เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#wirunfica week before valentine
WISH (UshiOi / Haikyuu)
  • Fan Fiction Haikyuu! 


    Ushijima Wakatoshi x Oikawa Tooru













    WISH













    ในโลกใบนี้ มีสิ่งที่ไม่มีวันคว้ามาเป็นของตัวเองได้อยู่















    ลูกแก้วแวววาวบรรจุอยู่เต็มขวดโหลใส เด็กชายเคาะข้างขวดด้วยความสนใจ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายพราวไม่ต่างกับประกายแสงที่สะท้อนออกมาจากลูกกลม ๆ ด้านใน



    “สวยใช่ไหมล่ะ? โทโอรุ”



    ผู้เป็นแม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่โทโอรุยิ้มกว้างรับพร้อมกับพยักหน้า เด็กชายกอดขวดโหลไว้แน่น ฟังเสียงของลูกกลม ๆ ที่กระทบข้างขวด



    “รู้ไหมว่าเราอธิษฐานกับลูกแก้วได้ด้วยนะ”



    คุณแม่หยิบลูกแก้วออกมาจากโหลสามลูก ขณะที่บุตรชายยังจับจ้องลูกกลมใสที่มารดายกให้แสงไฟส่องผ่าน



    “หนึ่งลูกต่อหนึ่งคำอธิษฐาน และคำอธิษฐานที่อยากให้เป็นจริงที่สุดก็เอาไว้ลูกสุดท้าย”



    หญิงสาวพึมพำกับลูกแก้วเสียงแผ่วพร้อมกับหลับตา จากนั้นก็นำมันหย่อนใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ



    “เสร็จแล้วก็พกไว้กับตัวแบบนี้ แล้วคำอธิษฐานจะเป็นจริง”



    คำพูดนั้นเรียกประกายจากนัยน์ตากลมโตของเด็กชายได้เท่าตัว โทโอรุวางขวดโหลลงพร้อมกับควานหยิบลูกแก้วขึ้นมาสามลูก



    เขาจะอธิษฐานว่าอะไรดีนะ



    ลูกแก้วลูกแรก... ขอให้ได้อยู่กับอิวะจังไปนาน ๆ



    ลูกแก้วลูกที่สอง... ขอให้ได้เล่นวอลเลย์บอลตลอดไป



    ส่วนลูกแก้วลูกสุดท้าย...







    อัจฉริยะน่ะ น่ารังเกียจ



    ไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย เพียงแค่อยู่เฉย ๆ อยากทำอะไรก็ทำ ทุกอย่างก็ดูง่ายดายไปเสียหมด



    ถ้าอย่างนั้น แล้วความพยายามของคนธรรมดาล่ะ จะเสียเปล่างั้นหรือ?



    สิ่งที่เขาเพียรฝึกฝนอยู่ทุกวัน กลายเป็นของไร้ค่า เมื่ออยู่ต่อหน้า ‘พรสวรรค์’ ที่ไม่มีวันเอาชนะได้งั้นหรือ?







    โออิคาวะไม่รู้ว่าทำไมตนเองต้องคิดเรื่องพวกนี้ซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำเติมตัวเองอยู่ร่ำไป ราวกับต้องการทำให้ตัวเองรู้สึกถึงโลกความเป็นจริง



    เขาแพ้อีกแล้ว



    แพ้ให้กับชิราโทริซาวะ



    แพ้ให้กับอุชิจิมะ วากะโทชิ อีกแล้ว



    นี่ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ครั้งแรก แต่เพราะอย่างนั้น... นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนเราจะชินชากันได้เสียเมื่อไหร่ ความพ่ายแพ้ครั้งแรกอาจหมายถึงความไม่พร้อม ครั้งที่สองอาจเป็นความผิดพลาด แต่นี่ไม่ใช่สองครั้งแรก



    นี่คือความอ่อนแอ



    ความอ่อนแอที่ไม่อาจก้าวข้ามกำแพงสูงนั้นไปได้



    “ฉันขอตัวก่อน อิวะจังกลับไปกับพวกโค้ชเลยนะ”



    เขาเอ่ยขอแยกตัวออกมา ทิ้งความไม่สบายใจไว้กับสมาชิกในทีม



    อิวะจังคงคิดว่าเขาจะทำอะไรโง่ ๆ อีกแน่



    เด็กหนุ่มเผลอถอนหายใจ ก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกถึงอะไรที่ขวางทางตนอยู่



    “…นายมาขวางฉันทำไม”



    บนระเบียงทางเดินข้างโรงยิม อุชิจิมะ วากะโทชิ ยืนอยู่ตรงหน้าเขา



    นัยน์ตาสีนิลทอดมองมา ด้วยความสูงที่ค่อนข้างต่างกันทำให้รู้สึกเหมือนโดนมองเหยียดจากที่สูง โออิคาวะไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เอาเสียเลย เขาขยับตัวอย่างอึดอัด



    “ขยับหน่อย ฉันจะเดินไปทางนั้น”



    “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”



    “แต่ฉันไม่มี”



    เขาสวนกลับโดยไม่ต้องคิด หมอนี่จะมาอยากคุยอะไรกับคนที่เพิ่งแข่งตัดสินแพ้ชนะกันมา



    “เมื่อกี้เป็นการแข่งที่ดี”



    อุชิจิมะพูดต่อทันที มองเมินคำปฏิเสธของเขา



    “เหอะ? ดียังไงไม่ทราบ”



    อีกฝ่ายยักไหล่ “มันดีสำหรับฉัน และฉันคิดว่ามันน่าจะทำให้นายคิดอะไรได้มากขึ้นด้วย”



    “อะไรล่ะ?”



    “นายเป็นเซตเตอร์ที่มีฝีมือมาก โออิคาวะ”



    คำชมตรง ๆ พาให้คิ้วกระตุก “หมายความว่ายังไง”



    “นายเป็นศูนย์กลางของคนในทีม เซย์โจผ่านมาถึงรอบนี้ได้ก็เพราะนาย”



    “ก็แล้วยังไงล่ะ”



    อุชิจิมะนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแผ่วเบา น้ำเสียงเรียบ ๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง



    “นายเก่งเกินกว่าที่จะอยู่ที่เซย์โจ”



    “คิดเองเออเอง ตัดสินเอง เพิ่งรู้ว่านายเป็นคนแบบนี้นะ”



    “มาอยู่ชิราโทริซาวะเถอะ”



    “……………….อะไรนะ?”



    โออิคาวะรู้สึกเหมือนตัวเองเผลอก้าวถอยหลังออกไปด้วยความตกใจ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างอย่างไม่คาดคิด



    แต่อุชิจิมะเพียงย้ำประโยคเดิม “มาอยู่กับฉัน”



    “พูดบ้าอะไรของนาย อุชิวากะจัง”



    “ฝีมือนายดีเกินกว่าที่จะหยุดอยู่แค่ที่เซย์โจ”



    คำพูดที่พาให้เส้นประสาททั้งร่างกระตุก ราวกับได้ยินเสียงเส้นความอดทนที่ขาดผึง โออิคาวะตอกกลับอีกฝ่ายเสียงแข็ง



    “นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนั้น?”



    “…”



    “คนอย่างนาย จะมาเข้าใจอะไรความพยายามของพวกฉันกัน”



    ทั้งหมด ความพยายามทั้งหมดที่พวกเขาร่วมทำด้วยกันมา คนอย่างอุชิวากะจังไม่มีวันเข้าใจหรอก



    ความพ่ายแพ้ที่หนักอึ้ง กดทับจนร่างราวกับจะแหลกสลาย ก่อนจะถูกดึงรั้งให้กลับมาเผชิญกับความเป็นจริงอีกครั้ง ความสนุกสนานของช่วงเวลาแห่งความพยายาม รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความหวังที่จุดขึ้นในจิตใจของทุกคน



    ทั้งหมดถูกทำลายลงอีกครั้ง และกำลังจะก่อร่างสร้างตัวใหม่ด้วยพลังของทุกคน



    แต่หมอนี่กลับมาพูดเหมือนทุกอย่างนั้นไม่มีความหมาย



    “นายก็มองแค่ชัยชนะเท่านั้น”



    อุชิจิมะชะงัก ก่อนจะพูดออกมา



    “ก็แล้วถ้าไม่ชนะ จะมีความหมายอะไรล่ะ?”



    “…นาย!”



    “เพราะสุดท้าย คนที่จะยืนอยู่บนสนามได้นานที่สุด ก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่หรือไง”



    ความจริงเอื้อนเอ่ยออกจากปากของอีกฝ่ายอย่างเรียบง่าย



    ความจริงอันหนักอึ้ง ที่พาให้คนฟังเผลอกัดริมฝีปากจนเจ็บ



    โออิคาวะหันขวับเดินหนีออกจากตรงนั้นทันที ไม่สนใจเสียงเรียกของอีกฝ่ายที่ดังไล่หลังมา เด็กหนุ่มซุกมือไว้ในกระเป๋าเสื้อวอร์ม สัมผัสความเย็นเฉียบและผิวเรียบมันของสิ่งซึ่งเขาพกติดตัวไว้ตลอดตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ



    ลูกแก้วที่เปี่ยมด้วยคำอธิษฐาน



    ลูกหนึ่งคือคำอธิษฐานแด่เพื่อน



    ลูกหนึ่งคือคำอธิษฐานแด่สิ่งที่รัก



    อีกลูกหนึ่ง...



    โออิคาวะจำได้ว่า คำอธิษฐานของลูกแก้วลูกสุดท้ายนั้น เขาคิดได้ตอนที่เข้าเรียนที่คิตากาวะไดจิ



    มันเป็นคำอธิษฐานที่เรียบง่าย ทว่าในวันนี้ คำอธิษฐานของเขาก็ยังไม่เป็นจริง



    เด็กหนุ่มหวนนึกถึงความคิดคำนึงของตนเองในเวลานั้น






    ขอให้พวกเขาเป็นผู้ที่ยืนอยู่บนสนามได้นานที่สุด





    FIN

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in