เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I write what I want tothefirstofmine
Christmas has come
  •  




    1
    เมื่อลมหนาวมาเยือน ผมเองก็รู้แล้วว่า จะต้องมีคนๆ หนึ่งที่ผมรู้จัก มีความสุขมากๆ อย่างแน่นอน เพราะเธอรักอากาศหนาว รักความหนาวเย็น และรักเทศกาลที่มากับมัน บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกถึงฤดูนี้คงจะเป็นบรรยากาศของช่วงคริสต์มาส ที่หลายๆ ที่ประดับประดาเหล่าต้นไม้ และจัดของประดับมากมาย ทั้งหมีขาว กล่องของขวัญ ลูกบอลกลม หรือสายรุ้งประดับ

    ผมเคยถามเธอว่าไม่จัดห้องเหมือนใครเขาบ้างหรอ แต่เธอปฏิเสธ เธอบอกว่าเธอชอบที่ได้ไปเดินดูสถานที่ต่างๆ มากกว่า เธอเป็นคนที่พาให้ผมกลับมารักฤดูหนาวอีกครั้ง หลายๆ ครั้งที่เธอเล่าให้ผมฟังถึงสถานที่ที่ประดับ และตกแต่งเพื่อให้เข้ากับเทศกาลนั้นสวยขนาดไหน แถมปีนี้สีทองแดงก็เต็มไปหมด ถ้าเปิดไฟสีส้มๆ ในห้องสีขาวที่เต็มไปด้วยของตกแต่ง มันคงน่ารักน่าดู 

    "คริสต์มาสนี้ไปไหนรึเปล่า" ผมถามขึ้น เหมือนทุกครั้ง 

    "ไม่รู้สิ ยังไม่มีแพลนเลย" เธอตอบ "ขี้เกียจคิดน่ะ เจอที่ไหนน่าเดินก็ไปทั้งนั้นแหละ"

    "ลองไปที่นี่มั้ยล่ะ เห็นว่าเพิ่งเปิด แล้วก็สวยด้วยนะ บรรยากาศดี ไม่ไกลด้วย" ผมบอกสถานที่กับเธอไป ดูท่าว่าเธอจะสนใจไม่น้อย "เหมือนว่าเปิดจัดงานคริสต์มาสถึงปีหน้าเชียวนะ"

    "ลากยาวถึงปีใหม่ไปด้วยงั้นหรอ"

    "คิดว่าใช่"

    "เป็นสตาฟงานนี้รึเปล่าเนี่ย เชียร์จังเลย"

    "บ้าน่า ถ้าเป็นสตาฟเองก็เอาบัตรเชิญมาให้เธอได้แล้วสิ"

    "ต้องมีบัตรเชิญด้วยหรอ"

    "แค่งานเปิดเท่านั้นน่ะ"

    "แล้วไป"

    "จะไปรึเปล่า"

    "ขอคิดดูก่อนนะ ไว้จะบอก"

    "อื้อ"

    สถานที่นั่นผมเคยไปมาก่อนที่จะจัดงานเทศกาล ที่นั่นบรรยากาศร่มรื่น อบอุ่น เป็นกันเอง ต้นไม้เยอะด้วย อีกทั้งไม่มีเสียงรถวุ่นวาย แม้แถวนั้นจะเป็นจุดที่รถค่อนข้างติดเอามาก ผมรักที่นั่น แต่จนถึงตอนนี้ ผมเองก็ไม่ได้ไปมาเกือบสี่ปีได้แล้ว

    "เธอจะไปรึเปล่า"

    "ไปสิ"

    "งั้นวันที่ 23 ไปกัน"

    "หืม ว่าไงนะ"

    "ก็ชวนไปงานไง วันที่ 23 เดือนนี้"

    "วันอะไรน่ะ" ผมถาม แต่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดปฏิทินเองเช่นกัน "วันเสาร์หรอ เอาสิ"

    "โอเค อย่าเลทนะ"

    "เธอก็อย่าหลงล่ะ"

    เธอเป็นคนที่หลงทางเก่งเอามากๆ อันที่จริงเธอไม่ค่อยชอบเดินทางไกลๆ เว้นเสียแต่ว่าจะมีอีเวนต์ดีๆ หรือสถานที่น่าสนใจให้ไป ผมเลยต้องกำชับเธอเอาไว้ และส่งรายละเอียดการเดินทางอย่างละเอียดให้กับเธอ ก่อนที่ผมจะต้องงมทางเพื่อไปหาจุดที่เธอหลงแล้วเดินทางไปพร้อมกัน






    2
    "เธอ ถึงรึยัง"

    "ถึงแล้ว เธอล่ะ"

    "คือเราไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน" เธอโทรหาผมเพื่อบอกว่าตัวเองหลงทาง เรื่องนี้น่าจะแก้ยาก เพราะต่อให้บอกละเอียดแค่ไหน ถ้าไม่ได้ไปพร้อมกัน เธอก็หลงอยู่ตลอดเวลา แต่โชคดีที่ผมเคยมาที่นี่บ่อย จึงพอจะคุ้นชินกับเส้นทางบ้าง ผมเดินออกไปรับเธอ และในที่สุดก็ถึงสถานที่นั้น

    "ถ้ามันจะอยู่ใกล้แค่นี้น่ะนะ" เธอบ่นขึ้นมาหลังจากที่เรามาถึง

    "ก็ถ้าไม่ฟังเพลงเพลินก็ไม่เดินเลยหรอกน่า" ผมแหย่เธอ ไม่นานผมก็โดนเธอตีเข้าที่แขนอย่างจัง เรื่องนี้ก็สอนให้รู้ว่าผมไม่ควรแหย่คนที่เพิ่งหลงทางและเดินเลย ไม่เช่นนั้นจะโดนตีอย่างนี้

    บรรยากาศในช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษ ผมเห็นเด็กๆ เดินถือของขวัญเข้าออกกันเต็มไปหมด วัยรุ่นก็พากันมาถ่ายรูป ผมได้ยินเสียงเพลง เมื่อหันกลับไปดู ก็พบว่าที่นี่มีเล่นดนตรีสดคลอ สร้างสีสันให้อย่างมาก แสงไฟที่ประดับระโยงระยางเหนือขึ้นไปประมาณเมตรกว่าๆ ได้ ที่นี่ไม่มีต้นคริสต์มาสใหญ่ๆ แต่กลับเป็นต้นไม้ต้นใหญ่ที่สุด ที่กลายเป็นต้นคริสต์มาสแทน เด็กๆ หอบกล่องของขวัญที่เตรียมมาไว้ใต้ต้นไม้นั่น พร้อมแปะเลขที่ได้เอาไว้ ผมคิดว่านั่นน่าจะเป็นกิจกรรมจับฉลากอย่างแน่นอน

    "นี่ ที่นี่มีคาเฟ่ให้นั่งรึเปล่า"

    "มีสิ อยู่ด้านหลัง"

    "อยากกินกาแฟแล้ว"

    "กินกาแฟตอนเย็นแบบนี้ไม่กลัวตาค้างรึไง"

    "ยังไงพรุ่งนี้ก็หยุดแหละน่า"

    "อะ ตามมาๆ"

    เราเดินไปด้านหลังด้วยกัน ที่นี่มีคาเฟ่เล็กๆ ซุกซ่อนอยู่ ร้านสีขาว ด้านในตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีฟ้า สลับกับขาว เคาท์เตอร์สั่งเครื่องดื่มอยู่ไม่ไกลจากประตูเท่าไหร่ และมีขนมอบใหม่วางขายอยู่เช่นกัน ภายในร้านเปิดเพลงคริสต์มาสคลอ ไม่เบาจนเกินไป และไม่ดังจนเสียสมาธิ

    เธอเปลี่ยนไปสั่งชาเขียวเย็นหวานน้อย ส่วนผมก็เป็นโกโก้หวานน้อย ที่ร้านนี้มีตกแต่งแก้วเครื่องดื่มให้เข้ากับเทศกาลด้วยเช่นกัน เธอเล่าถึงสถานที่ต่างๆ ที่เธอไปเยือนงานคริสต์มาสตั้งแต่วัยเด็กจนถึงตอนนี้ บางแห่งจัดเล็กๆ มีกระต๊อบให้นั่งเล่น หรือคาเฟ่บางที่ที่มีสวนก็เปิดเพลงคลอ เธอรักบรรยากาศคริสต์มาสกว่าใครที่ผมรู้จัก และผมก็นั่งฟังเรื่องราวนั้นได้อย่างไม่รู้เบื่อ 

    ผมได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง รอยยิ้มที่มีความสุขของเธอ ผมจำไม่ได้ว่าได้เห็นรอยยิ้มที่ยิ้มกว้างขนาดนี้ล่าสุดเมื่อไหร่ รู้แค่ว่าปีสองปีมานี้ เธอไม่ค่อยยิ้มอย่างมีความสุขมากๆ เท่าไหร่ รวมไปถึงในช่วงคริสต์มาส ช่วงเวลาที่เธอรักมากที่สุด แต่เธอกลับเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ออกไปไหนมาไหนเลย ยกเว้นในปีนี้ ที่ผมชวนเธอออกมาได้สำเร็จ ผมอยากให้เธอรู้ว่าผมดีใจที่ได้ชวนเธอออกมาที่นี่ แม้เธอจะหลงทางก็เถอะ




    3
    เรามีนัดกันที่ร้านหนังสือไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านของเธอ ที่ร้านหนังสือแห่งนี้มีคาเฟ่ให้นั่งเล่นที่เพิ่งเปิดใหม่ เธอเลยอยากชวนผมให้ออกมานั่งเล่นและเลือกหนังสือกับเธอ

    "นี่" จู่ๆ เธอก็เรียกผมขึ้นมาหลังจากที่เราเดินเลือกหนังสือกันอยู่

    "หืม"

    "ขอบคุณนะที่ชวนไปงานวันนั้น"

    "เมื่อวานซืนน่ะหรอ"

    "อื้อ"

    "ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา คริสต์มาสที่ไม่มีรอยยิ้มของเธอ ก็ดูไม่เป็นคริสต์มาสเท่าไหร่นี่"

    "ก็เลยเรียกให้ฉันไปเติมเต็มคริสต์มาสให้นายน่ะหรอ"

    "ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นนะ"

    "หรอๆๆ ฮ่าๆๆ" กว่าผมจะรู้ตัวว่าโดนแกล้งก็เป็นตอนที่เธอหัวเราะใส่ผม แล้วทิ้งให้ผมยืนงงอยู่ตรงนั้นสักพักใหญ่ๆ "นี่ ทำไมครั้งนี้นายถึงชวนฉันมางานคริสต์มาสล่ะ" เธอเปรยขึ้นหลังจากเดินไปสั่งเครื่องดื่มในคาเฟ่มานั่งดื่มเรียบร้อยพร้อมกับหนังสือเล่มจิ๋วขนาดพอดีมือที่เพิ่งซื้อจากร้านหนังสือนั้น

    "ก็อย่างที่บอกไปไง เธอกับคริสต์มาส เป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีชะมัด"

    "แม้ว่าปีก่อนกับสองปีก่อนฉันจะปฏิเสธการไปไหนมาไหนในช่วงคริสต์มาสน่ะหรอ"

    "อื้อ แค่ได้เห็นว่าเธอออกมาช่วงคริสต์มาสได้เหมือนเมื่อก่อนก็ดีใจแล้ว"

    "นี่นายเป็นคนเดียวเลยนะที่ไม่ถามเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่ออกไปไหนมาไหนในช่วงคริสต์มาส"

    "ฉันรู้ว่าคนเราต่างก็ต้องมีเรื่องที่ไม่อยากพูดทั้งนั้นแหละ" ผมตอบ "แม้ว่าบางครั้งสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ทำร้ายเราในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ก็อยากเก็บไว้คนเดียว"

    "ก็จริง"

    "รีบดื่มชาเขียวเถอะ เดี๋ยวมันจะชืดหมด"

    "จ้าๆๆ"




    4
    อันที่จริงผมก็พอรู้มาบ้างว่าทำไมเธอถึงไม่อยากออกไปไหนในช่วงคริสต์มาสตลอดสองปีที่ผ่านมา แต่ผมไม่อยากถามเธอ ไม่อยากที่จะให้มันมาตอกย้ำเธอไปมากกว่านี้ มันคงน่าเศร้า ถ้าเทศกาลที่ตัวเองรัก ต้องกลายมาเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง 

    มันอาจจะไม่ต่างกับผมเท่าไหร่ ที่ผมไม่ได้ไปยังสถานที่จัดงานคริสต์มาสที่นั่น ที่เธอหลงทางระหว่างมา อย่างที่รู้คือผมเคยไปที่นั่นอยู่บ่อยๆ ไปทุกเทศกาลเลยก็ว่าได้ อาจจะเรียกได้ว่าที่นั่นเป็นที่พักใจของผมตั้งแต่สมัยเด็กๆ แต่ที่ผมไม่ได้ไปมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ก็เพราะว่านั่นเป็นหนึ่งในความผูกพันของผมที่มีบางอย่างทำให้ผมรู้สึกเศร้า และทำให้ผมคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่ไม่ดี มันย้อนกลับมาทำให้ผมรู้สึกแย่

    แต่ที่ผมกลับไปที่นั่นอีกครั้งในช่วงคริสต์มาสปีนี้ เป็นเพราะผมอยากที่จะเผชิญหน้ากับสถานที่นั้น และเปิดรับความสุขให้กับตัวเอง และผมหวังว่าเธอจะเปิดรับมันด้วยเช่นกัน ผมอาจดูเห็นแก่ตัวที่ใช้เธอเป็นเครื่องมือในการที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขกับสถานที่นั้นอีกครั้ง แต่ผมก็คิดว่า การเปิดใจรับสิ่งที่มีความสุขของตัวเอง ในสถานที่นั้น ผมเองก็อยากที่จะมีเพื่อนเคียงข้าง ในวันที่ผมไม่กล้าเผชิญหน้ากับมัน

    เมื่อผมไปถึงที่นั่น ผมก็รู้สึกว่า ความทรงจำอันเลวร้ายมันไม่ได้ปรากฏตัวออกมาให้ผมเห็น แต่สิ่งที่ผมพบคือความสุข และบรรยากาศเดิมๆ ในความทรงจำของผมย้อนกลับคืนมา ผมได้ยิ้มกับสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง และมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ผมหวังว่าเธอจะมีความสุขที่ได้ออกมารับบรรยากาศคริสต์มาสแบบนี้อีกครั้งหนึ่งด้วยเช่นกัน เหมือนกับผม

    เมื่อก่อน ก่อนที่เธอจะหายตัวไปในช่วงคริสต์มาส และก่อนหน้าที่เราต่างคนต่างที่จะไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง เราไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ด้วยกันบ่อยมาก ไปเกือบทุกที่ที่มีจัดในเมืองนี้ ผมถึงอยากที่จะได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของกันและกันอีกครั้ง 

    ไม่รู้สิ ผมคิดว่าคริสต์มาสที่ไม่มีเธอ มันเหงาจะตาย ใครก็มาแทนตรงนี้ไม่ได้หรอก



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in