เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
life with hospitalNewspaper_
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
  • ก่อนเวลาบนหน้าจอมือถือจะเปลี่ยนเป็นเลข 17.00
    จำได้ว่ายังนั่งดูซีรี่ย์จีนอยู่เลย ตอนที่นางเอกร้องเพลงงิ้วประมาณว่าพ่อไม่อยู่แล้ว เดี๋ยวนางดูแลแม่เองแล้วพ่อเข้ามาได้ยินพอดี ตลกมากขำเป็นนาทีแหน่ะขำนานมากจริงๆ 
    (ไม่ได้คิดเลยว่าอีกไม่กี่นาทีตัวเองจะได้นั่งร้องไห้)
    ดูอยู่สักพักก็หิวข้าว เลยคิดว่าออกไปซื้ออะไรมาไว้กิน รีบไปรีบกลับจะได้มาดูต่อ
    มือก็คว้ากระเป๋าสะพายแล้วก็เงิน 100 บาท ไป ส่วนมือถือชาร์จแบตอยู่เลยไม่ได้เอาออกไปด้วย

    ตอนแรกเดินอยู่ฝั่งซ้ายของถนนในซอย จะเปลี่ยนเลนไปทางขวาเพราะว่าจะได้เลี้ยวออกไปซื้อข้าวทางนั้นเลยไม่ต้องข้ามอีก มองขวามีรถมอเตอร์ไซด์สองคัน มองซ้ายไม่มีรถโอเค ทางขวารถหมดแล้วข้ามได้ คิดได้แบบนั้นก็ก้าวเลย สรุปยังมีรถอีกคันที่เราไม่เห็น... นั่นแหละจุดเริ่มต้นของ 
    "การโดนรถชน"  ภาพตัดไปที่ลงไปนั่งกองกับพื้นด้วยท่าโพสอันสวยงาม
    ขาขวาเหยียดตรง ขาซ้ายยกเข่าขึ้น อื้ม..ดีมากแต่โลเคชั่นเป็นกลางถนนในซอยหอนะ 

    มือถือไม่พก กระเป๋าตังค์ไม่เอาลงมา บัตรประชาชนเอย บัตรนิสิตเอย อยู่บนห้องหมด
    ไม่สามารถติดต่อใครได้ เยี่ยมเพิ่มความยุ่งยากเข้าไปอีก มีพี่ที่ดูแลหอเห็นเข้ามาช่วยเหลือ
    เบื้องต้นก็ทำแผลสด ตรงนิ้วโป้งเท้าซ้ายแสบไม่เท่าไรเพราะเจ็บข้อเท้ามากกว่า
    ไม่สามารถลงน้ำหนักที่เท้าขวาได้ ต้องโทรหาเพื่อนแน่นอนค่ะว่ายุคนี้จำอะไรไม่ได้
    มีข้อมูลอะไรอยู่ในมือถือหมด จำเบอร์เพื่อนไม่ได้ จำได้แต่เบอร์แม่ อยู่คนละจังหวัดกับแม่
    ไม่สามารถโทรไปหาแม่ได้แน่นอน ณ ตอนนั้น ต้องรบกวนพี่ที่หอขึ้นไปเอามือถือมาให้

    ห้องรกมาก ถ้าจำกัดความของคำว่า รก มีอยู่ 10 ระดับ ห้องเรารกระดับ 9
    วางของทุกอย่างพวก หนังสือ กระเป๋า เสื้อผ้า บนเตียง 6 ฟุต จนมีที่ให้นอนได้เพียงคนเดียว
    ที่เหลือคือ ของกองไว้หมด กระเป๋าตังค์อยู่บนนั้น หรือเรียกได้ว่า ในกองนั้นต้องเขี่ยหาถึงจะเจอ
    แน่นอนว่าพี่หอไม่มีทางเจอกระเป๋าตังค์เราอย่างแน่นอน (ไม่มีหน้ามองหน้าพี่ที่หอแล้วกับสภาพห้อง)

    จึงได้แต่มือถือมา เรารีบโทรหาเพื่อนว่าโดนรถชนมีเงินติดตัวอยู่ร้อยเดียว ให้เพื่อนมาหาหน่อย
    เพื่อนขี่รถป๊อป มาด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้กว่าจะหากระเป๋า หาบัตร ก็ปาไปเกือบ 40 นาที
    ถึงได้ไปโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย 

    หลังจากนั้นก็พึ่งคิดกันได้ว่าควรไปที่โรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยให้เพื่อนขึ้นไปหาของให้จะได้ไม่ต้องรอ
    แต่กว่าคิดกันได้ก็ตอนที่ได้คำสั่งของคุณหมอให้นอนแอดมิทแล้วนั่นแหละค่ะ 

    ต่อไปนี้ก่อนจะออกจากบ้าน หรือจะออกไปไหนจะพก 2 อย่างนี้ กระเป๋าตังค์ และ มือถือ แน่นอนจะไม่ทำให้ให้ใครต้องเดือดร้อนในการค้นหาของอีกแล้ว งงกับตัวเองเหมือนกันว่าเออเอากระเป๋าสะพายไปใส่เงินร้อยเดียวนะ แต่อย่างอื่นไม่มีอะไรไปเลยเพราะคิดว่าจะไปแป๊ปเดียว

    ปล.กว่าจะได้มาเขียนลงเหตุการณ์ก็ผ่านมาได้เดือนนึงแล้ว  รออารมณ์ รอจิตใจดีขึ้นเลยได้มาเขียนเล่าสู่กันฟัง :)



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in