เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Boy's love storyขอบฟ้าสีจาง
พยายามแค่ไหนจะได้ (ใจ) เธอ EP 03
  • ไปส่ง...

     

    "เฮ้ยยยๆ  พวกมึงดูดิ๊  ไอ้แก๊งค์นานาชาติมันพาใครมาด้วยวะ" รุ่นพี่ปี  2  ชี้ให้เพื่อนที่โต๊ะมองไปยังกลุ่มคนที่มาใหม่  ไอ้สามคนนั้นแรกน่ะพวกเขารู้จักดีแต่คนตัวเล็กที่เดินตามมาติดๆนะสิ  ไม่คุ้นหน้าเลยแฮะ

    "วู้ๆ  ไอ้กันต์  ไอ้ธาร  ไอ้แอซ ทางนี้โว้ยย"  เมื่อเห็นว่ารุ่นน้องมองหาคนที่มองอยู่ก่อนแล้วจึงตะโกนเรียกแข่งกระเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม

    "ไอ้ห่าพวกนี้นิ  กุเคยบอกแล้วใช่มั๊ยเวลามากินเหล้ากับพวกกุ  ไม่ต้องแต่งตัวจัดเต็มกัน  ดูดิ๊  สาวที่กุเล็งไว้หันมาสนใจพวกมึงแทนแล้วเนี้ย"

    "โธ่ พี่บาสครับพวกผมก็แต่งตัวตามปกติของพวกผม ของงี้มันอยู่ที่หน้ามากกว่ามั้งครับ" แอซพูดพร้อมยักคิ้วให้พี่รหัสของตัวเองอย่างกวนอวัยวะเบื้องล่าง

    "เออๆ  ไม่หล่อมั้งแล้วไป  ว่าแต่นี้มึงพาใครมาด้วยวะ  มีเพื่อนหน้าตาน่ารักแบบนี้แต่ไม่ยอมแนะนำให้พวกกุรู้จักมั้งเลยนะ"  พี่บาสหันไปมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆไอ้ธารอย่างสนใจ

    "พี่บาส !!! พี่จำผมไม่ได้จริงๆหรอ  โธ่ แค่ถอดแว่นเองนะ ทำเป็นจำกันไม่ได้ "

    "เชี้ย  หยะ อย่าบอกนะ ว่ามึงคือไอ้ปันจอมเนิร์ด  แมร่งพอมึงแต่งตัวปกติแล้วกุจำไม่ได้เลยว่ะ  แถมไม่ใส่แว่นแล้วดูน่ารักกว่าเดิมเป็นไหนๆอีก  ทำไมตอนอยู่มหาลัยมึงไม่แต่งแบบนี้มั่งวะ  เดินไปไหนมาไหน ใครจะได้ไม่นึกว่าไอ้สามตัวนี้พกคนใช้มาเรียนด้วย"  พอได้ยินเสียงผมพี่ไอ้บาสมันถึงกับตะลึงแล้วพ่นประโยคที่ผมไม่แน่ใจว่ามันชมหรือมันด่าออกมาด้วย

    "แล้วที่ผมแต่งไปมหาลัยมันแปลกตรงไหนวะพี่  ทำไมอะ มันน่าเกลียดขนาดนั้นเลยเหรอ"  ผมชักจะข้องใจขึ้นมาจริงๆ ทำไมใครๆก็เหมือนจะมีปัญหากับการแต่งตัวของผมซะเหลือเกิน

    "กุก็ไม่ได้หมายความแบบนั้น  แค่มันดูรุ่มร่ามละมั้ง อะ อะ อย่าเพิ่งขึ้นครับไอ้น้อง ชนแก้วกันก่อน มาๆ" เมื่อเห็นว่าหน้าตาผมเริ่มจริงจัง  พี่บาสก็รีบชวนให้ดื่มเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ไปซะหลายแก้ว  ผมดื่มเป็นครับ  เพราะป๊ะป๊าเคยให้หัดดื่มที่บ้าน  ป๊ะป๊าบอกว่าดีกว่าไปแอบดื่มเอาเอง  ดื่มไปผมก็ชะเง้อหาพี่ภูไป แต่ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่อยากเจอซักที  จนต้องหันไปสะกิดไอ้กันต์  มันก็แสนรู้ครับ ว่าผมสะกิดมันทำไม

    "ว่าแต่พวกพี่มากันแค่นี้หรอแล้วพวกพี่กราฟ พี่แทนละ ปกติไม่เคยพลาดนิพี่"  กันต์หันไปถามหาพี่และลุงรหัสตัวเอง

    "อ่อ กราฟมันไลน์มาบอกกุว่าจะมาดึกๆหน่อย  ส่วนพี่แทน  นั้นไงพูดถึงก็มาพอดี"  ผมหันไปมองตรงทางเข้าทันทีที่พี่บาสมันพูดจบ นั้นไงครับ ว่าที่แฟนของปันมาแล้วออร่าความหล่อมันพุ่งมากระแทกตา จนไม่อาจจะละสายตาไปที่อื่นได้เลย  เดินมากันสามสี่คน  แต่ปันมองเห็นแค่พี่ภูคนเดียวจริงๆ

    "เฮ้ย เป็นไงพวกมึงเมากันรึยังวะ" พี่แทนเอ่ยทักทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะ

    "ก็เริ่มกรึ่มๆนิดนึงแล้วว่ะพี่  ก็พวกพี่เล่นมาช้ากันละเกิน  ไม่รู้ว่าติดงานหรือไปติดอะไรกันอยู่"  รุ่นพี่อีกคนในกลุ่มพี่บาสเอ่ยแซวพี่แทนอย่างสนิทสนม  ก่อนจะเริ่มส่งแก้วให้กลุ่มคนมาใหม่

    "เออ  พี่ๆ  นี้ไอ้ปันมันเป็นเพื่อนกับไอ้แก็งค์นานาชาติสามตัวนี้ ปกติมันไม่เคยมาร่วมวงหรอก  แต่วันนี้สงสัยอยากจะเปิดหูเปิดตา  ยังไงพี่เอ็นดูๆมันหน่อยนะ"  พี่บาสหันมาแนะนำตัวผมกับพวกพี่ๆต่างคณะ เมื่อเห็นสายตาที่มองอย่างสงสัยไปยังร่างเล็กแปลกหน้า  ที่ยืนท่ามกลางชายหนุ่มหุ่นนายแบบสามคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่

    "หวัดดีครับพี่ๆ ผมปันครับ"ผมยกมือไหว้  พร้อมยิ้มหวานให้พี่ภูเป็นพิเศษ  พลางคิดว่าพี่มันจะจำผมได้มั๊ยนะ

    "เออๆ หวัดดี กุชื่อแทนไอ้เสื้อฟ้านั้นชื่อมิกซ์ ไอ้เสื้อส้มชื่อเป็ก ส่วนไอ้นี่ชื่อภู" พี่แทนแนะนำตัวให้เพื่อนๆเสร็จสับ  ก่อนจะเริ่มหันไปหาสาวๆที่มองมาที่โต๊ะพวกเราอย่างสนใจก็แหม  ผู้ชายหน้าตาดีหุ่นดีๆ  10  กว่าคนมารวมอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน  ใครบ้างจะมองผ่าน  แม้จะดูเหมือนมีเด็กมัธยมหน้าโง่ๆคนนึงยืนอยู่ด้วยก็เหอะ  สำหรับมาตรฐานชายไทยผมก็ว่าผมสูงอยู่ในเกณฑ์นะ  แต่ไอ้พวกที่เหลือนี่สิ ไม่รู้ว่ามันจะสูงเกินมาตรฐานกันไปไหน  เลยทำให้ผมดูเตี้ยที่สุดในกลุ่ม  ผมดื่มไปก็มองพี่ภูไป  ตั้งแต่พี่มันเดินเข้ามาในร้านมีผู้หญิงเดินเข้ามาชนแก้วมั่ง เข้ามายืนเต้นสีพี่มันมั่ง จนผมไม่มีโอกาสเข้าไปคุยด้วยเลย เห้อออ ได้แต่มองเหมือนหมาเฝ้าปลากระป๋องเลยแฮะ ชอบคนหล่อก็คู่แข่งเยอะเป็นธรรมดานะไอ้ปันเอ๊ยย

    "ธารๆ กุปวดฉี่ว่ะ ไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ เดี๋ยวมา"  ผมเขย่งขึ้นไปตะโกนที่ข้างหูธารเพราะเสียงเพลงมันดังมาก พอธารได้ยินก็ทำท่าจะเดินมาด้วย แต่ผมบอกมันว่าไม่ต้อง  แล้วรีบเดินไปทางห้องน้ำทันที  ปวดจนจะกลั้นไม่อยู่แล้วโว๊ยยย  แล้วคนมันจะมากันทำไมเยอะแยะวะเนี้ย  กว่าจะเดินไปถึงห้องน้ำได้ ผมโดนเบียดจนหน้าจะทิ่มไปหลายรอบ

    อ่าาา  พอได้ยิงกระต่ายแล้วเบาตัวขึ้นเยอะเลย  ว่าแล้วเดินไปสูดอากาศข้างนอกสักนิดดีกว่า  อยู่ข้างในนานๆเริ่มจะมึนหัว

    "ว่าไงคะสุดหล่อ คืนนี้ว่างรึเปล่า  ไปต่อกันมั๊ย"  เสียงที่แสนยั่วยวนดังขึ้น  พอดีกับที่ผมเดินมาถึงบริเวณด้านหน้าผับ  พอหันไปมองก็เห็นว่าพี่ภูกำลังโดนเจ้าของเสียงโน้มคอลงมาจนปากเกือบจะแตะกัน  เห็นแล้วอยากเดินเข้าไปจับทั้งคู่แยกออกจากกันจริงๆ  แต่ผมมีสิทธิ์อะไรล่ะครับ  เป็นแค่คนที่แอบชอบ แค่ชื่อผมพี่เค้าจะจำได้รึเปล่าก็ไม่รู้  ขืนไปทำแบบนั้นจริงๆได้โดนต่อยปากคว่ำแน่ ที่ไปบังอาจทำเสียบรรยากาศ  แต่สงสัยผมจะจ้องพี่เค้าแบบโจ่งแจ้งเกินไป  พี่ภูจึงเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อรู้สึกว่าถูกจ้องอยู่

    "ขอโทษนะครับ  วันนี้ผมไม่ว่าง ต้องไปส่งน้องน่ะ"  ไม่พูดเปล่าพี่มันยังจับมือที่คล้องคอไว้ออก  พร้อมเดินตรงมาที่ผม

    "ว่าไงเรา  ออกมายืนทำอะไรคนเดียวเนี้ย"  พี่มันทักผมคร้าบบ  พี่มันทักโพ้มมม  โอ๊ยยย  ไอ้ปันดีใจจนจะบ้า

    "เอ่อ  พอดีออกมาสูดอากาศนิดหน่อยนะครับ ข้างในมันอึดอัด"  เก็บอาการไว้ไอ้ปัน อย่ากระโตกกระตาก เดี๋ยวเสือจะตื่นใช่ครับพี่มันนะเสือ  ส่วนผมนะแค่แมว  แมวที่ริอาจจะงาบเสือ 

    "แล้วพี่ภูละครับจะกลับแล้วหรอ"

    "ก็ว่าจะกลับแล้วน่ะ วันนี้เพลียๆอยากกลับไปนอนเร็วซักหน่อย" เที่ยงคืนครึ่งนี้คือนอนเร็วของพี่มันใช่มั๊ย ผมไม่อยากจะคิดเลยว่านอนดึกของพี่มันจะกี่โมง

    "เราล่ะ จะกลับเลยมั๊ยเดี๋ยวพี่ไปส่ง อยู่หอเดียวกับพวกกันต์ใช่มั๊ย"

    เดี๋ยว พี่ ไป ส่ง !!! 

    พี่มันบอกว่าเดี๋ยวจะไปส่งผมครับ  ผมอยากตอบตกลงและวิ่งไปขึ้นรถพี่มันทันที  แต่กลัวพวกเพื่อนผมจะเป็นห่วง  เลยบอกพี่มันว่าจะเข้าไปบอกเพื่อนๆก่อน  แต่พี่ภูบอกว่าส่งไลน์ไปบอกก็ได้  ผมเลยทำตามที่พี่มันบอกครับ อ่าา เพื่อนๆครับ ขอโทษนะที่กุเลือกพี่ภูมากกว่าพวกมึง

    บรื้นนน  เสียงรถคันหรูเร่งเครื่องออกสู่ถนนยามวิกาล  ครั้งที่สองแล้วนะที่ผมได้นั่งรถพี่ภู  แถมยังอยู่กันแค่สองคนอีก  โชคชะตาช่างเป็นใจให้ผมปวดฉี่แล้วเดินออกมาหน้าผับจริงๆ

    "หายดีแล้วใช่มั๊ย ?"  พี่ภูเอ่ยถามเมื่อขับรถออกมาได้สักพัก  ผมหันไปมองด้วยแววตาสงสัย  กุเป็นอะไรวะ หายดีแล้วคืออะไร  ก็ที่ผ่านมาผมไม่ได้ป่วยซักหน่อย  เอ๊ะ  หรือกุป่วยแต่ไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่ใช่ บอกตรงๆงงครับ

    "พี่หมายถึง แผลที่มือน่ะ  แมวข่วนใช่มั๊ย"

    "อ๋อ หายแล้วครับ  ไม่คิดว่าพี่จะจำผมได้นะเนี้ย"  ดีใจครับ  ไม่คิดว่าพี่ภูจะจำได้  จากวันนั้นมันก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว  แถมสภาพผมวันนั้นกับวันนี้ต่างกันจนคนอื่นๆยังจำไม่ได้  แต่พี่ภูกลับจำได้

    "หึหึ  ตอนแรกพี่ก็จำไม่ได้หรอก  แต่พอมองดีๆถึงรู้ว่าเป็นคนๆเดียวกัน"  พี่มันมองผมตอนไหนวะครับ ทำไมผมไม่เห็นทั้งที่ผมก็มองพี่มันอยู่ตลอด  พี่ภูเค้ามองผม  แถมยังจำผมได้อีก  จะผิดมั๊ยถ้าจะคิดบวกแบบที่ป๊ะป๊าสอน  พี่มันอาจจะสนใจผมก็ได้  ฮิ้ววววววววววว  เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ  หรือผับมันอยู่ใกล้หอผมเกินไปนะ  แปบเดียวก็ถึงแล้วอะ  ผมจำใจต้องบอกลาพี่มัน  แต่ก่อนจะไปผมไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปง่ายๆ  ด้วยการเนียนขอไลน์พี่ภู  โดยอ้างว่าจะนัดไปเลี้ยงข้าวขอบคุณทั้งเรื่องคราวก่อนและที่มาส่งวันนี้อีก  ฮิฮิ  และพี่มันให้มาง่ายๆพร้อมเบอร์โทร  คลบร้าาาา  อ่อยปันอยู่ใช้ม้ายยย >/////<

    "ขอบคุณที่มาส่งนะครับ เอ่อ แล้วก็ฝันดีนะครับ พี่ภู" ผมพูดก่อนจะลงจากรถ แล้วยืนรอให้พี่มันขับออกไปก่อนถึงจะขึ้นหอ แต่ก่อนที่พี่มันจะขับออกไป  กระจกฝั่งซ้ายก็เลื่อนลง  พี่ภูส่งรอยยิ้มพร้อมคำพูดที่ผมจะต้องเก็บไปฝันถึงอีกหลายคืนแน่ๆ

    "ฝันดีเช่นกันปัน  ไว้เจอกันที่มหาลัยนะ"




    PS. พี่ภูออกมานิดเดียวอีกแล้วว เหอะๆ อย่าเพิ่งน้อยใจนุ้งนะพี่ภู >3<






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in