เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I write what I want tothefirstofmine
Lost in June


  • "I write best when I am either falling in love or falling apart." 
    Rudy Francisco




    เพราะตัวอักษร เราไม่สามารถรับรู้ห้วงอารมณ์และความรู้สึกของอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าตัวอักษรนั้นจะถ่ายทอดออกมาให้เรารับรู้ว่าสิ่งที่เขาเขียนนั้นเป็นเรื่องที่มีความสุข โรแมนติก และน่าค้นหา แต่แท้จริงแล้วเขาอาจจะกำลังทุกข์ทรมานกับบางสิ่ง จึงเขียนเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพื่อปลอบประโลมตัวเอง หรืองานเขียนบางชิ้นที่ดูเศร้าหมอง ให้ความรู้สึกดำดิ่งลงไปในความทุกข์ นักเขียนคนนั้นอาจจะแค่เขียนในสิ่งที่เขาสนใจ แต่ความรู้สึกจริงๆ ของเขาอาจจะกำลังมีความสุขอยู่ก็เป็นได้


    ใดๆ ก็แล้วแต่ ผมเคยหลงรักผลงานเขียนของใครหลายๆ คน เฝ้าติดตามผลงานอย่างใกล้ชิด อ่านทุกอย่างที่เขาเขียนออกมา จนกระทั่งติดตามที่ตัวนักเขียนอย่างจริงจัง แต่แล้วนั่นก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผมคาดคิดเอาไว้ ผมรู้และเข้าใจอย่างดีว่าเราไม่ควรหลงรักนักเขียน อันที่จริงผมรู้ดีว่าเวลาที่ผมเริ่มที่จะสนใจในตัวใครบางคน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่หยิบเอาเรื่องราวน่ารักๆ ของเขามาบอกเล่าผ่านสำนวนของตัวเอง ผมเข้าใจดีว่าเมื่อไหร่ที่ความรู้สึกเหล่านั้นหมดไป วัตถุดิบในการเขียนของผมก็หมดไปด้วย อาจจะบอกได้ว่าใครคนนั้นเป็นเหมือนเชื้อเพลิงในการผลิตผลงานของผมก็ได้ ผมไม่ปฏิเสธ แต่ถ้าคุณผ่านมาเห็น ผมก็อยากจะบอกกับคุณว่าผมดีใจที่ได้พบกับคุณและได้บันทึกเรื่องราวที่เกี่ยวกับคุณเอาไว้เป็นตัวอักษร แม้ว่าในอนาคตอีกสิบปี ยี่สิบปี ผมอาจจะลืมเรื่องราวระหว่างเราไปแล้ว แต่ผมก็ยังสามารถจดจำได้เมื่อได้กลับมาอ่านงานเขียนของผมอีกครั้งหนึ่ง


    เอาเข้าจริงๆ แล้ว ผมรู้ตัวดีและรู้เสมอว่าการตกหลุมรักงานเขียนนั้นไม่เท่ากับการตกหลุมรักผู้เขียนผลงานเหล่านั้นออกมา เพราะสิ่งที่เขาเขียนไม่ใช่สิ่งที่ตัวเขาเป็น มันคือการกลั่นกรองออกมา ผ่านทางสมอง สองมือ และการเรียบเรียงคำพูดในสำนวนของตัวเอง และบางครั้งเขาอาจจะโปรยเสน่ห์ของตนเองผ่านทางงานเขียนโดยไม่รู้ตัวจนอาจทำให้ใครหลายๆ คนตกหลุมรักเขาก็เป็นได้ 


    ผมเป็นคนหนึ่งที่ตกหลุมรักคนผ่านตัวอักษรได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นถ้อยคำการสนทนา หรือข้อความลอยๆ ของเขาก็ตาม บางครั้งผมทำได้แค่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ และเป็นกำลังใจให้ได้เท่านั้น และเมื่อผมรู้สึกบางอย่าง ผมเริ่มมองหากระดาษและปากกา คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อบันทึกความรู้สึกเหล่านั้นลงไป เหมือนในขณะนี้ ที่ผมกำลังบันทึกเรื่องราวที่ผมคิดว่ามันน่าขันสิ้นดี รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ควรทำ ไม่ควรตกหลุมรักนักเขียนผู้พร่ำพรรณาและกลั่นกรองคำพูดเพื่อคัดสรรสิ่งที่ตรึงใจผู้อ่าน แต่ผมก็ยอมรับโดยดุษณีว่าผมเองก็ได้ตกหลุมรักเขาผ่านถ้อยคำเหล่านั้นไปแล้ว และเมื่อผมได้เฝ้ามองคุณผ่านตัวอักษร เฝ้ามองความเจ็บปวดของคุณ แม้ว่างานเขียนของคุณช่างสวยงาม สดใส แต่การที่ได้เห็นว่าคุณกำลังทรมานกับบางสิ่งอยู่ มันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตเรามันคือความสุขปนเศร้าที่คุณกำลังเสียใจและผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับคุณ แต่ก็นั่นแหละผมจะไปทำอะไรได้ นอกเสียจากการบันทึกเรื่องราวของผมในค่ำคืนนี้


    ผมเคยคาดหวังกับตัวเองว่าสักวันหนึ่งจะไม่ตกหลุมรักกับใครสักคนอย่างง่ายดาย แม้เพียงผ่านตัวอักษรหรือการสนทนาเพียงชั่วครู่ แต่ผมมาตระหนักได้ว่า ความรักมันไม่เลือกช่วงเวลาและโอกาส มันมักจะผ่านเข้ามาให้รู้สึก แล้วบางครั้งก็จางหายไปจนแทบจับสัมผัสไม่ได้ ถึงกระนั้น มันก็คือความรู้สึกหนึ่งที่ทำให้ใครสักคน (อย่างเช่นผม) รู้สึกและเข้าใจมัน


    อันที่จริงผมเคยตกหลุมรักนักเขียนมาบ้างแล้ว และมันก็จบไม่เคยสวยสักครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้น มันก็เลยกลายเป็นความคิดของผมที่คิดว่ามันอาจจะเป็นเพียงความรู้สึกชั่วครู่ก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่อยากเห็นคุณเสียใจอยู่ดี


    ผมอยากเห็นคุณยิ้มออก แม้ว่าผมจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มของคุณก็ตาม





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in