นิทรรศการจิ๋นซี ฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา
ครั้งแรกที่ชาวไทยจะได้ชื่นชมกองทัพทหารดินเผาจากสุสานจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนรวบรวมโบราณวัตถุสำคัญ จำนวน 86 รายการ (133ชิ้น) ซึ่งมีอายุมากกว่า 2,200 ปี จากพิพิธภัณฑ์ชั้นนำ 14แห่ง ในสาธารณรัฐประชาชนจีน มาจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ ณพระที่นั่งศิวโมกขพิมานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
โดยแบ่งเป็น 4 หัวข้อหลักที่น่าสนใจไปรับชมกันเลยค่ะ
ห้องแรก : พัฒนาการก่อนการรวมชาติยุคราชวงศ์โจวตะวันออก
ยุคนี้จะมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการหล่อสำริด เช่น การผลิต อาวุธ เครื่องดนตรี ภารชนะ และเงินตรา รวมถึงความก้าวหน้าทางการทหาร
ห้องที่สอง : จิ๋นซีฮ่องเต้ จักพรรดิองค์แรกของจีนผู้ผนวกโลกมนุษย์และสวรรค์
ในยุคนี้จะพัฒนาสาธาณูปโภค ในภาพคือ การก่อสร้าง และเชื่อมต่อแนวกำแพงดินอัดของแคว้นต่างๆ เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกศัตรูจนกลายเป็นกำแพงเมืองจีนนับเป็นคุุณูปการต่อประเทศจีน ทำให้สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นแหล่งอารยธรรมอันน่าอัศจรรย์ของโลก
ห้องที่สาม : สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี มหาอาณาจักรใต้พิภพ
ป็นโบราณวัตถุสำคัญจากสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี เช่นหุ่นทหารและม้าดินเผา เสื้อเกราะ อาวุธสำริด และรถม้าสำริด จิ๋นซีฮ่องเต้เฝ้าค้นหาความเป็นอัมตะ เสาะแสวงหาอายุวัฒนะตลอดชีวิต ทรงดำริให้มีการสร้างสุสานเมื่อพระชนมายุ 33 พรรษา ปริศนานี้ได้รับการเปิดเผย เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ 2517 หลังจากชาวนาคนหนึ่งได้ขุดค้นพบหุ่นทหารดินเผา นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญแห่งศตวรรษที่ 20 องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์
ห้องที่สี่ : สืบสานความรุ่งโรจน์ ยุคราชวงศ์ฮั่น
ส่วนสุดท้ายของนิทรรศการจัดแสดงโบราณวัตถุที่บอกเล่าเรื่องราวประเพณี วิถีชีวิต ความรุ่งเรืองทางด้านวัฒนธรรม กาเมือง การปกครอง สังคม เกษตรกรรม และเทคโนโลยีทางด้านการทหาร ตลอดจนการค้าและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนโบราณกับชาวต่างชาติบนเส้นทางสายไหมสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ นับเป็นยุคของงานศิลปกรรมและอารยธรรจีนอย่างแท้จริง
นิทรรศการนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเช้าชมวันที่ 18 กันยายน– 15 ธันวาคม 2562
(ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น.
ค่าธรรมเนียมเข้าชม: คนไทย 30 บาทต่างชาติ 200 บาท
นักเรียนนักศึกษา และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่เสียค่าเข้าชม
รูปภาพที่ได้นำเสนอนั้นเป็นเพียงแค่บางส่วนของนิทรรศการที่ถ่ายมาได้เท่านั้นนะคะ และอยากให้ทุกคนไปดูของจริงด้วยตาของตัวเองสักครั้ง ไม่ต้องบินไปถึงประเทศจีนก็สามารถรับชมได้ในประเทศไทยอีกด้วย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in