เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เนี่ยวอ๋งกับกิ้มกิ้ม
Day 4 : Handy
  • 959 words

    #เนี่ยวอ๋งกับกิ้ม

    note : ด้วยรักและ 70s ค่ะ *วิ้งค์*





                องซองอูเดินเข้าไปในบาร์ พร้อมกับความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในอก

                เขาคิดว่าจะเอามันมาทิ้งไว้ที่นี่

     

                “รับเป็นอะไรดีครับ”

                “Guinness หนึ่งขวด”

                เบียร์สเตาท์ยี่ห้อดังถูกเทลงในแก้วพร้อมดื่มสำหรับเขา ซองอูไม่ลังเลที่จะหยิบมันขึ้นมาชะโลมความรวดร้าว

                ในบาร์เปิดเพลงคลาสสิก ฟลอร์เต้นรำมีชายหนุ่มกับหญิงสาวจับคู่กันเต้นตามจังหวะเพลง เนิบนาบ จนเขาหงุดหงิด

                “วันนี้คุณดูเครียดนิดหน่อยนะ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยปากทักเขาหันไปมอง แล้วยักไหล่เป็นคำตอบ

                “ผมทำงานมาหลายครั้งแล้ว หน้าตาแบบนี้ก็มีอยู่สองประเภท”

                “ไม่เครียด – ก็โดนหักอก”

                “ผมอยากดื่มเงียบๆ ขอโทษที” เขาพูด

                เด็กหนุ่มหลังบาร์รีบค้อมตัวทันทีเพื่อขอโทษที่รบกวนบรรยากาศของเขา แต่องซองอูไม่ได้ถือสาอะไรนัก

                องซองอูเหม่อลอยอย่างที่ไม่เคยเป็น วันนี้ความเจ็บปวดกัดกินเขา และน่าหงุดหงิดที่เขาต้องมารู้สึกโหวงเหวงแบบนี้

                เขาในวัยสามสิบสองควรจะได้เจอกับผู้หญิงที่ดีสักคนแล้วเดินจับมือเธอไปจนกระทั่งบั้นปลายชีวิต ซองอูคิดว่าเขาเจอแล้ว แต่กลับไม่ใช่ –

                เธออีกคนที่รับหัวใจเขาไว้ ขยี้มันจนแหลกด้วยการควงผู้ชายอีกคนมาบอกเลิกเขา

                เธอใจร้าย

                นาทีนั้นเขาเหมือนถูกทุบด้วยค้อนปอนด์เต้าใหญ่ ภาพในหัวขาวโพลนไปหลายวินาที เขาคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร จนกระทั่งเธอก้าวเท้าออกไปจากที่แห่งนั้น องซองอูถึงได้ทรุดลงไปกองกับพื้น

                ใช่ – น่าสมเพชสุดๆ ไปเลย

     

                “ครับ สวัสดีทุกๆ คน ด้วย วันนี้เป็นคิวของผม” เสียงของนักดนตรีบนเวทีทำให้เขารู้สึกตัว

                “คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเลยนะครับ”

                เด็กคนนั้นดูอายุน้อยกว่าเขา ประมาณเด็กมหาลัยอะไรอย่างนั้น –ซองอูไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด

                “คุณขอเพลงได้ แต่ไม่แน่ใจว่าผมจะร้องให้ได้ไหม” เพียงประโยคเดียวกับเสียงหัวเราะก็ทำให้คนทั้งร้านอมยิ้มได้ไม่ยาก เว้นแต่เขา

                “บางคนที่ยังไม่ยิ้ม ช่วยฟังเพลงของผมต่อจากนี้แล้วตัดสินใจไหมเถอะครับ”

                “บังคับกันกลายๆ เลยนี่หว่า” ซองอูพึมพำแล้วยกเบียร์ขึ้นดื่ม

                GUINNESS ขวดแรกหมดไปแล้ว เขากำลังดื่มขวดที่สอง

                และเสียงนุ่มๆบนเวทีกำลังแทรกแซงเข้ามาในโสตประสาท เคล้าไปกับความนุ่มของเบียร์

                ละมุนเป็นบ้า–

                To love somebody ในเวอร์ชั่นของ Michael Bubble ถูกบรรเลงด้วยวงดนตรีวงนั้นพร้อมกับเสียงร้องที่สะกดให้ตกอยู่ในภวังค์

                เด็กหนุ่มคนนั้นเกากีตาร์ในอ้อมแขนอย่างเป็นธรรมชาติ เขาเงยหน้าขึ้นมามองลูกค้าบ้าง สลับกับดีดมัน ซองอูไม่เคยฟังคนๆ นั้นร้องเพลงมาก่อน แต่ต้องยอมรับว่าเด็กนั่นมีเสน่ห์ตอนที่กำลังทำท่าทางแบบนั้น

                เพลงรักถูกเล่นไปเรื่อยๆแต่วันนี้เขาเข้าไม่ถึงอารมณ์ เพราะปวดใจกับเธอคนนั้นเกินจะทน

                องซองอูทนไม่ไหว เขาเรียกให้เด็กเสิร์ฟคนหนึ่งเข้ามาใกล้กระซิบอะไรบางอย่าง แล้วยัดเงินใส่มือไป  

                ส่วนหนึ่งเป็นของเด็กเสิร์ฟ และอีกส่วนเป็นของคนบนเวที

                ซองอูยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอีกรอบ Guinness ยังเหลืออีกครึ่งขวด ให้เขารอฟังเสียงของเด็กคนนั้น

                “มีคนขอเพลงด้วย ขอบคุณมากครับ ที่คิดว่าผมจะร้องได้”

                “พูดมาก” เขาบ่น 

                “คุณคนที่ขอวันนี้ ผมรับจ้างเป็น Handyman ตามความต้องการแล้วนะครับ” เด็กคนนั้นโปรยยิ้ม เหมือนหว่านแหจับปลา แล้วปลาพวกนั้นก็ติดกับกันเป็นแถว – เขาก็ด้วย

                “Hey girls” เขาหลับตาเกากีตาร์ ซองอูเลิกคิ้วเมื่อเด็กคนนั้นหยุดร้อง “or boys?”

                “เหอะ” ชายหนุ่มหัวเราะ

     

                listen to what I'm putting down.

                Hey babe, I'm your handy man.

               

                ไม่ผิดจากที่หวังไว้ เบียร์นุ่มกว่าเดิมด้วยเสียงของเด็กคนนั้น เขาอยากทิ้งตัวลงนอนบนฟูกเสียเดี๋ยวนี้เลย

     

                I'm not the kind to use a pencil or rule, I'm handy with love and I'm no fool.

                “I fix broken hearts.” เสียงกีตาร์หยุดไปอีกครั้ง เด็กคนนั้นปล่อยมือจากกีตาร์ เขาจับไมค์ไว้ แล้วเงยหน้ามามองผู้ฟัง ไอ้หนุ่มบนเวทีสบตาลูกค้าในบาร์แทบทุกคน แล้วค้างมันไว้ที่เขา

                “I know that I truly can.” ไม่มีเสียงกีตาร์ มีเพียงแค่เสียงนุ่มๆของเด็กคนนั้นกับสายตาที่จ้องมาที่เขา — รู้มากเสียจริง

     

                 If your broken heart should need repair, then I'm the man to see.

               

                I fix broken hearts, I know that I truly can.

     

                Handyman จบไปแล้วกับ Guinness ที่ยังเหลืออยู่นิดหน่อย แต่เขาไม่คิดจะดื่มต่อ ซองอูเช็คบิล แล้วฝากอะไรสักอย่างไว้กับบาร์เทนเดอร์ให้เด็กหนุ่มคนนั้น

               ‘ขอบคุณสำหรับ Handyman’  พร้อมกับเงินสดจำนวนหนึ่ง

                อย่างน้อยนายสารพัดประโยชน์บนเวทีก็ซ่อมหัวใจเขาไปได้นิดหน่อย ด้วยเสียงนุ่มๆ นั่น

                ไม่คิดว่าคนแบบนั้นจะเคยฟังเพลงเก่ากึกเหมือนเขา

                หลังจากนี้เขาอาจจะมาฟัง Handyman ที่บาร์บ่อยๆ เพราะเสียงของเด็กคนนั้น

            

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
aingnaa (@aingnaa)
นอกจาก fictober ไรท์เขียน SF หรือฟิคยาวของเนียลองอีกไหมคะ เราอยากตามไปอ่าน
ป.ล. ประทับใจความนุ่มของตอนนี้ อ่านไปฟังเพลงไปฮีลลิ่งหัวใจมาก ๆ
กิ้ม (@heymckerel)
@aingnaa ฟิคยาวยังไม่มีแพลนเลยค่ะ 555 แต่ถ้าเป็นเรื่องสั้นอาจจะเปิดบทความลงในเด็กดีค่า กลัวจะแต่งไม่ทันเพราะตีกับ fictober นี่แหละค่ะ 555