เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อวันที่ข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า (Depression Diary)Tongg Pongsathorn
ซึมเศร้า Diary (7) ดาวน์
  • เมื่อทุกอย่างกำลังเข้าสู่การปรับตัว แต่ก็มีบางอย่างเหมือนจะปรับไปอีกทางเช่นกัน

    24 ตุลาคม 2560 กลางคืนเราเริ่มกลับมามีอาการหลับๆตื่นๆ กลางวันเราเอาแต่นั่งเฉยๆ  แล้วพอบ่ายก็เอนนอนหลับแบบค่อยๆหลับ ตื่นขึ้นมาช่วงเย็นไม่มีอะไรที่เราอยากกิน ไม่อยากคุยกับใคร ทุกอย่างน่าเบื่อ เราเดินขึ้นมาเปิดแอร์ที่ห้อง แอร์เราเสีย!! เชื่อไหมเราไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เรานึกไม่ออก เรานึกเสียใจที่แอร์มันเสีย มันไม่เย็นแล้ว จนเรารู้สึกแย่มากๆๆทั้งๆเป็นแค่เรื่องที่แอร์เสีย ซึ่งแอร์ก็เก่ามากเกินกว่าที่จะเสียดาย เราไม่รู้ว่าควรจะซ่อมมันหรือจะซื้อใหม่ คำถามเกิดในหัวเรามากมาย ถ้าจะซ่อม ซ่อมเท่าไหร่ จะโทรติดต่อที่ไหน จะคุ้มไหม จะมีเวลาดูไหม ถ้าซื้อใหม่ต้องซื้อขนาดเท่าไหร่ จะดีไหม เราตัดสินใจเองไม่ได้ เรารู้สึกแย่จึงโทรไปปรึกษาแฟน แฟนเราบอกว่าเดี๋ยวค่อยไปเลือกดูด้วยกัน หลังจากวางสาย เราน้ำตาไหลออกมาเอง เสียใจที่คิดแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ รู้สึกไร้ความสามารถมาก

    25 ตุลาคม 2560 เรายังหลับๆตื่นๆทั้งที่กินยาก่อนนอนแล้ว เรายังรู้สึกน้อยใจเรื่องคืนก่อนอยู่ คิดจะขอยานอนหลับจากหมอครั้งหน้าเยอะๆเพื่อมากินทีเดียว เราเหนื่อยมาก ตอนกลางวันเราเอาแต่คิดว่ามีวิธีไหนที่ไปจากโลกนี้ได้บ้าง เราคิดจะเดินข้ามถนนให้รถเดินชน กินยาเกินขนาด กินยาฆ่าแมลง โดดน้ำที่คลองประปา แต่ก็ได้แค่คิดเอาไว้ในใจ ช่วงเย็นเราไฮเปอร์เล็กน้อยอยากอ่านนู่นอ่านนี่บนเว็บ

    26 ตุลาคม - 30 พฤศจิกายน 2560
    เป็นช่วงที่อาการเราคงที่ ไอ้การคงที่ของเราคือ ยาคลายเครียดที่หมอให้มากินก่อนนอนดันหมด กลางคืนเราเลยหลับๆตื่นๆตลอดเวลา ในที่นี้คือตื่นนอนทุกชั่วโมงหรือเว้นชั่วโมงทุกคืน ช่วงเช้า - กลางวันจะง่วงมาก เราคิดงานไม่ได้เลยในช่วงเช้า ต้องหาอะไรทำแทนสลับกับตอนบ่ายเพื่อให้ตอนเช้าเราใช้สมองน้อยลง เราปวดหัวตลอดเวลาที่ตื่น ทั้งตอนขึ้นรถเมล์ไปทำงาน ตอนนั่งทำงาน นั่งรถเมล์กลับบ้าน เรามีอาการเวียนหัวคล้ายจะเป็นลม ปวดหัว และคลื่นไส้ตลอดเวลา จนต้องพกยาดมไว้ตลอด หลังช่วงเย็นก็จะมีอาการปวดหัวแม้ว่าจะนอนอยู่เฉยๆ เราคิดจะไปหาหมอก่อนวันนัด เพราะเริ่มทนกับอาการไม่ไหว

    1-2 พฤศจิกายน 2560
    อยู่ๆอาการเราก็เริ่มดีขึ้น เวียนหัวน้อยลง กินข้าวได้มากขึ้น แต่เรื่องการคิดเรื่องต่างๆยังช้าเหมือนเดิม และกลางคืนเราก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม ซึ่งวันต่อมาเราต้องไปพบหมอเพื่อติดตามผลการรักษา

    //โดยรวมๆอาการทางกายเราก็ดีขึ้นก่อนไปหาหมอ อารมณ์ก็ถือว่าอยู่ในเกณท์ที่ดีขึ้นมีหงุดหงิดกับเรื่องที่ไม่ชอบใจบ้าง แต่เราหงุดหงิดกับลูกน้อยลงมาก เท่าที่จำได้มีดุเรื่องที่ลูกจำไม่ได้ว่าเอาของเล่นไปวางไว้ที่ไหนแล้วงอแง แค่นั้น

    //ตอนต่อไปตั้งชื่อตอนเลยละกัน Depression Diary (8) ความสับสน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in