เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คิดออกจะมาเปลี่ยนโอ๊ตหนึ่งสี่เจ็ด
EP.0 First time Wandering Alone - England แสนแรนด้อม กับความมึนตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม


  •        คนเรามีจุดประสงค์อะไรถึงไปเที่ยวคนเดียวกัน ?

           เพราะอยากออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ, อยากจะมีเวลาที่จะได้อยู่กับตัวเอง หรืออยากออกไป  ผจญภัยโดยไม่ต้องรอใครซักคน หรือกูก็แค่อยากจะไปเที่ยวคนเดียวเฉยๆ เพราะไม่มีใครไปด้วยแค่นั้น? คำตอบตอนแรกอาจไม่แน่ชัด แต่คำตอบหลังจบทริป - มันมีมากมายเลยแหล่ะ

           สำหรับโอ๊ต ความคิดการเที่ยวคนเดียวเกิดขึ้นเมื่อการวางแผนเที่ยวกับครอบครัวตอนปิดเทอมปี 2 ขึ้นปี 3 ล่มสลายในเวลาไม่กี่วัน รู้ตัวอีกทีเหลือเวลาในการเลือก destination อีกไม่ถึง 2 อาทิตย์แล้ว เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะอยู่ๆป๊ากับแม่ก็ป่วยอย่างกะทันหันเสียอย่างนั้น (ซึ่งไม่ได้ความร้ายแรงอะไร แค่เพียงไปเที่ยวในช่วงนั้นก็คงไม่สะดวกนัก) เพื่อนๆที่น่ารักก็ไม่ได้มีใครอยากจะไปเที่ยวไหน แถมส่วนใหญ่ก็ไปกับครอบครัว จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องสินใจเอ่ยปาก ขอเที่ยวคนเดียว เป็นครั้งแรกในชีวิต เป้าหมายจึงวางไปที่สหราชอาณาจักร พูดง่ายๆ ก็อังกฤษนั่นแหละ เพราะตัวเองก็ศึกษาข้อมูลมาบ้างอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่เคยไปเที่ยวยุโรปเลยก็เถอะ แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นประเทศที่ง่ายที่สุดแล้ว ด้วยภาษาและลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ที่นั่น ถ้ามีปัญหาอะไรก็คงไม่ยากเกินกำลัง

          การจัดเตรียมเอกสารเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องจัดการทุกอย่างคนเดียว การทำวีซ่าที่ต้องจ่ายทำพิเศษเพราะต้องการให้ได้รับทันเวลา สรุปใจความว่าเสียค่า additional fee ทุกอย่างหมื่นกว่าบาท ไล่ตั้งแต่วีซ่า fast track, lounge ที่ต้องซื้อเพิ่มเพราะคิววันนั้นเต็มแล้ว ซึ่งเหตุผลที่กล้าทำก็คงเพราะเดินทางคนเดียว ไม่งั้นคงไม่ได้เที่ยวไปอีกหลายปีเป็นแน่ และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน, ที่พัก, pocket money และสุดท้าย สัมภาระมากมายที่ผู้ชายคนนึงพึงมีได้ - ตอนจบทริปมีเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่ พอที่จะอยู่ต่ออีกหนึ่งอาทิตย์ด้วยซ้ำ, เอาไรไปเยอะแยะวะ?

          -- ไปเที่ยวคนเดียวครั้งแรกนี่หน่า คิดอะไรออกก็ใส่กระเป๋าให้หมด ใช้ไม่ใช้ว่ากันอีกที !

           ชีวิตนี้ไม่เคยบินไปไหนคนเดียวเลย ไม่สิ ยังไม่เคยนอนนอกบ้านคนเดียวเลยด้วยซ้ำเริ่มครั้งแรกก็ยุโรปเลย มันเหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งนึงว่าแบบ เออ เราสามารถใช้ชีวิตคนเดียวได้นะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆก็เถอะ เป็นการก้าวออกจาก comfort zone ของทั้งเราและครอบครัว ที่กล้าให้ลูกออกไปคนเดียวได้ ก่อนๆที่บ้าน strict มากแค่ไหน สองทุ่มก็โทรตามจิกกลับบ้านแล้ว ละดูมาถึงตอนนี้สิ เราก็มาไกล หรือเรียกว่าเถลไถลจนเขาเริ่มปลงนะ

           ไปอยู่คนเดียว จะได้มีเวลาทบทวนตัวเองเยอะๆหน่อย ไปเห็นผู้คนต่างวัฒนธรรมต่างเมือง สัมผัสการใช้ชีวิต มองความเป็นไปของธรรมชาติ ก็คิดว่าน่าจะได้เรียนรู้อะไรพอสมควรแหละ โตขึ้นไปอีกก้าวแล้วนะไอโอ๊ต ทริปผจญภัยก่อนบรรลุนิติภาวะ หวังว่าจะทำให้มึงพร้อมสำหรับอายุ 20 (ที่รอคอยมาแสนนาน) ซักทีนะ - เราในตอนนั้นพิมพ์ใน ไอจีหลุม

          ขึ้นรถมากับป๊าตอนค่ำๆ กว่าจะถึงสนามบินก็สามทุ่ม เปิดเพลง Oasis, The Beatles ฟังสร้างบรรยากาศให้รู้สึกว่าใกล้ถึงอังกฤษแล้ว เพลง Hey Judes วันนั้นพร้อมกับภาพฝนตกยังเป็นจำได้อยู่เลย, รู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว แบบ "รู้ตัว" จริงๆเลยอ่ะนะ - เชี่ย...ต้องไปแล้วจริงๆหว่ะ นี่กูนึกว่าเป็นเรื่องล้อเล่นของแม่มาตลอดเลยนะ ที่จะให้มาเที่ยวคนเดียวเนี่ย ความกังวลเริ่มมีบ้าง แต่กังวลไปก็ไม่ได้อะไร ทุกอย่างมันอยู่ข้างหน้าแล้ว เอาวะ สู้ๆไอ้โอ๊ต! , ก่อนขึ้นเครื่อง มีเวลาไปนั่ง starbucks ซื้อน้ำแร่ evian มากินหนึ่งขวด ไม่อยากกินกาแฟเพราะกลัวขึ้นเครื่องจะนอนไม่หลับ พร้อมกับตั้งใจโทรไปหาเพื่อนๆ ว่ากูจะบินแล้วนะ เป็นกำลังใจให้กูด้วย - แค่ขึ้นเครื่องบินมันต้องขนาดนี้เลยหรอวะ? 


           13 ชั่วโมงแห่งการนั่งที่นั่งกลาง เพราะซื้อตั๋วช้าแล้วจองที่นั่งไม่ทัน เป็นการนั่งที่เบียดและไม่สบายตัวมากๆ , 13 ชั่วโมงที่ไม่ได้เข้าห้องน้ำเลย เพราะเกรงใจคุณพี่ที่นั่งข้างๆ, 13 ชั่วโมงที่นอนไม่หลับจนต้องเปิดถาดวางอาการมาฟุบหลับเอา ซึ่งสุดท้ายก็หลับไปแค่สองชั่วโมง, 13 ชั่วโมงที่ของใต้ตีนเยอะมากจนขยับขาไม่ค่อยได้ จนเกือบเป็นเส้นเลือดอุดตันแล้ว (มึงเว่อร์) แต่ในที่สุดก็มาถึงจนได้, 

          ดินแดนที่เฝ้าฝันที่จะได้มาทั้งชีวิต 
          ดินแดนที่คิดมาตลอดว่าซักวันจะต้องมาเรียนต่อให้ได้

          England, Here I come !

          ถ่ายซักที่หนึ่ง ขณะเดินจากสถานี Green Park ไปสถานี Westminster

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in