เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แม่หมอสตอรี่Fayathi Sorap
วิธีรับมือศัตรู ฉบับสายมู (2)
  •      สวัสดีค่ะ

         จบไปแล้วสำหรับการประชุม APEC ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ชื่อเสียงขจรขจายไปไกล คาดว่านักท่องเที่ยวคงหลั่งไหลเข้าประเทศมากขึ้นเป็นแน่

         มาต่อกันที่ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คุณผู้อ่านเชียร์ทีมไหนคะ ทีมของคุณผู้อ่านแข่งไปแล้วหรือยัง มีผลงานได้ดั่งใจหรือไม่อย่างไร 
         คงไม่อวยพรให้ทีมของคุณผู้อ่านหรอกนะคะ เพราะเราก็มีทีมที่เชียร์ของตัวเอง เรามาต่างคนต่างเชียร์ไปด้วยกันดีกว่า ดูซิว่า สุดท้ายแล้ว ชัยชนะจะเป็นของทีมใดกันแน่ 

         ส่วนเรื่องของวันนี้... 
         (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)


         จริงๆแล้วต้องต่อด้วยบทสวดมนต์ครอบจักรวาล แต่เนื่องจากเพิ่งจะรู้จักบทสวดมนต์เพิ่มอีกสองบท จึงขอนำมาแบ่งปันสักเล็กน้อย

         จำลำดับจากสัปดาที่แล้วไม่ได้ ขอเริ่มต้นที่เลข 1

         1. คาถาบูชาพญาครุฑ

         ก็อย่างที่บอกไปคราวก่อนว่าพญาครุฑเป็นเทพที่ทรงฤทธิ์ ถ้าไม่หาท่านมาในครอบครอง เราก็ต้องอัญเชิญพลังของท่านมาด้วยการท่องคาถาแทน ซึ่งคาถานี้ก็มีหลายเวอร์ชั่น...อีกเช่นเคย นี่ก็เลือกเวอร์ชั่นที่ดูแล้วท่องง่ายมา นั่นคือ

         โอม พญาครุฑ จะเห็นผล หลีกไปให้พ้น พญาหนจะเดินทาง เคาะงอ เคาะงอ โอม คะรุทา โอม คะรุทา โอม คะรุทา ครุฑโธ ครุฑธา ปฏิเสวามิ

         เพื่อนบอกฉันมีคนละเวอร์ชั่นกับแกว่ะ ก็ ไม่เป็นไร เลือกเวอร์ชั่นสวดกันได้ตามสะดวก


         2. คาถาแช่ง/ชนะศัตรู

         ไปเจอมาในยูทูป เขาบอกว่าสวดคาถานี้ใครคิดร้ายจะแพ้พ่าย นี่ก็เลยลองฟังดู ยังกล้าๆกลัวๆที่จะท่อง พอมาหาข้อมูลเพิ่มเติม โอ้โห เขาว่าคาถานี้แรงมาก เป็นคาถาแช่งชักหักกระดูกกันเลยทีเดียว 
          อ่านปุ๊บเกิดการชะงักงันกันไปเลย เพราะไม่ได้อยากให้ใครมีอันเป็นไปขนาดนั้น แค่ขอให้แคล้วคลาดจากกันก็พอ 
          สำหรับใครที่สนใจ เดี๋ยวจะแปะลิงค์ไว้ให้ แต่เตือนก่อนนะ เขาบอกว่าคาถานี้แรงมาก ถ้าเราเป็นคนไม่ดีด้วยแล้วไซร้ อาจเสี่ยงต่อการรับเคราะห์เองด้วย 


         ไม่กล้าใช้อ่ะ ดูแรงเกิน...


         โอเค มาต่อกันที่บทสวดมนต์ครอบจักรวาล เริ่มกันที่

         3. อิติปิโส

         อิติปิโสฯเป็นบทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โดยจะเร่ิ่มสวดจาก "อิติปิโส ภะคะวา.." ซึ่งเป็นบทบูชาคุณพระพุทธ แล้วจบด้วยบทบูชาพระสงฆ์ซึ่งลงท้ายว่า "..อะนุตตะรัง ปุญญะเขตตัง โลกัสสาติ.."
     
         ว่ากันว่า หากเราสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยก็เท่ากับรับเอาคุณพระรัตนตรัยมาเป็นศรีเป็นที่คุ้มครองแก่ตน  
         ทั้งนี้และทั้งนั้น อิติปิโสมีเวอร์ชั่นสั้นๆ ด้วยนะเออ นั่นก็คือ อิสะวาสุ เห็นว่าพระพุทธคุณครอบจักรวาล เขาว่าถ้าเรื่องเกี่ยวกับศัตรูแล้ว ให้สวด 19 คาบ(ก็น่าจะ 19 จบ ล่ะมั้ง) ใช้กำราบศัตรูได้

         และยังมีบทที่มีแนวคิดคล้ายๆกัน นั่นก็คือ


         4. ไตรสรณคมน์

         ใครเคยฟังเทศน์คงผ่านหูกันมาบ้าง กับบทสวดที่เริ่มด้วย "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.." 

         ความหมายเท่าที่เข้าใจคือ ขอยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่ระลึก

         เคยอ่านจากที่ใดไม่แน่ใจ เล่าว่า มีพระรูปหนึ่งบอกคนมีฤทธิ์ว่า ท่านจะนั่งวิปัสสนาตรงนี้ๆ และจะสวดแค่ไตรสรณคมน์ ให้ลองส่งพวก เอ้อ งูเงี้ยวเขี้ยวขอมา ว่าจะทำอะไรท่านได้ไหม 
         ซึ่งผลคือ ไตรสรณคมน์ปกป้องท่านได้จากภัยต่างๆที่จะเกิดขึ้น 

         ไม่แน่ใจว่าจริงเท็จเพียงใด แต่....
         สาธุ


         5. พระคาถาชินบัญชร

         ผู้เรียบเรียงพระคาถาชินบัญชรคือสมเด็จพุทธาจารย์โต พรหมรังสี เป็นการอัญเชิญพระอรหันต์ตลอดจนพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มาสถิตย์ ณ บริเวณต่างๆและทิศเบื้องต่างๆของผู้สวด เพื่อคุ้มครองภยันตรายให้แก่ผู้สวดบูชา 
         บทที่อ่านคำแปลแล้วว้าวสุดคือบทที่บอกว่า ขอกำแพงแก้วเจ็ดชั้นกางกั้นในอากาศอยู่เหนือหัว(ผู้สวด) แบบ วู้ กำแพงแก้วตั้งเจ็ดชั้น 

         ครั้นเมื่ออ่านงานของคุณดังตฤณก็ได้ข้อมูลเพิ่มว่า พระคาถาชินบัญชรถือเป็นเศวตเวทย์ คือ เป็นไสยขาว อย่างหนึ่ง ให้คุณด้านการปกป้องคุ้มครอง ตลอดจนทำให้ผู้สวดรู้สึกถึงพลังอำนาจและเสน่ห์ที่เพิ่มขึ้นในตัวเอง
         ..เสน่ห์เนี่ย อาจจะไม่มี แต่ความมั่นใจในตัวเองที่เพิ่มขึ้นเนี่ย น่าจะใช่ 

         ทั้งนี้ หากจำไม่ผิด ในบทท้ายๆของพระคาถาชินบัญชรจะมีคำแปลประมาณว่า ผู้สวดขอตั้งจิตจะเป็นคนดีตามหลักพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นการสวดคาถานี้นอกจากจะอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาบูชา ยังเป็นคำมั่นสัญญาของผู้สวดว่า ตนจะเป็นคนดีมีศีลธรรม ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา อีกด้วย
         ฝากไว้ให้คิดว่า ไม่ใช่อยากสวดก็สวด เราเองต้องเป็นคนดีด้วย จึงจะมีบุญคอยคุ้มตัว

         พระคาถาชินบัญชรมีทั้งฉบับเต็มและฉบับย่อ ใครสนใจก็ลองสวดดูได้
        

         6. ยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก

         ว่ากันว่าเป็นการสวดเพื่อรำลึกบูชาพระคุณของพระพุทธเจ้า และมีการสรรเสริญอยู่ในหนังสือสวดมนต์ว่ามีคุณขั้นเอกอุ ผู้ใดสวดเป็นประจำจะไม่ตกอบายภูมิ ทั้งพรั่งพร้อมด้วยความสุขสมหวังนานับประการ 

         จริงๆถ้าผู้สวดพอมีความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาจะพบว่า ถ้อยคำในบทสวดก็จะมาจากสิ่งต่างๆในพระพุทธศาสนานี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นการนำถ้อยคำในบทอิติปิโสหรือไตรสรณคมน์ บรรจุลงในบทสวด แล้วยังมีพวกคำสอนต่างๆ เช่น รูป สัญญา เวทนา หรือแม้แต่พูดถึงสวรรค์ทั้งหกชั้นและชั้นพรหมด้วย 
         ...แต่ท่องจำยากมาก นี่ก็ยังท่องไม่ได้ทั้งหมด 

         แต่กระนั้น พบว่ายอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกเป็นบทสวดมนต์ที่ เมื่อสวดตอนกำลังเครียด ทำให้ความเครียดสูญ(ขณะสวดนะ)และยิ้มออกมาได้จริงๆ เป็นบทสวดมนต์อีกบทที่อยากจะท่องจำให้ได้ แม้ในวันนี้จะยังไม่สมหวังก็ตาม 


         เหล่านี้เป็นตัวอย่างของการใช้สิ่งที่มองไม่เห็นเพื่อช่วยเหลือตัวเองในโลกมนุษย์ จริงๆน่าจะมีบทสวดมนต์และคาถาอีกหลายคาถาเลยที่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ขอเชิญผู้สนใจได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มและเลือกใช้กันได้ตามศรัทธา 
         นี่เพียงยกตัวอย่างที่ตัวเองรู้จัก มีอยู่ หรือสวดเป็นประจำ 

         แต่สิ่งที่ต้องย้ำอีกครั้งก็คือ เรายึดสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคาถาเป็นที่พึ่งเพื่อหวังให้ท่านคุ้มครองให้เรามีชีวิตต่อไปได้ เราไม่ได้แนะนำให้เอาสิ่งศักดิ์ คาถา หรือบทสวดมนต์ต่างๆ ไปใช้เพื่อทำร้ายใคร 

         ทางพุทธมีสุภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า "ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม" ขณะเดียวกันก็สั่งสอนไว้ด้วยว่า "กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ" ถอดความได้คือ ต่อให้เราเป็นคนดี แต่หากเราเคยก่อกรรมทำให้คนอื่นเดือดเนื้อร้อนใจ เมื่อกรรมให้ผล เราเองก็ต้องโดนราวีไม่ว่าด้วยทางใดทางหนึ่ง 
         ต้องยอมรับและก้าวต่อไปให้ได้

         อย่าเข้าใจผิด บทความนี้มิได้บอกว่าให้ยอมศิโรราบไปทุกอย่าง หากแต่เราต้องไม่ตอบโต้ความชั่ว ด้วยความชั่ว ไม่เช่นนั้นจะเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันไม่สิ้นสุด
         อภัยได้ ก็อภัย(ยังไม่ได้//อุ๊บส์) อภัยไม่ได้ ก็หาทางเดินออกมาจากตรงนั้น หรือใช้วิธีตอบโต้อย่างชอบธรรม เช่น แจ้งผู้ใหญ่ ใช้กฎหมายบ้านเมืองจัดการต่อไป 

         อย่าให้ความเลวร้ายที่พบเจอพรากความดีความมีคุณธรรมจากเราไป หากกัดฟันทำดีไปเรื่อยๆแล้วไซร้ เมื่อกรรมดีให้ผล เราคงได้ไปอยู่ในที่ๆมีแต่คนดีๆได้ ในสักวัน(หวังด้วยคน//สาธุ) 


         หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย และขออวยพรให้คุณผู้อ่านมีความสุข และแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวงนะคะ

         สวัสดีค่ะ


         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่

         https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html

         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in