เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Movie Review | ดูแล้วมาเล่าtortuewaii
[Review (มั้ง)] The Zookeeper's Wife | ฝ่าสงคราม กรงสมรภูมิ (5/10)



  • พอได้รู้ว่าหนังเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไร เราก็อยากดูมากกกกกกถึงมากที่สุด แต่รอบมีน้อยมากกกกกกตะเกียดตะกายหาแทบตายกว่าจะได้ดูสมใจ แต่ก็นะ...

    ผิดหวังค่ะ

    สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี 1939 กองทัพนาซีรุกคืบเข้าสู่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์เพื่อทำการกวาดล้างชาวยิวอย่างต่อเนื่อง สวนสัตว์ที่แอนโตนีนา (เจสสิก้า แชสเทน) และยาน ซาร์บินสกา (โยฮาน เฮลเดนเบิร์ก) เป็นเจ้าของก็ถูกทิ้งระเบิดใส่และถูกกองทัพเยอรมันยึดครองและสั่งให้มอบสัตว์ในการดูแลให้กับลุตซ์ เฮ็ค (แดเนียล บรูห์ล) นักดูแลสัตว์ของทัพนาซีเอาไปดูแลต่อ ครอบครัวซาร์บินสกาไม่ได้ยินดีกับการมาของทหารเลยและไม่ได้ชอบใจเลยสักนิดที่ได้เห็นนาซีกวาดต้อนชาวยิวออกจากบ้านให้ไปอยู่กันอย่างแออัดในค่ายกักกัน (ชาวยิวจะต้องใส่ปลอกแขนรูปดาวแห่งเดวิด ซึ่งเป็นรูปสามเหลี่ยมซ้อนกันสองรูปเป็นดาวหกแฉกจะได้แยกออก) เพราะพวกเขาก็มีเพื่อนที่เป็นชาวยิวด้วยเหมือนกัน

    เรื่องทั้งหมดเริ่มจากการที่แอนโตนีนาอยากจะให้เพื่อนของเธอซึ่งเป็นชาวยิวมาซ่อนตัวอยู่ในบ้านเพราะมีช่องทางลับในชั้นใต้ดินที่สามารถแอบซ่อนคนเอาไว้ได้โดยที่ไม่มีใครรู้ และหลังจากนั้นยานก็เข้าร่วมกับกองกำลังต่อต้านโดยบอกกับลุตซ์ เฮ็คว่าอยากจะเปลี่ยนสวนสัตว์เป็นฟาร์มเลี้ยงหมูและใช้เศษอาหารที่เหลือจากค่ายกักกันชาวยิวมาเป็นอาหารหมู เฮ็คเห็นดีด้วยเลยอนุญาต ซึ่งนั่นเป็นการเปิดทางให้ยานได้ขับรถเข้าไปในค่ายกักกันและนำชาวยิวจำนวนหนึ่งออกมาโดยซ่อนตัวอยู่ใต้บรรดาเศษอาหาร ให้ที่พักพิงอยู่ที่บ้านของเขาในสวนสัตว์ก่อนจะคนจากกลุ่มต่อต้านจะมารับช่วงต่อเพื่อให้พวกเขาได้หลบหนีออกไปจากวอร์ซอ

    หนังจะบอกเล่าเรื่องราวประมาณนี้ค่ะ เวลาในเรื่องจะดำเนินไปอยู่หลายปีจนกระทั่งรัสเซียเข้ามาไล่เยอรมันกลับไปและเป็นฝ่ายเข้ายึดวอร์ซอเอาไว้เสียเอง ซึ่งค่ายกักกันที่เห็นในเรื่องนี้จะเป็นค่ายแรกสุด กักเอาไว้นานหลายปีก่อนที่จะส่งไปที่ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ ซึ่งเป็นค่ายกักกันนรกที่มีการสังหารหมู่ชาวยิว ยิปซีและนักโทษอื่นๆ กว่าล้านคน

    เราคิดว่าหนังมันเบาไปค่ะ มันควรที่จะหมดกว่านี้ หดหู่กว่านี้ ทำให้เห็นถึงความโหดร้ายของทหารนาซีที่มีต่อชาวยิว และความยากลำบากในการหลบหนีออกมา เราว่าหนังมันยังไปได้ไกลกว่านี้ค่ะ เพราะนี่ขนาดเรารู้ประวัติศาสตร์และสิ่งที่ฮิตเลอร์กับนาซีได้ทำเอาไว้ดีพอสมควรเลยนะ แต่พอดูแล้วเราก็เฉยๆ อ่ะค่ะ ไม่ได้อินอะไรเท่าไหร่ มีฉากที่ชวนลุ้นว่าจะหนีรอดมั้ยอยู่แค่ซีนเดียวเองมั้ง นอกนั้นก็ธรรมดา

    ด้วยความที่นี่เป็นเรื่องของคนโปแลนด์ ภาษาอังกฤษในเรื่องนี้ก็จะค่อนข้างติดสำเนียงซะเยอะ ฟังยาก ฟังไม่ออก อ่านซับเอาอย่างเดียว ซึ่งเจสสิก้า แชสเทนก็เล่นได้เนียนมากจนเราเผลอลืมไปแป๊บนึงว่าเธอเป็นคนอเมริกา แต่คนเยอรมันแท้ๆ ที่รับบทเยอรมันอย่างแดเนียล บรูห์ลกลับพูดอังกฤษซะชัดแบบไม่มีสำเนียงติดเลย... อันนี้แค่เอามาแซวขำๆ ไม่ได้จะว่าอะไร แอคติ้งของทั้งคู่ดีงามตามเนื้อผ้าค่ะ 5555

    อย่างเดียวที่เราจะติก็คงเป็นเรื่องบทเนี่ยแหละค่ะ ทำเอาเราเฉยได้นี่ก็อาการหนักอยู่นะ อย่างเดียวที่เราชอบคือตอนช่วงก่อนจบที่บอกเล่าว่าตลอดเวลาที่ทำการช่วยเหลืออย่างลับๆ ครอบครัวซาร์บินสกีสามารถให้ชาวยิวหนีรอดไปได้ถึงสามร้อย อันนี้ทำเอาอึ้งเลยค่ะ เพราะถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ หนังมันไม่ได้ให้เราเห็นภาพถึงขนาดนั้น

    สรุปสั้น... เรื่องนี้ไม่เชียร์ค่ะ แต่ถ้าใครอยากลองสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง อันนี้ก็แล้วแต่ตามสะดวก คุณอาจจะชอบก็ได้นะ ใครจะไปรู้ ;)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in