เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อวันที่ข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า (Depression Diary)Tongg Pongsathorn
ซึมเศร้า Diary (6) เริ่มต้นนับหนึ่ง(มั้ง)
  • เราจะเล่าเท่าที่เราจำเหตุการณ์ได้ ซึ่งมันอาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ถ้าไม่ได้ลำบากอะไรเราอยากให้ทุกคนคอมเม้นต์ว่ารู้สึกยังไงนะ เพราะเราไม่ได้สนใจยอดวิวหรอก เราแค่อยากรู้ว่ามีความคิดของแต่ละคนเป็นยังไง แล้วก็ขอบอกอีกครั้งว่ามันไม่ใช่เรื่องแต่ง ไม่ฟิค คิดอะไรได้เราก็พิมพ์ ฉะนั้นถ้าไม่ถูกใจจะไม่อ่านหรือจะคอมเม้นต์ด่าก็ได้ เรายินดีรับ ถึงไหนแล้ว..

    20 ตุลาคม 2560 เรายังหลับสบายดีเนื่องจากฤิทธิ์ของยาคลายเครียดก่อนนอน แต่ก็ได้ถึงกับหลับสนิทลึกมาก แต่ก็นอนได้มากขึ้น แต่เมื่อเราลืมตาตื่นเรามักจะมองขึ้นไปที่เพดาน (แต่ไม่ได้รู้สึกจมน้ำเหมือนในซีรีย์นะ) แล้วก็คิดว่าเช้าอีกแล้วเหรอ ไม่ตื่นได้ไหม ลุกไม่ไหวเลย ไม่มีใครยื่นมือมาฉุดเราขึ้นมาเหมือนบูในซีรี่ย์ตอนจบ ข้างเรามีแค่ลูกสาวที่นอนอยู่ สิ่งที่เราทำเมื่อลุกขึ้นไม่ไหว คือกลิ้งมันตกเตียงลงมาซะจะได้ตื่น เราถึงลุกขึ้นมาอาบน้ำ แล้วก็ปลุกลูกอาบน้ำ แต่งตัว ไปส่งที่โรงเรียน พอส่งเสร็จเราก็นั่งรถต่อไปถึงที่ทำงาน จริงๆวันนั้นเรามีอารมณ์ขุ่นเคืองนิดหน่อย แถมยังต้องมารับโทรศัพท์ทั้งๆที่ไม่อยากจะรับ แต่เราก็รับแล้วแก้ปัญหาให้เขานะ เราโดนหัวหน้าต่อว่าในเรื่องไม่เป็นเรื่องและถามคำถามไร้สาระ แถมที่มีปัญหาก็ไม่ใช่เพราะจากเราแต่เป็นปัญหาจากหน่วยงานอื่น แต่เราดันรู้สึกเฉยๆ ช่วงเย็นเรารู้สึก Alert พูดมาก เรารู้ตัวนะแต่ก็พูดไปเรื่อยๆ ระหว่างวันก็เหมือนมีความรู้าึกมีตัวตนอีกคนพยายามออกมา อย่างเช่นเรานั่งพิมพ์งานอยู่ก็เหมือนจะมีตัวเราหันไปอีกทาง เป็นแวบๆช่วงๆไป กลับมาถึงบ้านทีนี้ปรี๊ดแตกเพราะที่บ้านอยู่ๆเปลี่ยนปั๊มน้ำ แต่น้ำดันไม่แรง เราถึงบ้านสามทุ่มต้องมาเดินเข้าเดินออกหน้าบ้านเพื่อปรับวาวล์น้ำ ทั้งๆที่ทุกคนก็อยู่ที่บ้านแต่ไม่มีใครจะช่วยอะไรเลย (ตัดพ่อ แม่ น้องสาว ลูกสาวออกนะ) คนที่อยู่และน่าจะช่วยคือแฟนน้องเรา เราคิดอย่างนั้นตอนนั้น แต่ตอนนี้ก็คิดไปว่ามันคงไม่กล้าเพราะไม่ใช่บ้านของมัน เราพาลใส่ลูกเล็กน้อยเพราะความเหนื่อยโดยเร่งให้ลูกอาบน้ำเร็วๆแล้วรีบเข้านอน

    21-22 ตุลาคม 2560 เป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์
    กลางคืนก็หลับดี ช่วงเช้าก็ใช้ชีวิตตามปกติ เล่นกับลูกบ้าง แต่พอบ่ายเท่านั้นแหละจ้า หลับเป็นตาย มันง่วงจริงๆนะ ลูกสาวมากวนแค่ไหนก็แค่ลืมตามาดูแล้วหลับต่อ เราง่วงแบบไม่มีแรงที่จะทำอะไรเลย นอนได้ตั้งแต่บ่ายโมงถึงหกโมงเย็น จนผ่านมาถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นวันปิยมหาราช เราเริ่มผิดปกติ เพราะเรากินยาแล้วตื่นสายมากขึ้นโดยวันนี้เราตื่น 09.30 น. แถมเป็นวันที่เราไม่อยากทำอะไร ปล่อยวางเรื่องงานที่ค้างในหัว และปล่อยให้ลูกเล่นไปในสิ่งที่เขาต้องการ

    ทั้งหมดนี่คือช่วงแรกหลังจากได้กินยา เพราะเดี๋ยวมันจะมีช่วงที่สองต่ออีกขอพักไว้ก่อน อาการหลังจากกินยาต้านเศร้า ช่วงแรกๆจะมาอาการคลื่นไส้ เวียนหัว เป็นช่วงของการปรับตัวกับยา ตรงนี้ของเราใช้เวลาปรับตัวประมาณสองอาทิตย์ ฤิทธิ์ของยาจะทำให้เราคิดอะไรน้อยลงไม่ฟุ้งเฟ้อ สำหรับเรามันก็ช่วยได้เยอะที่ไม่ต้องไปคิดเรื่องคนอื่น ช่วงเย็นอาจมีการตื่นตัวอยากทำนู่นทำนี่ พูดมากเวียนหัวเหมือนจะเป็นลมบ้างจนเราต้องพกยาดมตลอดเวลาตอนนี้ ส่วนยาคลายเครียดที่หมอให้เนื่องจากเราเป็นคนนอนหลับยาก จริงๆหมอถามแล้วแหละว่าคิดอะไรแต่เรามั่นใจว่าเราไม่ได้คิด ตัวยาก็เหมือนจะไปกดความคิดไม่ให้เกิดเพื่อที่เราจะได้นอนหลับได้ปกติ

    //พอแค่นี้ก่อน หวังว่าคงไม่เบื่อและรำคาญกันนะครับ ขอบคุณที่เสียเวลาเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ ดูแลตัวเองกันด้วยนะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ เข้มแข็งไว้นะครับ พบหมอ และทานยาอย่างต่อเนื่องตามคำวินิจฉัยของหมอ #จากคนที่ก็รักษาตัวอยู่เหมือนกันครับ
Tongg Pongsathorn (@fb7680464166083)
@ozahir1991 ขอบคุณครับที่อดทนอ่าน
@fb7680464166083 อ๋อ ไม่ได้อดทนอ่านหรอกครับ อ่านอย่างตั้งใจและทำความเข้าใจไปด้วยครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ #วันนี้ก็เพิ่งไปหาหมอรับยาชุดใหม่มาเหมือนกันครับ

ป.ล. การออกกำลังกาย เช่น การวิ่งสักวันละ 40 นาทีก็ช่วยได้นะครับ หรือจะเป็นการออกกำลังกายรูปแบบอื่นก็ได้เช่นกันครับ :)