ์ เป็นมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งวิชาการมีการจับอบรมในแขนงวิชาอื่นๆยู่เสมอ ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจไม่ผิดหวังที่ได้เข้ามาศึกษาในสถาบันแห้งนี้ ตอนนี้ฉันพูดได้เต็มปากได้เลยว่าฉันเป็นลูกเขียวทองอย่างเต็มตัว นอกจากนี้ฉันอยากบอกคนที่เรียนที่นี่ว่า อย่าน้อยใจคุณคิดไม่ผิดหรอกที่เรียนที่นี่เพราะว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีการเรียนการสอนที่ที่ไม่ด้อยกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆในประเทศไทย   ไม่ว่าคุณจะอ่านรีวิวเกี่ยวกับวิชานี้ มาอย่างไรก็ตาม อย่ากลัว ที่จะเผชิญกับความท้าทายที่จะได้พบในชุดวิชานี้   นอกจากนี้อยากบอกผู้ที่สนใจการเรียนออนไลน์ว่า คนที่ต้องการมาเรียนออนไลน์ต้องเป็นคนใฝ่รู้รู้ใฝ่เรียน  หมั่นหาความรู้อยู่เสมอ  พยายามคิดว่าการอ่านเอกสารการสอนที่มหาวิทยาลัยส่งมาให้พียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอเราต้องหาวามรู้จากอินเตอร์เน็ตด้วย (ทางที่ดี ลองหาซื้อหนังสือเรียนของ มอื่นๆมาอ่านเพิ่มเติม   จะช่วยได้มาก) เพราะว่างานที่ได้รับมอบหมายนั้นยากจริงๆ(ขอย้ำ) 

    วันที่มีความสุข
           และแล้ววันที่ฉันมีความสุขก็มาถึงเมื่อเชคเกรด ผลสอบซ่อม ปรากฏว่าผ่าน ซึ่งมหาความว่าฉันเรียนจบแล้ว หลัง จากเรียนปริญญาตรีมาหลายปี ลุ้นแทบตาย นึกว่าจะไม่จบเสียแล้ว เพราะว่าวิชาที่ลงยากมาก ฉันเคยลงมาแล้วในปี58 แต่ตก เลยมาลงในปีนี้และก็ตกอีก เลยลงสอซ่อม แล้วก็ผ่าน ตอนรู้ว่าผ่าน นี่แบบ ดีใจมาก กูโล่งแล้วโว้ยก่อนที่เสียงหัวเราะ อิอิอิอิอิ จะดังขึ้นขณะบอกข่าววดีกับแม่ทางโทรศัพท์ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้รับโอกาสนี้ โอกาสที่ได้แปลี่ยนสถาณะ จากนักศึกษาเป็นบัณฑิตยิ่งพอได้ถ่ายรูปชุดครุย ทำให้ฉันคิดว่า ฉันสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว
    ปล ตอนมาเรียนแรกๆเหงามาก แต่จบแล้วก็ใจ

     Tip สำหรับคนอยากผอม  

          เพราะว่าการอบรมนี้ะจัดขึ้นที่อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ (และมีที่พักบนชั้นที่5-9)  ถ้าใครอยากผอมแนะนำว่าให้พักที่ กลุ่มอาคารสัมมนนาหรืออาคารทิพยพัฒน์  (เพราะจะได้เดินออกกำลังกายทั้งเช้าทั้งกลางคืน ) สำหรับคนที่พักตึกเฉลิมฯ  ก็ออกกำลังกายได้ เหมือนกัน (พักอาคารอื่นก็ออกกำลังได้)   โดยใช้เวลาก่อนเข้าห้องยักษ์ช่วงเย็น 18.30 เพราะช่วงนี้พักสองชั่วโมง  16.30-18.30  หลังกินข้าวมื้อเย็นแล้ว อยากจะแนะนำให้ เดินรอบมหาวิทยาลัย(รอบเล็กพอนะ)  ถ้าอบรมหลายวันแล้วไม่ออกกำลังกายเนี่ย มีหวังอ้วนแน่ๆเลย

    การเดินทาง        

      รถโดยสารประจำทางที่ผ่าน

                - สาย 52           (บางซื่อ - ปากเกร็ด)

                - สาย 356         (สะพานใหม่- ปากเกร็ด)

                - สาย 150         (บางกะปิ- ปากเกร็ด)

                - สาย ปอ.356    (สะพานใหม่- ปากเกร็ด)

                - สาย 166         (ขึ้นทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยฯ -เมืองทองธานี)

     ขอบคุณข้อมูลการเดินทางจาก  http://www.stou.ac.th/thai/Offices/Oaa/pra/Services/map_stou.htm

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in