เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WatcheverMADMOG
The Good Place: ตายแล้วไปไหน
  •    

         และก็ได้ฤกษ์เขียน The Good Place ซักที หลังจากคิดว่าจะเขียนยังไงดีอยู่นั่นแหละ จนกลายเป็นไม่ได้เขียนไปเลย เป็นเรื่องที่อยากเขียนถึงมากๆ อยากให้ทุกคนดู เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้ underrated มากๆ หา activity ใดๆในโซเชียลเน็ตเวิร์คไม่ค่อยได้เลย จนต้องเข้าไปถึง reddit ก็ยังพอใจชื้นบ้างว่าไม่ได้รักเรื่องนี้อยู่คนเดียว

         The Good Place เป็นซีรี่ส์แนวแฟนตาซีคอมเมดี้ของช่อง NBC ปัจจุบันฉายไปแล้วทั้งหมด 2 ซีซั่น ถือว่ายังน้อย ถ้าคิดจะเริ่มดูตอนนี้ก็ยังทัน (ยกเว้นซีซั่น 3 จะโดนแคนเซิล อ๋อลืมไปไม่ใช่ของ Fox) อำนวยการสร้างโดย Michael Schur ที่มีผลงานดังๆตั้งแต่ The Office, Parks and Recreation และ Brooklyn Nine-Nine ก็เลยเชื่อถือได้เลยว่าต้องขำและดีแน่นอน ซึ่งก็ไม่ผิดคาดจริงๆ

        
         ซีรี่ส์นี้ว่าด้วยเรื่องของคำถามที่ว่า 'ตายแล้วไปไหน' ผ่านทางตัวเอกที่ชื่อว่า Eleanor Shellstrop (Kristen Bell) ที่ตื่นขึ้นมาในโลกหลังความตาย ที่เรียกว่า The Good Place ซึ่งมีความหมายเทียบเท่ากับสวรรค์ หรือในที่ที่คนดีๆตายแล้วจะไปอยู่กัน ความประหลาดคือบนสวรรค์ดันเต็มไปด้วยร้านโยเกิร์ตแช่แข็ง แล้วก็ทุกคนทำตัวเหมือนเป็น NPC ในเกม RPG ปํญหาของเรื่องก็คือ ในความเป็นจริงตัว เอเลนอร์ตอนยังมีชีวิตตรงข้ามกับทุกอย่างที่เรียกว่าคนดี ซึ่งพออยู่ไปได้ซักพักก็มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้น ทำให้เอเลนอร์คิดว่า การมีอยู่ของเธอใน The Good Place เป็นความผิดปกติ ทำให้ทุกๆอย่างค่อยๆพังลง เอเลนอร์จึงตัดสินใจที่จะเรียนรู้การเป็นคนดีจาก Chidi Anagonye (William Jackson Harper) อาจารย์สอนวิชา moral philosophy ที่ทางสวรรค์กำหนดมาให้เป็น 'soul mate' ซึ่งคนจิตใจหยาบกร้านตรรกะพินาศมันจะซึมซับเรื่องศีลธรรมอันดีงามได้ง่ายๆเหรอ อันนี้ก็ต้องไปดูในเรื่องเนอะ

         ในขณะที่เอเลนอร์ต้องคอยปกปิดเรื่องที่ตัวเองไม่ belong แล้ว ก็ต้องรับมือกับอะไรพิลึกๆ เช่นบ้านในฝันที่เต็มไปด้วยรูปตัวตลก เพื่อนบ้านลูกคุณหนูสัมเนียงบริทิชที่ถูกจับคู่กับพระทิเบตที่ถือศีลไม่พูดไม่จาใดๆ จังหวะมุกตลกในเรื่องก็จะคุ้นชินกับใครที่เคยดูงานเก่าๆของ Michael Schur ซึ่งก็จะเป็นตลกที่ให้อารมณ์ค่อนข้างเป็นมิตร (ในมาตรฐานคอมเมดี้ฝั่งอเมริกา) ไม่ต้องกังวลว่าตอนดูจะ cringe กับการสบถอะไรต่างๆ เพราะบรรยากาศในเรื่องมีความพาสเทลในระดับนึง ว่าง่ายๆก็ได้เรท ท (ซึ่งจริงๆ 13+)

         ดูแล้วเป็นยังไง:
         บุพเพสันนิวาส (no pun intended) ทำให้สนใจเรื่องนี้แค่เพียงด้วยความที่ว่า อ้าว ลุงแก่ๆคนนี้เล่น CSI แต่ทำไมมาเล่นคอมเมดี้ได้น้า ก็เลยดูเทรลเลอร์ไปก็เออ คอนเซปต์โลกหลังความตายมันน่าสนใจว่ะ ได้ดูตอนแรกบนเครื่องบิน เพราะดันมีให้เลือกดูไปอีก ก็กลายเป็นว่าดูไปทีเดียวแล้ว 3 ตอน ส่วนที่ทำให้เรื่องมันดูน่าติดตามก็คือการที่มันมีพล็อตเกิดขึ้น ไม่ได้จบในตอน สำหรับใครที่กลัวลงแดงแนะนำให้เก็บไว้ binge-watch ทีเดียวเลยดีกว่า (หมายถึงซีซั่นหน้าๆ)


         สิ่งที่ขอชมสำหรับเรื่องนี้เลยคือฉากสวยมาก ทั้งฉากในตัวเมือง ฉากในบ้าน ฉากริมหาด คิดว่าน่าจะเป็นเพราะการเล่นสีแสงเงาให้ออกมาชัด บางฉากให้อารมณ์สดใส บางฉากให้อารมณ์เบาหวิว ทำให้ตอนดูเราจะมีภาพ visual สวยๆให้ดูตลอดเวลา ดูแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งมันก็เข้ากับธีมแฟนตาซีของตัวเรื่องเองด้วย

         กลับไปที่พล็อตของเรื่องกันบ้าง คิดว่าเพราะด้วยซีซั่นนึงมีแค่ 13 ตอน ทำให้พล็อตมันเดินตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ไม่มีตอนฟิลเลอร์ที่ดูขาดๆเกินๆโผล่เข้ามา และถ้าใครคิดว่าด้วยความเป็นคอมเมดี้ พล็อตมันต้องเบาบางมากแน่ๆ แต่เรื่องนี้เอาดีได้ทั้งทางขำและทางสตอรี่ ซึ่งแต่ละตอนที่ดูไปก็จะได้แต่ตั้งคำถามเรื่องของศีลธรรม เช่นทำดีแล้วได้ดีจริงหรือ ทำแบบนี้เรียกว่าดีจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องทำออกมาให้ย่อยง่ายมาก (แต่ตอนเอากลับไปคิดเองนี่ก็งานหนักอยู่) ถ้าอยากเริ่มดูเรื่องนี้แนะนำว่าให้ทำหัวให้ว่างๆ ไม่ต้องไปอ่านอะไรเพิ่มเยอะ อ่านแค่อันนี้ก็พอเพราะนี่ก็ค่อนข้างกั๊กสปอยล์พอสมควร รายละเอียดยิบย่อยอยากให้ไปเจอเอาในเรื่องมากกว่า ดังนั้นจึงขอไม่เอาตัวอย่างมาให้ดู เพราะเรื่องนี้ยิ่งรู้น้อยยิ่งดูสนุก


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Cha-ame (@Cha-ame)
ชอบเหมือนกันค่าาา
ติดหนักมาก นี่กำลังดูซีซันสองอยู่
แต่ดูไปดูมาก็แอบงง มันวุ่นวายอะไปหมดไม่รู้ 555555