เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โชว์ห่วย โชะเด๊ะWatch Take
ภาษาบ้าน ๆ
  •           คุณเคยมั้ยครับ ที่รู้สึกว่าคุยกับใครไม่รู้เรื่อง ทั้ง ๆ ที่ก็เป็นภาษาไทยนี่แหละครับ ซึ่งก็มีทั้งคำในภาษาถิ่น และคำใหม่ที่คนในท้องที่นั้นคิดค้นขึ้น ที่ผมจะพูดถึงนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องชื่อสินค้านี่แหละครับ แต่ก่อนอื่นเพื่อไม่ให้บทนี้สั้นเกินไป (แน่ะ จะเติมน้ำให้เยอะ ๆ จะได้ดูเยอะ ๆ สินะ) ผมขอพูดถึงภาษาถิ่นแถว ๆ บ้านผมเท่าที่พอนึกออกก่อนนะครับ เผื่อใครไปท้องที่นั้นแล้วงง ๆ กับคำบางคำว่ามันแปลว่าอะไรนะ
              หากคุณต้องการจะดันอะไรซักอย่าง เราก็เรียกว่าเข็น หรือถ้าจะเอาแบบเต็ม ๆ จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ (อนุรักษ์เลขไทยสักหน่อย) "ก. ดันสิ่งที่ติดขัดไม่อาจเคลื่อนไปได้โดยปรกติให้เคลื่อนไปบนพื้น เช่น เข็นเรือที่เกยตลิ่งให้ลงน้ำ เข็นเกวียนขึ้นจากหล่ม, ดันให้เคลื่อนที่ไปบนพื้น เช่น เข็นรถบรรทุก, บรรทุกไปโดยใช้เกวียน เลื่อน หรือเรือ เป็นต้น เช่น เข็นข้าว เข็นไม้" แต่คนแถวบ้านผมนั้นจะเรียกว่า "รุน" ซึ่งคุณสามารถไปเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ ได้เช่นเดียวกัน ความหมายก็ใกล้เคียงกัน แต่รุนนั้นจะเน้นเรื่องดุนให้สิ่งนั้นเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน โดยที่ตนเองเคลื่อนที่ไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเค้าบอกคุณว่าให้รุนรถให้หน่อย ก็คือให้เข็นรถให้หน่อย และรถเข็นก็คือรถรุนนั่นเอง
              นอกจากนั้นก็จะมีฝนตกสิม ๆ ซึ่งก็เท่ากับฝนตกปรอย ๆ รถเครื่องเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์ เมล์เครื่องเท่ากับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง (หรือที่ยุคนี้เรียกว่าพี่วินนั่นแหละ ต่อไปอาจจะมีคำว่าแกร๊บเครื่องก็เป็นไปได้นะ ถ้าเค้าเข้ามาสัมปทานแถวบ้านได้) ยางวงเท่ากับหนังยางหรือหนังสติ๊ก งัวเท่ากับวัว เรี่ยมเท่ากับสะอาด เขอะเท่ากับเลอะเทอะ นอกนั้นก็นึกไม่ออกและ
              ต่อไปจะเข้าเรื่องเสียทีนะครับ (ต่อไปนี้จะเต็มไปด้วยชื่อผลิตภัณฑ์เต็มไปหมดเลย เค้าจะเก็บค่าโฆษณามั้ยเนี่ย) เวลาคุณเรียกผงที่เอาไว้ทำความสะอาดผ้า คุณเรียกมันว่าอะไรครับ ครับ ว่าไงนะครับ ผงซักฟอกเหรอครับ แล้วคุณทางนั้นล่ะครับ (สมมติว่าชื่อน้าสมร) อะไรนะครับ แฟ้บ (แฟ้บที่ไม่ใช่กิริยาที่มีเสียงดังแฟ้บ ๆๆๆ นะครับ (ทะลึ่ง! ทะลึ่งอะไร ก็เสียงซักผ้าไงเธอววว์) ตอนนี้รู้สึกว่าแบรนด์นี้ไม่ได้จำหน่ายในประเทศไทยแล้วนะครับ) แล้วผงซักฟอกยี่ห้ออื่นล่ะครับ สมมติว่าน้าสมรจะซื้อบรีสอะครับ น้าสมรจะพูดว่าอะไรครับ อะไรนะครับ เอาแฟ้บบรีสถุงนึง.....
              หืมมมม...
              ไม่หืมนะครับ
              เพราะผมก็เจอมาจริง ๆ นะครับ
              นอกจากแฟ้บ ๆๆๆๆ (เฮ่ย! เยอะไป) ก็ยังมียาสระผม น้าสมรเรียกว่าอะไรนะครับ อะไรนะครับ แฟซ่าเหรอครับ น้ำสมรจะเอาแฟซ่ายี่ห้ออะไรนะครับ อ๋อจะเอาแพนทีน...
              คือถ้าเป็นคนใจร้อนเนี่ยพอเจอบทสนทนาแบบนี้เผลอ ๆ ของขึ้นนะครับ ว่าสรุปว่าคุณเธอจะเอาแฟซ่ารึเอาแพนทีนกันแน่วะ ทำไมวะ! ก็ฉันจะเอาแพนทีนแฟซ่า เอ้ย! แฟซ่ายี่ห้อแพนทีน ทำไมอะ ก็ที่บ้านฉันเค้าเรียกแบบนี้อะ...
              ทีนี้ท่านผู้อ่านเริ่มจับความได้แล้วใช่มั้ยครับ คือสำหรับน้าสมรนามสมมติ (ขอโทษคุณน้าที่เผอิญชื่อสมรนะครับ) แล้วการเรียกสินค้าจะใช้ชื่อยี่ห้อของผลิตภัณฑ์นั้นแทนไปเลย ถ้าสมมติว่าคุณน้าสมรจะซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปแล้วน้าสมรเรียกว่าไปหยิบแพมเพิร์สสีส้ม ๆ มาให้หน่อย แล้วไปหยิบผ้าอ้อมมามี่โพโคมาให้ น้าสมรก็จะไม่ว่าอะไรครับ เพราะคุณหยิบถูกต้องแล้ว
              แฟซ่าเท่ากับแชมพู แพมเพิร์สเท่ากับผ้าอ้อม แฟ้บเท่ากับผงซักฟอก...
              ที่ผมเคยเจอพีคมาก ๆ ครั้งหนึ่ง มีลูกค้าท่านหนึ่ง หอบลูกมา แล้วก็เข้ามาหาของในร้าน ผมก็ถามว่าเอาอะไรมั่งครับ หาไม่เจอ ถามได้ เค้าก็บอกผมกลับมาว่า "เอาแฟซ่าเด๊กอ่อน" หา อะไรนะครับ "แฟซ่าเด๊กอ่อนน่ะจ้ะ" มันคืออะไรอะครับ เธอเริ่มทำท่างง ๆ จนผมต้องพึ่งอาโกวผม (อาผู้หญิง) อ๋อ! แล้วสิ่งที่อาโกวหยิบมานั้นก็คือ แชมพูสำหรับเด็กอ่อนประมาณว่า No More Tear ประมาณนั้น (คนอย่างช้านถูกกกโยนนนน ทิ้งงง ขว้างงอางอ่างงงง... ไม่ใช่และ) คือผมก็อายม้วนไปเลยครับเพราะนึกว่าสินค้ายี่ห้อใหม่ มันฟังดูชื่อไม่คุ้นเลยอะ
              จากที่บอกมาก็จะเห็นได้ว่าคนเรานั้น ช่างมีความหลากหลายเสียเหลือเกิน แม้กระทั่งภาษาพูด ข้อสำคัญไม่ใช่แค่ว่าเราจะขายของอย่างเดียว แต่การขายของนั้นก็เป็นการช่วยให้เค้าหาของที่เค้าต้องการ (จริง ๆ) เจอ ถ้าเราตั้งใจฟัง แล้วถามเค้าไปเรื่อย ๆ ว่าเค้าต้องการอะไร มันเป็นอะไร ใช้ทำอะไร แสดงถึงความจริงใจว่าเราอยากหาให้เค้าจริง ๆ ไม่ส่ายหน้า ไม่ชักสีหน้าใส่ เราก็สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้
              ครั้งหนึ่ง ผมได้มีโอกาสเข้าไปใช้บริการภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นแบรนด์หนึ่ง ที่สาขาในห้างหนึ่งที่มีรถติดมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ผมก็สั่งอาหารไป แล้วถ้าจำไม่ผิดมันจะมีเป็นชุด ซึ่งเค้าถามว่าจะเอาเป็นชาเย็นหรือจะเอาเป็นอย่างอื่น ด้วยความที่ว่าผมเคยรู้มาว่าชาเย็นเนี่ยมันคือชาซีลอนใส่นม สีออกส้ม ๆ แล้วชาเย็นที่เค้าพูดถึงเนี่ยหมายถึงอย่างนั้น หรือหมายถึงชาเขียวเย็น พอผมถามเค้าไป ผมก็ได้เจอสิ่งที่ถ้าคุณเจอ คุณก็จะต้องอึ้ง (เชื่อมั้ยครับว่ามันเป็นภาพจำขนาดที่ขณะผมกำลังพิมพ์อยู่ก็รู้สึกได้ว่าของขึ้น!) ผมเจอกับพนักงานสาวที่กำลังเหลือบตามองบน แล้วถอนหายใจแรง ๆ ให้เห็นชัดมาก ซึ่งผมไม่เคยเจอของจริงนอกจากในละคร เค้าก็บอกกลับมาว่าชาเย็น(หมายถึงชาสีส้ม)ค่ะ ผมคุยกับป๊ากับม้าว่าจะจัดมั้ยๆ แต่เค้าก็ห้ามผมไว้ ก็ไม่ได้ทำอะไรเค้าไป สงสัยว่าจะทำงานหนักมากไปจนโมโหใส่ลูกค้าเลย ก็ถ้าผมเป็นคนเอาเรื่องจริง ๆ นางก็คงโดนไปแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็เจอใบประเมินแหละ แต่มาคิดอีกทีว่าเค้าอาจจะเหนื่อยละมั้ง (ชิ! นั่นไง ๆ ขึ้นอีกและ ๆ)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Watch Take (@WatchTake)
คราวหลังต้องบอกว่าขอโออิชิเย็น ๆ ขวดนึง...
แล้วท่านจะได้โออิชิกันเย็นเย็นมาอย่างละขวด เอิ่มมมม
Kittisak Praditkul (@fb1863567122745)
เคยไปซื้อน้ำในเซเว่นครับ จะซื้อโออิชิ บอกทีนี้ขวดที่ตั้งโชว์อยู่ที่เคาท์เตอร์มันไม่เย็น เลยบอกว่า ขอเย็นๆ ครับ พนักงานเดินไปหยิบยี่ห้อเย็นๆ มาให้เฉยเลย