เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
THE EXPLORER STORYTHEEXPLORER
ไม่ต้องใส่ถุง

  • (1)

    "ไม่ต้องใส่ถุงนะพี่"

    สิ้นเสียงถ้อยคำในประโยคสุดท้ายก่อนที่ผมจะเดินออกจากร้านสะดวกซื้อ ในอุ้งมือยังคงกำสิ่งของสะดวกใจที่จะถือมากกว่าการเอาถุงพลาสติกมาห่อหุ้มมันไว้ สิ่งของชิ้นเล็กๆที่เราสามารถช่วยลดต้นทุนเล็กๆน้อยๆของร้านค้า อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณเม็ดพลาสติกที่ยังคงเพิ่มผลิตผลเป็นเท่าตัวในยุคปัจจุบัน ถุงพลาสติกที่ใครหลายคนเห็นเป็นแค่เพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆของตัวเอง แต่มันดันส่งผลกระทบไปถึงโลกใบใหญ่ที่เราได้ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ร่วมกัน

    ในสายตาของนักธุรกิจ ปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ย่อมส่งผลดีต่อผลกำไรในการดำเนินงานของบริษัท ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนคือผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในตลาดโลก ซึ่งถือเป็นอัตราส่วน 20 เปอร์เซนต์ และอีก 20 เปอร์เซนต์เป็นของผู้ผลิตจากกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยได้ครองแชมป์การใช้พลาสติกสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยปริมาณ 40 กิโลกรัมต่อปีต่อคน

    หลากหลายความเคยชินจูงใจให้เราเสพติดการใช้ถุงพลาสติกทุกครั้งที่จ่ายเงินแลกกับสิ่งของ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากซื้อสินค้าเสร็จสิ้นแล้วเราก็ทิ้งบรรจุภัณฑ์เหล่านั้นได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงในใจ ไม่ให้คุณค่าเพราะว่ามันไร้ค่า หรือเราต่างหากที่ตีค่าของบรรจุภัณฑ์ชิ้นนี้ให้ต่ำตมจนเกินไป

    ในห่วงโซ่การเดินทางของถุงพลาสติกนั้นต้องใช้เวลาในการผลิตและย่อยสลายเป็นแรมเดือนแรมปี ในขณะที่ผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆก็แค่ถือมันมาแล้วก็หย่อนมันถึงลงไปในถังขยะทุกๆวัน 

    นี่อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่เราละเลยและไม่เคยหวาดระแวงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ที่จะตามมาเป็นลูกโซ่ เราต่างเพียงแแค่รอว่าสักวันหนึ่งขยะมากมายจะล้นเมือง แล้วค่อยกลับมาวางแผนการเพื่อป้องกัน 

    (2)
    ในสายตาของเรามันอาจเป็นแค่ "ถุงพลาสติก" ในขณะที่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมกำลังมองเห็นว่ามันคือผลกระทบอันใหญ่หลวงในวันข้างหน้า ทุกชนทุกชาติต่างระดมสมองกันหาไอเดียมาเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันให้ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่นในประเทศฮ่องกงหรือประเทศไต้หวัน ได้นำไอเดียการเก็บเงินค่าถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อหากผู้ซื้อไม่ได้นำถุงมาเอง เพื่อให้นักจับจ่ายใช้สอยมองเห็นมูลค่าของบรรจุภัณฑ์และตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกัน 

    ในประเทศเราก็ใช่ว่าจะน้อยหน้า หากเราคงเคยได้ยินแคมเปญ “ซื้อของชิ้นเล็กไม่รับถุงพลาสติก” จากร้านสะดวกซื้อแถวบ้านกันมาช่วงระยะหนึ่ง หากเป้าหมายของโครงการจะได้ผลดีและสร้างจิตสำนึกให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง แคมเปญนี้ควรจะยั่งยืนและถูกสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ให้มากกว่าการให้ผู้บริโภคได้แต่มองเห็นแคมเปญและโปรโมชั่นแลกซื้อเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าที่เกินความจำเป็น 

    ไอเดียมากมายที่หลากหลายประเทศได้ส่งตรงไปถึงผู้บริโภค ถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดี ที่เราต่างต้องตระหนักถึงผลกระทบส่วนรวมในอนาคตด้วยกัน เราอาจไม่ได้หวังผลว่าสิ่งแวดล้อมจะดีขึ้นในเร็ววัน หรือสภาวะโลกร้อนจะหมดลงในวันข้างหน้า แค่อย่างน้อยเราก็ยังมีส่วนสร้างสรรค์และช่วยชะลออายุของโลกของเราให้แก่ลูกหลานที่กำลังจะคลานตามกันออกมา

    เรามีสิทธิที่จะมองต่าง หากเห็นว่าการลดการใช้ถุงพลาสติกในชีวิตประจำวัน จะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของการรณรงค์ว่า "รักษ์โลก" ที่ไม่อาจส่งผลกระทบกระเทือนไปทั้งดวงดาว 

    หากเราต้องดั้นด้นรวมกลุ่มกันดำน้ำไปเก็บถุงพลาสติกที่ล่องลอยอยู่ใต้ผืนมหาสมุทรอย่างนั้นรือ เราต้องชักชวนอาสาสมัครไปเก็บขยะกันที่ชายหาด แล้วถ่ายรูปป่าวร้องให้คนทั้งโลกได้เห็นกันแบบนั้นหรือไม่ บางทีการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆด้วยพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของตัวเอง อาจง่ายดายเสียกว่าการรวบรวมสมาชิกเข้ากลุ่ม หรือสร้างกิจกรรมขึ้นมาเพื่อให้คนมากมายเพิ่งจะเริ่มตระหนักถึงผลกระทบของบรรจุภัณฑ์

    (3)
    วันที่ 3 กรกฎาคมของทุกปีถูกกำหนดให้เป็นวันปลอดถุงพลาสติกสากล "international plastic bag free day" เพื่อให้ทุกคนเพิ่มความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก และลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก ที่ต้องใช้เวลาถึง 100-500 ปี

    ผมผ่านสี่แยกที่ติดป้ายรณรงค์ให้ผู้คนเอาถุงผ้าออกมาใช้ บางร้านค้าติดแคมเปญลดราคาเครื่องดื่มหากนำแก้วมาเอง ทุกอย่างดูดีหมดแถมผู้คนก็ใส่ใจที่จะปฎิบัติตามอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ ผมได้แต่หวังว่ามันจะไม่ใช่แค่วันเดียวที่เราจะเริ่มตระหนักถึงปัญหา 

    หากวันพรุ่งนี้จะไม่มีแคมเปญดึงดูดใจแบบนี้แล้ว เราจะยังใส่ใจกับปัญหาถุงพลาสติกกันอยู่หรือไม่ อยากให้ลองถามใจตัวเองดู
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in