บรรยากาศในยามค่ำคืนอันเงียบสงบ ช่างเหมาะสมกับการปลดปล่อยความคิดและล่องลอยไปในห้วงจินตนาการ
ความมืดสนิทชวนให้ดำดิ่ง จนไม่อาจที่จะหาทางออกได้หากไม่ค้นพบแสงสว่าง
หมู่ดาวที่ส่องแสงระยิบระยับอวดความสวยงามนั้นไม่อาจมากพอที่จะส่องแสงเพื่อชี้นำทาง
อย่างน้อยในค่ำคืนนี้ ก็คงจะมีเขาแล้วหนึ่งคนที่ต้องหาทางออกไปให้ได้จากวังวนแห่งนี้ ค่ำคืนอันแสนยาวนานซึ่งอยู่ในความรู้สึก
เจโน่ก็ไม่อาจคาดคิดได้เช่นกันว่าตัวเองจะผ่านมันไปเช่นไร ยิ่งยามที่สายลมพัดผ่านนำพาความหนาวเย็นมากระทบเข้ากับผิวกาย จนทำให้คนที่ยืนเกาะขอบระเบียงห้องอดไม่ได้ที่จะห่อตัวเข้าหาตัวเอง ก็ยิ่งทำให้เจโน่นั้นอยากจะค้นหาคำตอบให้ได้เสียจริง
“อึก..” เจ้าของผิวขาวน้ำนมซึ่งกำลังซบใบหน้าลงกับแขนข้างซ้ายของตัวเองร้องออกมาเสียงแผ่ว กลีบปากแดงช้ำจากการกระทำก่อนหน้าถึงกับขบกัดริมฝีปากตัวเองแน่น เมื่อใครอีกคนซึ่งซ้อนตัวอยู่ทางด้านหลังตัวเองนั้นหยัดตัวเข้าหาตัวเอง จนทำให้เจโน่แทบยืนไม่อยู่
ใบหน้ารูปงามที่ซ่อนความอ่อนหวานเฉกเช่นเด็กไร้เดียงสาขึ้นสีแดงก่ำ เนื่องจากเลือดที่สูบฉีดไปทั้งร่างกายซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนซึ่งกำลังพลุ่งพล่านไปทั่ว มือขาวที่ใครต่างชื่นชมว่าเรียวสวยนักหนา บีบขอบราวระเบียงแน่นเสียจนขึ้นข้อขาว รูปร่างสมบูรณ์แบบที่มีกล้ามเนื้อพอดีมือ คงไม่อาจสู้เอวบางที่คอดไปตามสรีระแท้จริงของร่างกาย
“หุ่นเธอแม่ง..” เสียงสบถจากเจ้าของเสียงทุ้มต่ำด้านหลัง ทำให้คนผิวขาวนั้นเอี้ยวใบหน้าเพื่อหันมามองใบหน้าอีกฝ่าย และภาพของนาแจมินที่สะท้อนในดวงตาทั้งสองข้างของลีเจโน่ ก็ช่างเป็นภาพที่ไม่อาจจะบรรยายได้
นาแจมินที่ใบหน้าปราศจากรอยยิ้มเมื่อยืนอยู่บนเวที.. รอยยิ้มหวานที่ชวนให้ใครหลายคนตกหลุมรัก หลงเหลือก็แต่เพียงใบหน้าคมเข้มและริมฝีปากที่ไร้ซึ่งการยกยิ้ม
นาแจมินในตอนที่อยู่กับคนอื่น กับนาแจมินที่อยู่กับลีเจโน่ มันช่างต่างกันราวกับเป็นหนังคนละม้วน
ลำคอแกร่งที่เชิดขึ้นเพราะห้วงอารมณ์ เป็นผลทำให้เจโน่สามารถเห็นเส้นเลือดบริเวณช่วงลำคอของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ลำคอที่เห็นลูกกระเดือกชัดเจนนั้นหยดพราวไปด้วยเหงื่อซึ่งไหลรินออกมาจากผิวเข้ม หากว่ายามปกตินั้นชัดเจนมากเท่าไหร่แล้ว ในยามนี้ก็คงต้องบอกได้เลยว่าเส้นเลือดที่ว่านั้นชัดเจนยิ่งกว่าครั้งไหน
แผ่นอกกว้างไล่มาจนถึงช่วงไหล่และต้นแขนซึ่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ล้วนเป็นผลมาจากการออกกำลังกายทั้งสิ้น โครงสร้างของร่างกายและกล้ามเนื้อที่เป็นใจกับการปั้นหุ่น ย่อมเป็นที่น่าสร้างความอิจฉาให้กับลีเจโน่ที่พยายามอย่างหนักไม่น้อย
เพราะในขณะที่ลีเจโน่เพียรพยายามมันมาแทบตาย แต่นาแจมินกลับได้ร่างกายที่สมบูรณ์นั้นในเวลาที่น้อยกว่า
“ชะ ช้า.. จะ แจม” มือนุ่มของคนผิวขาวที่เคยเกาะขอบระเบียงนั้นถูกส่งกลับไปดันช่วงหน้าท้องแกร่งที่ขึ้นอย่างชัดเจนของนาแจมิน ปลายนิ้วเรียวที่สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อแข็งแรงนั้น ยังคงสัมผัสได้ถึงเส้นเลือดซึ่งนูนเด่นไล่ตั้งแต่ช่วงวีไลน์ลงไปจนถึงส่วนนั้น เสียงกระท่อนกระแท่นของเจโน่เองก็พยายามจะเก็บเสียงของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
มันคงไม่ดีเท่าไหร่นัก หากการกระทำในครั้งนี้จะมีใครได้ยินเข้า..
“ถ้าช้ากว่านี้ เธอจะไม่แย่เอาหรอไง?” เป็นนาแจมินที่โน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูของคนตัวหอม ก่อนที่มือใหญ่นั้นจะคว้าเอาแขนขาวของคนที่ดันหน้าท้องของตัวเอง มากดทับไว้บนแผ่นหลังสวยของเจ้าตัว และนั่นก็เท่ากับว่าลีเจโน่เหลือเพียงแค่แขนข้างเดียวเท่านั้นที่ช่วยพยุงร่างกายของตัวเอง เพื่อรองรับคลื่นอารมณ์ที่กำลังซาซัดเข้าหาตัวเอง
ริมฝีปากช้ำเผยอรับจูบหนัก ๆ จากคนด้านหลังอีกครั้ง จวบจนเป็นนาแจมินเองที่ใช้แขนอีกข้างโอบรอบร่างกายของคนตรงหน้า เพื่อประคองไม่ให้ลีเจโน่นั้นล้มลงไปเสียก่อน จูบรสหวานที่ติดปลายลิ้นยิ่งเป็นอีกหนึ่งความเชื้อเชิญที่ทำให้แจมินนั้นอยากจะค้นหาความหวานจากริมฝีปากของลีเจโน่
“อ๊ะ อะ.. อย่า อึก คว้าน..” ทันทีที่นาแจมินถอนจูบออก คนตาสวยก็ร้องออกมาเสียงแหวทั้งที่ร่างกายขาวนั้นสั่นจนแทบบ้า คนผิวเข้มยกยิ้มทะเล้นให้กับเจโน่อีกครั้ง ก่อนที่สายตาของเจ้าตัวนั้นจะลากกลับมามองที่ส่วนนั้นของตัวเอง ซึ่งกำลังถูกร่างกายของอีกคนกลืนกิน
สะโพกกลมได้รูปที่รับกับช่วงขาเรียวในสภาพวับ ๆ แวม ๆ จากชายเสื้อที่ตกลงมาบนเนินเนื้อขาวนุ่ม
เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก นี่คงเป็นสองสิ่งในหลายสิ่งบนร่างกายของลีเจโน่ที่ชัดเจน จนไม่อาจละสายตาได้
เสียงเฉอะแฉะฟังดูลามกจากน้ำเหนียวหนืดที่ถูกนำมาใช้เป็นตัวหล่อลื่น เกิดขึ้นทุกครั้งยามที่นาแจมินขยับสะโพกเข้าหาก้นกลม จังหวะตอบรับที่เป็นไปตามการตอบสนองของร่างกายดูเข้ากันได้ดี จนคนผิวเข้มนั้นอยากจะบีบปากแดง ๆ ที่เอาแต่บ่นเข้าให้สักทีสองที
“เธอขยับเองนะ..” แต่ละถ้อยคำที่นาแจมินตอบกลับมา ยิ่งทำให้คนผิวขาวแดงก่ำตั้งแต่ใบหูจนลามมาถึงลำคอ
ช่องทางร้อนที่ตอดรัดแน่นเสียจนเป็นเจ้าของผิวเข้มเองที่อดสูดปากไม่ได้ ผนังนุ่มภายในของอีกฝ่ายกำลังทำให้นาแจมินแทบบ้า ความเข้ากันได้ดีของร่างกายจะโทษใครก็คงไม่ได้ จะโทษร่างกายของลีเจโน่ที่คับแน่นหรือจะโทษร่างกายของนาแจมินที่มากเกินไป เพราะต่อให้ไม่ตั้งใจขยับหรือบดคว้านอย่างที่เจ้าคนตัวขาวว่า ความรู้สึกพวกนั้นก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
“จะ แจม มะ ไม่ไหว” ในขณะที่คนผิวเข้มยังคงขยับสะโพกเข้าหาร่างกายอีกฝ่าย ก็กลับกลายเป็นว่าลีเจโน่นั้นทรุดฮวบลงไปนั่งคุกเข่าที่พื้นเพราะขาที่สั่นเทาของตัวเอง
“ไม่ดีมั้ง..” คนตาหวานเดาะลิ้นอย่างย่ามใจกับท่าทางที่เปลี่ยนไป หากจำไม่ผิด นาแจมินก็จำได้ว่าคนตัวขาวนั้นไม่ชอบใจสักเท่าไหร่กับเซ็กส์ในท่าทางแบบนี้ แต่สำหรับแจมินแล้วน่ะ.. นี่มันยิ่งกว่าสวรรค์เสียอีก
ท้องฟ้ามืดมนในยามค่ำคืนนี้ดูจวนเจียนจะระเบิดเต็มที เมื่ออารมณ์ของคนทั้งคู่นั้นเริ่มพุ่งสูงมากขึ้นจนยากที่จะหยุดยั้ง
เปลวไฟที่ลุกโชนโหมกระหน่ำ สายลมที่พัดผ่านยิ่งพัดกระพือ จนทำให้สะเก็ดไฟนั้นลุกลามจนกระจายเป็นวงกว้าง
และนั่นก็เปรียบได้ไม่ต่างจากเปลวไฟที่กำลังไล่ลามมาถึงนาแจมินและลีเจโน่ในตอนนี้
แม้จะถูกไฟเผาจนมอดไหม้ แต่มันก็ช่างเป็นความสุขที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาเทียบได้
สัมผัสที่สามารถเติมเต็มได้อย่างเต็มตื้นและอัดแน่น ร่างกายที่โอบกอดชวนให้ได้สัมผัสกันอย่างแนบแน่น คงเป็นทางออกสำหรับความมืดมิดในค่ำคืนนี้
แรงบดขยี้จากสรวงสวรรค์ ยังคงมีปลายทางที่เต็มไปด้วยแสงสว่างซึ่งรอคอยพวกเขาสองคนอยู่ในอีกไม่ช้า
ความฝันที่ล่องลอยซึ่งถูกกระชากกลับลงมาด้วยความเป็นจริง
ทำไมกันนะ?
ทำไมมันถึงทำให้มีความสุขได้มากขนาดนี้
“ก็เธอชอบนี่..”
บทจะตามใจกันขึ้นมาของลีเจโน่แบบนี้ ก็เล่นเอานาแจมินนั้นไม่สามารถควบคุมมุมปากของตัวเองไม่ให้ยกยิ้มได้ ดวงตาคู่สวยที่คลอหน่วงไปด้วยน้ำตาซึ่งหันมามองกัน ช่างชวนให้เข้าไปปลอบประโลมเสียจริง…
“แล้วจะให้เราไปไหนจากเธอได้วะ..”
Hastag #myjmn
Talk : สาธุบุญค่ะพรุ่งนี้สอบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in