เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
N[wh]YCFAY
N[wh]YC : จุ่มทะเลแอตแลนติก ที่ Coney Island
  • ไหนๆก็ข้ามทวีปมาแล้ว ก็อยากจะไปลองดูน้ำทะเลซักครั้ง

    นั่นเป็นสาเหตุที่จู่ๆก็นึกอยากไปทะเลที่นิวยอร์กขึ้นมา ทั้งที่ปกติก็ไม่ใช่คนอินกับทะเลซักเท่าไหร่

    ก็เลย ลองเปิดแผนที่ดู ถ้าเอาแบบอยู่สุดขอบจริงๆคงเป็นที่ Rockaway Park แต่ดูแล้วน่าจะไปยาก ประกอบกับเจ้านายแนะนำว่าลองไปที่ Coney Island สิ มีสวนสนุกด้วยนะ มีรถไฟเหาะตีลังกาที่แรกของโลกอยู่ที่นั่นด้วย

    ประกอบกับเมื่อเช็คดูแล้ว ช่วงที่เราไป Coney Island เค้ามีงาน 2017 Ceremony พอดี ถือว่าจังหวะดีมากๆ 


    เราออกจากเซ็นทรัลพาร์กราวบ่ายโมง เดินผ่าน The Met เพื่อไป Dean&Deluca ที่เปรียบเสมือนเพื่อนยากประจำทริป นึกอะไรไม่ออกก็เข้า D&D ไว้ก่อน ไหนๆไม่ได้ปิคนิกที่เซ็นทรัลพาร์กแล้ว เราเปลี่ยนไปปิคนิกริมทะเลก็ได้ บรรยากาศมันต้องดีแน่ๆแกเอ๊ย 

    ว่าแล้วก็จัด Turkey wrap ที่ดีนมาชุดนึงกับกาแฟ และเค้ก red velvet ที่ชิ้นใหญ่มากกกก รอบนี้ท่องมาดีจ้า whole milk เท่านั้นที่เราต้องการ ระหว่างรอกาแฟก็มีป้าคนนึง เดินมากระแทกแก้วร้อนที่เคาเตอร์แล้วบอกว่าชั้นสั่งอเมริกาโน่นะ แต่นี่มันเอสเพรสโซ่!! โอ้โห ต่อมเผือกทำงาน (ปกติฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ถ้าเป็นงานเผือก ประสาทจะไวกว่าปกติ 5555555) 

    ก็รู้อยู่แล้วแหละว่าชาวอเมริกันเป็นผู้รักษาสิทธิ์ตัวเองอย่างยิ่งยวด แต่ไม่เคยเจอวีนแบบนี้ เลยค่อนข้างจะสนใจกับการแก้ปัญหาของร้านนิดนึง เราได้ยินว่าพนักงานบอกจะทำให้ใหม่ แต่ป้าแกพูดชัดถ้อยชัดคำว่า ชั้นไม่กินแล้ว ชั้นต้องการรีฟันด์! 

    (แต่เมื่อกี้ ป้าไปยืนจิบกาแฟมาแล้วนะ เราว่าป้าน่าจะจิบไปเยอะแล้วด้วยนะ -_-)

    พนักงานก็ยักไหล่แล้วบอกว่า โอเค้ รอเดี๋ยวนะ 

    นางก็ทำกาแฟให้เราไป ต๊อกแต๊กๆ

    ป้าก็ปรี๊ดมาอีก "ชั้น ต้อง การ รี ฟันด์!!" 

    โอเค หลู่เหลือง พนักงานอีกคนเชิญป้าไปรีฟันด์ที่เคาเตอร์ด้านหลัง พร้อมอธิบายว่ากำลังทำให้อยู่จ้า ใจเย็นๆน้าจ๊าาา ส่วนเราก็ได้กาแฟพอดี เลยอดเผือกต่อ ไม่รู้ว่าป้าจะแสดงอิทธิฤทธิ์อะไรอีก 

    อ้อ สิ่งที่ประทับใจใน Dean & Deluca ก็คือซื้อแซนวิชชิ้นนึง ให้ถุงกระดาษอย่างดีเชียว ถูกใจมั่ก 
    (ไม่เกี่ยวกับเรื่องป้าและรสชาติกาแฟแต่อย่างใด) 

    Caramel Macchiato ใส่ whole milk ได้กินสมใจอยาก แต่ยืนยันว่าเมืองไทยอร่อยกว่าเยอะ! 
  • การไป Coney Island ทำให้เรารู้ว่าสถานีรถไฟใต้ดินที่นิวยอร์กนั้นไม่ได้มีแต่เก่าเน่าเหม็นอย่างเดียวสถานีใหม่ๆเขาก็มีนะ อย่างวันนี้ เราเดินจาก D&D ไปขึ้นสายสีเหลืองที่สถานี 86st.(ฝั่ง east)  โอ้โห เป็นสถานีใหม่ไฮโซมาก ปกติแค่มีบันไดเลื่อนก็หรูแล้ว แต่สำหรับสถานีนี้ บันไดเลื่อนยาวมากกกกกก และสถานีก็ใหม่มากเช่นกัน เข้าใจเลยว่าที่เขาบอกว่าสถานีรถไฟนิวยอร์กนี่ ถ้าเก่าก็โคตรรรรรจะเก่า ถ้าใหม่ก็แบบ ใหม่ไปไหนวะ โคตรจะไม่เท่าเทียม อะไรคือความพอดี  


    เรามีแบบวีดีโอด้วย 




    ภายในสถานี 86St. กว้างมากจนรู้สึกไม่ชิน (ดีมากไปก็รู้สึกไม่ใช่นิวยอร์ก เอ๊ะ 5555) แต่รอรถนานมากแม่เอ๊ย จนคนแถวนั้นนางสบตาเราแล้วพูดขึ้นมาทำนองว่าทำไมรถมาช้าจัง เอ้อ ไม่รู้จ้า ไม่ใช่คนแถวนี้ ใครที่ไปเที่ยวนิวยอร์ก เราแนะนำให้โหลดแอพรถไฟมาดูเลย เพราะมันดีเลย์ได้ตลอดเวลา วิ่งๆอยู่ เอ้าจอดให้ไปต่อสายใหม่เฉย 

    (ส่วนวันนั้นมีเหตุที่สถานี Timesquare นิดหน่อย คือพบวัตถุต้องสงสัยเลยมีการปิดสถานีตรวจ) 

    ภายในสถานี 86st (ฝั่ง East) 
    Coney Island เป็นชายหาดอยู่ฝั่งบรูคลิน ใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที  พอรถไฟวิ่งไปถึงฝั่งบรูคลิน มันจะขึ้นมาวิ่งบนดินและลอยฟ้าเป็นบางจุด ก็เลยได้เห็นวิวข้างทางไปด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นเขตที่พักอาศัย ได้เห็นหมู่บ้านแบบฝรั่ง หน้าบ้านมีรถจอด รั้วเตี้ยๆแบบในหนังก็วันนี้แหละ ระหว่างทางก็มีคนทยอยลงไปเรื่อยๆ โบกี้ที่เรานั่งมีแค่เรา เอเชียหัวดำสองคน กับครอบครัวฝรั่งที่พาลูกสาววัยกำลังพูดมากมาด้วย จนเราเริ่มมองหน้ากันเองละ นี่มีแต่เราป่ะวะที่ไป Coney Island -_-'

    จนรถไฟเริ่มวิ่งช้าลง เมื่อใกล้ถึงสถานี Coney Island Stillwell Ave.

    เด็กน้อยจากโบกี้เดียวกันชี้ไปที่ชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พร้อมตะโกนโหวกเหวกอย่างตื่นเต้น

    "CONEY ISLAND!!!" 

    สี่แยกนาธาน 

  • Coney Island มีทั้งชายหาดและสวนสนุกชื่อ Luna Park และรถไฟเหาะตีลังกาชื่อ Cyclone ก็อยู่ในสวนสนุกนี้ด้วย อย่างแรก ลืมไปได้เลยกับการจิบน้ำมะพร้าวดื่มด่ำกับร้านซีฟู้ดริมทะเล เพราะที่นี่นั้น เค้ามากินฮอตด็อกต่างหากจ้า! ดังนั้นสิ่งแรกที่เราเห็นเมื่อออกจากสถานีก็คือร้าน Nathan's ใหญ่บึ้มตรงหัวมุมถนน อีกฝั่งเป็น It' sugar ขายขนมลูกอม มันเกี่ยวกับทะเลตรงไหนวะ ถาม 


    บรรยากาศที่นี่มีความเป็น graffiti หนักมาก ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ graffiti เต็มไปหมด สีสดจัดจ้านสมกับความเป็นทะเลและสวนสนุก รู้สึกแปลกดี สิ่งที่แปลกอีกอย่างคงเป็นเพราะว่าตอนนี้ยังไม่เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน เป็นการมาเที่ยวทะเลที่คนรอบข้างยังใส่เสื้อหนาวกันอยู่เลย อ้อ ที่เห็นว่าบนรถไฟแทบไม่มีคน แต่พอมาถึงแล้ว คนเยอะมากกกกกกกกก 70% เป็นคนจีน ยอมรับในหัวจิตหัวใจของพี่เขา เป็นชาติที่ไปได้ทั่วโลกจริงๆ 


    บรรยากาศที่บอร์ดวอร์ค

    Coney Island มีชายหาดที่ทอดยาวเกือบๆสามไมล์ มีทางเดินเลียบทะเลหรือที่เรียกว่า Boardwalk มีสวนสนุก อควาเรี่ยม คลื่นเป็นเกลียวเหมาะสำหรับการมาเล่นเซิร์ฟ และแน่นอน มีคนเยอะ จนถึงเยอะมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด 

    สิ่งแรกที่สัมผัสได้เมื่อไปถึงชายหาดคือลมแรงสัส...

    แรงยิ่งกว่าเปิดพัดลมโรงงานเบอร์ห้า หัวหูไม่ต้องพูดถึง ผมฟูเป็นเมดูซ่าตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบบอร์ดวอล์ค ความฝันที่จะปิคนิกชิลๆริมทะเล จงลืมมันไปได้เลย ประคองตัวไม่ให้ล้มได้ก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้ว 


    ลมแรงขนาดนกนางนวลยังบินเซ!

    และที่สำคัญ หนาวมาก! 
    (บอกเลยว่าเมื่อเช้ามันไม่หนาวเท่านี้ โชคดีที่ไม่ถอดเสื้อหนาวทิ้งไว้ที่ห้อง ถือว่ายังมีแต้มบุญ) 

    ทั้งลมทะเลและลมหนาวมันตีกันจนท้อไปหมด  ชายหาดแม่งก็ไม่รู้จะกว้างไปไหน นึกออกมะ ลมทะเลมันจะพัดเข้าหาฝั่ง ส่วนอินี่กำลังเดินลงไปทะเล มันก็สวนกันเซ่ ความรู้สึกเหมือนมีใครยันอกอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้เดินไปข้างหน้า กว่าจะเดินเอานิ้วไปจุ่มน้ำได้มันช่างยากเย็น นี่หรือทะเลแอตแลนติก เข้าใจแล้วว่าทำไมฝรั่งถึงชอบไปทะเลฝั่งเอเชีย บางแสนที่ว่าน้ำดำๆยังไม่ดำเท่าที่นี่เลย 

    แต่น้ำทะเลที่ไหนก็เค็มเหมือนกัน ผู้ชายกล่าวหลังจากที่นางจิ้มน้ำทะเลมาดูด 

    ชื่นชมทะเลจนพอใจแล้วก็ได้เวลากลับมาหาที่นั่งปิคนิก ซึ่ง...สุดท้ายก็กลายเป็นการกินแบบรีบๆ เพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย คือเราได้ที่นั่งแถวบอร์ดวอร์ค หันหน้าเข้าทะเล แต่ลมแม่งแรงมากจนรู้สึกว่าการอ้าปากกัดแซนวิชแต่ละทีกูต้องได้กินทรายเข้าไปด้วยแน่ๆ จนสุดท้ายต้องหันหลังให้ทะเล ไม่งั้นคงไม่ได้กิน อีกอย่าง ลมแรงมากจนแซนวิชแทบหลุดมือ นี่ไม่เวอร์ มันแรงเบอร์นั้นจริงๆ อยากให้ทุกคนได้ไปลอง

    อย่างที่บอกไปตอนต้นๆแล้วว่าคนที่มาเที่ยวที่นี่ เค้ามากินฮอตด็อก Nathan's กัน ร้านนี้เค้าเปิดมาตั้งแต่ 1916 เพิ่งฉลองครบร้อยปีไปไม่นาน คนเยอะมากกกกกกก เราไม่ชอบกินฮอตด็อก แต่เห็นคนต่อคิวยาวๆแล้วก็เหมือนโดนป้ายยา อยากลองอยู่เหมือนกันแต่ติดที่ว่าคิวยาวอีกนั่นแหละ (แล้วก็ไม่เข้าใจด้วยว่าสาขามีทั่วเมือง ทำม้ายยยย ต้องมากินร้านนี้) 

    เอาจริงๆร้านไหนคนก็เยอะหมดแหละ ความที่ร้านมันน้อย คนเยอะ กินอะไรก็ต้องรอคิว 


    **ร้าน Nathan's สาขา Coney Island คือสาขาแรก ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนถึงเยอะ ใครๆก็อยากมากินสาขาดั้งเดิมอะเนอะ 


  • ตั้งแต่เกิดมา เคยไปสวนสนุกแบบนับครั้งได้ 

    Coney Island นี่น่าจะเป็นครั้งที่สี่ ส่วนก่อนหน้านี้ไปดรีมเวิร์ล เมื่อราวๆ 10 กว่าปีที่แล้ว

    เกือบลืมไปละว่าสวนสนุกเป็นยังไง 


    ทางเข้าสวนสนุก เราว่ามันน่ากลัวนะ -_-

    สวนสนุกของ Coney Island ชื่อ Luna Park แบ่งเป็นโซนเด็กน้อยและฝั่งผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างจะผาดโผนกันหน่อยๆ สวนสนุกที่นี่ไม่เสียค่าเข้า แต่อยากเล่นอะไรก็ไปซื้อบัตรเอา เออ เหมือนงานกาชาดแฮะ รวมถึงพวกซุ้มปาโป่งตกปลานั่นก็ดูเหมือนงานกาชาดด้วย ในโซนของเด็ก 70% คืออาตี๋อาหมวยมาพร้อมกับป่าป๊าหม่าม้า แว้บแรกนึกว่ามาผิดประเทศ 

    โซนนี้ไม่อยากอยู่นาน เดี๋ยวร่างมารจะออก 

    เครื่องเล่นก็เด็กๆ ที่ชอบมากคือตกปลายักษ์ ของเล่นวัยเยาว์มาก เราเชื่อว่าหลายบ้านต้องมี 



    ส่วนอันนี้เหมือนเครื่องเล่นผู้ใหญ่เลย เราว่ามันก็สูงอยู่สำหรับเด็ก แต่นั่งกันนิ่งมาก 



    เมื่อเทียบกับดรีมเวิร์ลบ้านเรา Luna Park นี่เล็กกระจึ๋ง

    เดินข้ามรั้วมาก็เป็นโซนเครื่องเล่นผู้ใหญ่แล้ว เครื่องเล่นส่วนใหญ่ก็ออกแนวสวนสนุกทั่วไป แต่บางอย่างก็ดูหวาดเสียวหน่อย และแน่นอน ยังคงคอนเซปต์เกมส์ล่ารางวัล ปาโป่งปาเป้ายิงปืน มีครบหมด บ้านผีสิงก็มีนะ รถบั๊มก็มา งานวัดมากๆ 5555 

    ค่าเครื่องเล่นที่นี่จะจ่ายเป็นเครดิต คือต้องไปซื้อตั๋ว (card) หรือ wristband ก่อน จะไปเล่นอะไรก็หักเครดิตออกจากบัตรไป 1เครดิต = 1$ แต่ราคาของ wristband deal นี่หากเป็นวันธรรมดากับวันหยุดจะไม่เท่ากัน ราคา wristband deal จะเริ่มต้นที่ 29$ สำหรับคนที่สูงน้อยกว่า 48" หรือเด็กต่ำกว่า 120 cm นั่นเอง 

    ส่วนวันที่เราไป เป็น 2017 Ceremony คือการเปิดสวนสนุกวันแรกของปีอย่างเป็นทางการ (ที่นี่เค้าจะปิดหน้าหนาว) มีโปรโมชั่นสำหรับ 100 คนแรกด้วย แต่จำไม่ได้ละว่าเป็นโปรอะไร 



    ยิงม่อนมั๊ย 
    Soarin' Eagle ขึ้นไปบินอย่างเดียวจ้า  7เครดิต เบาๆ

    อันนี้เรียก Zenobio เป็นเหมือนเครนยกขึ้นแล้วแกว่งลงมา เป็นเครื่องเล่นที่อยู่ในกลุ่ม extreme มั่ก

    สนนราคาค่าเล่นแต่ละเครื่องเล่นก็ไม่เท่ากัน ถ้ากลุ่ม extreme หน่อยก็อยู่ที่ 10-12$ ถือว่าไม่แพงมาก ที่สำคัญมันแฟร์ตรงที่เราอยากเล่นอะไรก็จ่ายเท่านั้น ไม่ต้องซื้อบัตรรวมเครื่องเล่นไปต่อคิวแล้วไม่รู้ว่าจะได้เล่นเมื่อไหร่ 

    ไฮไลท์ของ Luna Park อยู่ที่เจ้ารถไฟเหาะตีลังกาที่ชื่อว่า Cyclone 

    เป็นรถไฟเหาะตีลังกา หรือ roller coaster ที่แรก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1927 โน่น ตัวรางยังเป็นไม้อยู่เลย และยังคงเปิดให้เล่นจนถึงตอนนี้ ขึ้นโบราณสถานแล้วด้วยนะ เอากะเค้าสิ ใครอยากลองวัตถุโบราณก็ขอเชิญที่นี่ได้ ใช้แค่ 10เครดิต หรือ 350 บาทเท่านั้นเอง 

    ความหวาดเสียว อยู่ในประเภท extreme ไม่รู้เค้านับจากรางที่อายุ 90 ปีถ้วนแล้วรึเปล่า 5555555


    ไม้รางยังอยู่ครบใช่มั๊ยคะ T.T 


    เราอำลา Luna Park มาพร้อมกับความคึกคักอยู่ในหัวใจ แม้ไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรซักอย่าง แต่บรรยากาศของสวนสนุกก็ยังคงเต็มไปด้วยความสุขจนอดที่จะสนุกไปด้วยไม่ได้ เราสองคนคุยกันแล้วก็พูดตรงกันว่า เออ ชอบว่ะ ถึงแม้น้ำจะดำ คนจีนจะล้งเล้ง แผนปิคนิกจะล่ม ที่นั่งจะไม่ค่อยมี ไม่มีอะไรเหมือนทะเลบ้านเราซักอย่าง แต่มันสนุกอ่ะ ถือว่าคุ้มค่ากับเกือบสองชั่วโมงที่ทนเมื่อยตูดถ่อมาถึงที่นี่ 

    ทุกๆที่ มันก็มีดีในแบบของมัน ว่ามั๊ย ?




  • #ภาคสาระ 

    Coney Island ไปยังไง
    สะดวกสุดๆคือนั่งรถไฟสาย D,F (สีส้ม) หรือ N,Q (สีเหลือง) มาลงที่สถานี Coney Stillwell Avenue ถึงแล้วก็เดินตามชาวบ้านเค้าไปเลย ไม่หลงแน่นอน 

    Luna Park 

    ไม่ได้เปิดทั้งปีนะ ที่นี่เค้าเปิดแค่เดือนเมษา - ตุลา เท่านั้น
    และ ไม่ได้เปิดทุกวันอีกต่างหาก เอ้อ เอากะเค้าสิ 
    ยกเว้นเดือน มิถุนา กรกฎา และสิงหาคม ที่เปิดทุกวัน 

    เช็คเวลาเปิดปิด (ซึ่งก็ไม่เท่ากันในแต่ละวัน) ได้ที่นี่จะชัวร์กว่าจ้ะ 


    นอกจากเดินเล่นที่บอร์ดวอล์ค เข้าสวนสนุก กินฮอตด็อกแล้ว Coney Island มีอควาเรี่ยมด้วยนะจ๊ะ
    แต่เราไม่ได้ไป ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://nyaquarium.com/

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in