เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
<span>sweetsingularity
01. <head>
  • <head> (n.)
    HTML element, container for metadata (data about data)


    น่าแปลกที่คนเรามักจะยอมรับ(หรือกล้าที่จะยอมรับ)อะไรๆ ง่ายขึ้นเมื่อได้ยินเต็มสองหูตัวเอง ในเสียงของตัวเอง

    แม้จะไม่ดังเท่าไหร่

    และแม้จะเป็นเสียงที่ดังกลบเสียงนุ่มๆของ Andy Williams ในเพลงอมตะอย่าง Days of Wine and Roses ที่กำลังเล่นคลอในบาร์ก็เถอะ


    "เออ" ผมมองระดับเหล้าที่ร่อยหรอลงช้าๆ ในแก้วแล้วสบตาไอ้โซ่ "แม่งยังไม่ไหวว่ะ"


    รุ่นน้องแรปเปอร์ของผมหัวเราะหึ กระดกวอดก้าช็อตของมันเหมือนกระหายน้ำมานาน มันยอมมานั่งคุยกับผมที่บาร์เล็กๆ แห่งนี้ ณ​ ใจกลางเมือง ถึงจะไม่ใช่ซีนของมัน และถึงจะรู้ตัวว่ามันต้องมานั่งฟังผมปรับทุกข์เรื่องหัวใจไปค่อนคืน


    อีกอย่าง นักเขียนไส้แห้งอย่างผมก็แค่กระโดดรับงานรีวิวบาร์สุดลับเพื่อจะจุนเจือชีวิตปลายเดือนที่รุ่งริ่งเต็มทีเท่านั้น


    คิดว่าผมมีกะตังซื้อค็อกเทลแก้วละเท่ากับข้าวสองมื้อหรอ



    "สักทีนะพี่" โซ่ตบบ่าผม "ไม่ไหวก็บอกไม่ไหว"


    รสขมขื่นของ old fashioned ยังเฝื่อนอยู่ที่ปลายลิ้นผม


    "เสียงเค้า..." ผมแทบจะร่ายยาวถึงแฟนเก่าอีกรอบใหญ่



    จะเรียกว่าแฟนเก่าก็คงไม่ถูกนัก 

    คนคุย?

    การตัดสินใจแสนเสี่ยงของผมที่ทำใจล้มละลายเกิดขึ้นและจบลงภายในสามเดือน



    จะโง่เง่าเพราะแรงดึงดูดของความรู้สึกไปอีกสักเท่าไหร่กัน



    "จะพูดก็พูดเถอะพี่" มันพยักเพยิดไปที่ชั้นเหล้าด้านหลังพวกเรา "เลี้ยงผมขนาดนี้ ผมอยู่ได้ทั้งคืนละ"


    ผมถลึงตาใส่มัน


    "เค้าดีตรงไหนวะ" ผมกัดริมฝีปากล่างตัวเอง ความคิดวิ่งวุ่นเหมือนหนูติดจั่น 

    แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถามคำถามนั้นกับตัวเองในหัว แต่ก็ดีที่ได้ยินคำถามในเสียงตัวเอง คล้ายเสกมันให้มีตัวตน

    "เค้าทำเราเจ็บขนาดนี้ มันต้องไม่ดีสิ.... แล้วทำไม--"



    บอกตรงๆ ว่าใจผมรู้ดีว่าควรรู้สึกอย่างไร ตามทฤษฎีแล้ว และในอุดมคติแล้ว ผมควรไม่รู้สึกอะไรแล้ว ควรจะด้านชาต่อเขาเหมือนแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดตอนนี้


    ยังอยากจะยื้อยึดจับต้องสิ่งเป็นพิษที่กำลังเกาะกุมกัดกินจิตใจไปทำไม


    "--ทำไมถึงปล่อยเขาไปไม่ได้"



    โซ่เขยิบเข้ามาใกล้ผมจนจมูกแทบชนกัน


    "พี่ไม่ได้จะบอกว่า--"


    ผมดันมันออกไป

    "เปล่าเว้ย!" ผมส่ายหน้า "ไม่ได้อยากได้เค้ากลับ!"


    "แล้ว.... งั้น...."


    ผมเกลียดลูกตาสีน้ำตาลสองข้างที่จ้องผมราวจะเห็นทะลุความลับในทรวงอกเหลือเกิน


    "ก็แค่ยังรู้สึก" สุดท้ายก็เอ่ยปากออกไปจนได้ "รู้สึกทั้งที่ไม่ควรรู้สึก รู้สึกจนตัวเองรู้สึกผิดว่ารู้สึก รู้สึกแคร์ทั้งที่ไม่ควรแคร์ รู้สึกผูกพันเป็นครั้งคราวทั้งที่ควรตีห่าง รู้สึกเกลียดที่เค้ามากวนใจในความคิด

    รู้สึกโกรธที่ยังนึกถึงเค้ามากจนรู้สึกอยากบ่นกับแก"



    คำว่า "ก็แค่" มันน้อยไปสำหรับการนำหน้าคำว่า "รู้สึก" สินะ


    โซ่เสยผมตัวเอง ตาเบิกกว้าง "โว้ พี่นี่... จะให้เนื้อเพลงดีๆ ผมก็ไม่ยักบอก"

    มันดีดนิ้ว

    "ศิลปะจากความรู้สึกโดยตรงนี่โคตรเด็ด"



    ผมดีดนิ้วชี้มันที่บาร์ตอบไปหนึ่งป้าบ



    มันโอดโอยพอเป็นพิธีแล้วเท้าคางมองผมอย่างใจเย็น

    "ก็แค่ สรุปว่าพี่ยังไม่ลืมเค้าไง"



    ประโยคสรุปง่ายๆ จากบุคคลที่สามเสียดแทงหูอย่างน่าประหลาด

    ผมเองก็รู้คำตอบแน่ชัดแล้วในอก


    การดึงดันไม่ยอมรับน่ะ ทรงพลังเกินไป


    (fucking denial...)



    "เออๆ รู้แล้วน่ะ" ผมพยักหน้า กระดกเหล้าในแก้วบ้าง แล้วสั่งโมฮิโต้มาเพิ่ม


    "อย่าหากินกับแผลสดพี่ละกัน"



    โซ่ยิ้มกริ่ม ทำท่าคิดคำนวณ "เรื่องนั้นละก็--"



    จู่ๆ ผมก็รู้สึกถึงแรงสะกิดที่ไหล่ซ้าย


    และ คุณครับ อย่าหาว่าผมแต่งเรื่องในนิยายรักส่วนตัวอยู่เลย


    แต่ชายหนุ่มที่ยืนสบตากับผมในบาร์เล็กที่ยิ่งดึกผู้คนแทบจะยิ่งเบียดเสียดกันนั่น--

    --หล่อจนผมแทบลืมหายใจ...




    "สวัสดีครับ"


    โซ่กระเด้งตัวจากที่นั่งด้านซ้ายผมทันที อุบอิบทำสัญลักษณ์มือที่มันเข้าใจอยู่ฝ่ายเดียว ขยิบตาให้ผมทีแล้วถอยหลังออกจากร้านไป 


    เสียงเขาทุ้มน่าฟัง เป็นเสียงที่คงจะทำสาวๆต้องมนต์สะกดได้ไม่ยาก

    และปากผมก็กลับแห้งขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ



    "อ่า... สวัสดีครับ" ผมกล่าวตอบอย่างไม่แน่ใจ ยิ้มน้อยๆ เผื่อใจตัวเองว่าเขาอาจทักคนผิด หรือไม่ได้ตั้งใจจะคุยกับผม


    แต่ตาคู่นั้น


    เขาจ้องเหมือนผมเป็นเป้าหมายเขาอย่างชัดเจน



    "เพื่อนคุณกลับไปซะแล้ว" เขาหย่อนตัวนั่งลงแทนที่โซ่ราวกับนั่นเป็นที่ของเขามาแต่ต้น "น่าเสียดายนะครับ"

    แน่ละ แววตาหมอนี่ไม่มีความเสียดายสักนิด


    เขาวางแก้วที่ถือไว้ตอนทักผมบนบาร์​ เป็นค็อกเทลแก้วเล็กสีเข้มที่มีโฟมไปแล้วเกือบครึ่งแก้ว จนผมต้องแอบชำเลืองมองเดาสีน้ำในไฟสลัวของบาร์

    "หรือนั่นไม่ใช่เพื่อนคุณ" เขาพูดกึ่งปรารภกับตัวเอง "ก็ยิ่งน่าเสียดายหนักเข้าไปใหญ่"


    ท่าทางเขาแต่ละอย่าง คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบาร์งั้นหรอ


    เสื้อเชิ้ตขาว กางเกงแสล็คสีดำ ร่างสูงโปร่งและเรียวขาที่ดูยาวไม่สิ้นสุดนั่น


    ปากเขาแดงราวปาดน้ำเชอร์รี่ครึ่งโหลมา และดูท่านุ่มมากเสียด้วย



    ....


    ผมคงเริ่มเมาแล้วสิ



    "คุณ--อ่า--" ผมยกมือปัดอากาศด้านหน้าอย่างเก้อเขิน "รุ่นน้องผมครับ รุ่นน้อง"


    เขาแย้มยิ้มเป็นครั้งแรกให้เห็น เหมือนเด็กได้อมยิ้มรสถูกใจ แววตาค่อยๆ ดึงผมใกล้เขาไปทีละนิด



    (ผมไม่ได้เปรียบเทียบเกินเลยนะคุณ)



    "อะ โล่งอกไปที" เขากล่าว เอาฝ่ามือแทบอก ยื่นมืออีกข้างมาที่ผม


    "ผมเมฆนะครับ คุณ--"



    เจอกันครั้งแรกก็ขอจับมือเลยหรอ--

    ---เฮ้ย ไม่ใช่สิ!



    ไอ้เจ ไอ้คนใจง่าย!



    ผมจับมือเขาตอบ ยิ้มให้พลางภาวนาว่าคงไม่เป็นยิ้มที่เหยเกเกินไป

    "เจครับ" ผมพูด รู้สึกบอกไม่ถูกที่ต้องแนะนำตัวเองกับคนแปลกหน้าอีกครั้ง เหมือนกดข้ามเพลงเศร้ากระเง้ากระงอดไปจังหวะแรกของเพลงสดใสเกินเบอร์ของ TWICE ชอบกล


    ไม่รู้ว่าผมพร้อมสำหรับอะไรแบบนี้ในตอนนี้หรือยังนะ


    "คุณเจ--"


    ผมอาจจะเข้าข้างตัวเองเกินไป แต่ชื่อผมในเสียงผู้ชายที่เรียกตัวเองว่าเมฆนั้นเรียกร้องการเล่นมุก 'เทศกาลกินเจ' จริงจัง


    (โอ้ย พระเจ้า)



    "--น่ารักนะครับ ผมชอบ"



    ผมแทบจะสำลักเหล้าในคอ


    "อะ-- อะไรนะครับ"



    เขายิ้มอีก 

    "เขินหรอครับ" 


    เขินสิวะ! ใครเขาชมกัน จีบกันตรงๆแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงให้อารัมภบทแบบนี้!


    ที่แย่คือ ผมละสายตาจากเขาไม่ได้ ทั้งที่แก้มสองข้างนั้นสุกไปเรียบร้อยแล้ว


    "คุณเมฆว่าอะไรนะครับ"



    "ผมเป็นคนตรงๆน่ะครับ" เขาพูดต่อเรียบๆ ดูนิ่งเนิบกับหัวใจกระต่ายตื่นตูมของผม "ไม่ชอบเสียเวลาด้วย"

    เมฆายกแก้วขึ้นจิบ



    คนอะไร ทำอะไรก็น่าดู น่ามองไปหมด


    แล้วเขามาทำอะไรกับคนอย่างผม?!



    "ชอบอะไรก็บอกไป" เขามองผมอีกแล้ว ตรงขนาดผมรู้สึกอุ่นทั้งตัวใต้สายตาคู่นั้น


    แบบนี้ที่เขาเรียกกันว่าใจบางหรือเปล่า


    "ถ้าคุณเจไม่ชอบ ก็บอกผมตรงๆได้เหมือนกัน"



    จะให้ตอบประโยคแบบนั้นจากคนอย่างนี้อย่างไรดีละ



    "ผม--เอ่อ--" ผมเกาคอตัวเอง ประหม่าเหมือนไม่ได้เศร้าเรื่องหัวใจแตกหักครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา "เขินน่ะครับ"


    เขาเลียริมฝีปากตัวเอง


    "เข้าใจครับ" เมฆพยักหน้า "ผมก็รู้ ว่าคนไม่ค่อยชินกัน"



    "แต่ตั้งแต่ผมเห็นคุณเจ ผมคงนอนไม่หลับแน่คืนนี้ถ้าคุณไม่ตอบคำถามผมข้อนี้--"


    ผมทำตาโต

    ผม? คนอย่างผม? ผมไปทำอะไรให้เขาตั้งคำถามตอนไหน


    เขาแค่หาคนแก้เหงารายคืนหรือเปล่า ก็ไม่มีใครรู้



    "น่ารักอย่างนี้..." เขาถือวิสาสะเอาแก้วเขาชนแก้วบนบาร์ของผม "เป็นที่รักของใครหรือยังครับคุณ?"



    xxxxxxxx



    TBC.


    ไว้พาคุณเมฆมาทักทายอย่างเป็นทางการบทหน้านะคะ :)


    ขอบคุณที่สนใจ อ่าน และรีวิวนะคะ

    ชอบไม่ชอบยังไงความคิดเห็นและทุกกำลังใจของคุณมีค่าเสมอ

    x
    ข้าวเอง.

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in