เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อวันที่ข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า (Depression Diary)Tongg Pongsathorn
ซึมเศร้า Diary (18) Admit : 2
  • เนื่องจากโรงพยาบาลไม่ได้มีหมอจิตเวชโดยตรง หมอจึงคิดจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่รักษาโดยตรงทางจิตเวช หรือโรงพยาบาลหลังคาแดง กับโรงพยาบาลที่รักษาเราอยู่แล้ว แต่เบื้องต้นทั้งสองโรงพยาบาลไม่สามารถรับแอดมิดได้เพราะเตียงเต็ม อีกทั้งโรงพยาบาลหลังคาแดงขอดูผลเลือดเราก่อนเนื่องจากโรงพยาบาลไม่สามารถตรวจผลเลือดได้ หากจะส่งตัวไปต้องมีอาการเป็นปกติเสียก่อน เราจึงถูกวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลาด้วย เนื่องจากอัตราการเต้นของหัวใจต่ำใน 2-3 วันแรก เราขอให้พี่ที่ทำงานเลื่อนวันนัดโรงพยาบาลที่เรารักษาอยู่ให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาต่อ สรุปนัดได้วันที่ 29 ต.ค. 2561 เราคิดว่าหมอจะปล่อยเรากลับบ้านเพื่อรอไปหาหมอที่โรงพยาบาลที่ต้องการ แต่ไม่! หมอให้นอนจนกว่าจะถึงวันที่โรงพยาบาลที่เราต้องการจะไปถึงวันนั้น สรุปเราแอดมิดรวมไป 5 วัน

    อย่างที่บอกว่านี่ไม่ใช่โรงพยาบาลที่มีหมอจิตเวช (แต่มีหมอจิตวิทยานะ) เราต้องไปนอนรวมกับห้องที่มีผู้ป่วยสูงอายุซึ่งป่วยต่างกันไป แค่วันแรกเราก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแล้วกับสายที่มาแปะตามตัว สายน้ำเกลือ ท่อต่อเสมหะกับรูจมูก และถุงใส่เสมหะ ปัญหาอย่างแรกที่เกิดขึ้นมาคือการปวดปัสสาวะ โดยโรงพยาบาลจะให้ปัสสาวะใส่คอมฟอร์ตร้อย แล้วจดบันทึกว่าเท่าไหร่ กี่ครั้ง ถ่ายกี่ครั้ง ซึ่งเราไม่ถนัดทำบนเตียง สุดท้ายก็ต้องยืนทำแล้วทุกสายก็จะโดนดึงเข้ามา บางทีก็หลุดจำต้องแปะใหม่ไม่งั้นเครื่องมันจะร้องน่ารำคาญอีกถ้าแปะไม่ครบ โชคดีที่มีคู่มือบอกว่าสีไหนแปะตรงไหน เราก็เลยถอดและแปะที่เดิมได้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in